เมื่อวานนี้ผมเขียนถึงข่าวที่เกี่ยวกับยอดเงินหมุนเวียนหรือค่าใช้จ่ายทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นในช่วงเลือกตั้งทั่วไปของประเทศไทยครั้งหน้า ที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยประมาณการว่าจะสูงถึง 40,000-50,000 ล้านบาท
เมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์หลายฉบับ พาดหัวข่าวว่า “พี่น้อง 3 ป.” ที่แตกออกมา 2 ป. เพื่อเตรียมเสนอตัวเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ในการเลือกตั้งสมัยหน้า มีการ “หาเสียงลงพื้นที่” แบบ “ปาดหน้า” กันถึง 3 ครั้ง
อย่างที่ผมเขียนเอาไว้เมื่อสัปดาห์ก่อนโน้นแหละครับว่า บรรยากาศทั่วประเทศไทยยามนี้เหมือนกับว่ามีการยุบสภาไปเรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหญ่
ในช่วง 4 ซ้า 5 วันที่ผ่านมานี้ ท่านผู้อ่านที่นั่งรถตระเวนไปมารอบๆ กรุงเทพมหานครคงจะเกิดคำถามขึ้นในใจเหมือนที่ผมแอบตั้งคำถามกับตัวเองเมื่อวานนี้ว่า “นี่เขายุบสภากันแล้วหรือ?”
ยิ่งใหญ่อลังการสมคำร่ำลือจริงๆครับ สำหรับการ “เปิดตัว” เข้าสู่เวทีการเมืองแบบเต็มคาราเบลของ “บิ๊กตู่” ที่ Exhibition Hall 1 ของศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เมื่อค่ำวันจันทร์ที่ผ่านมา
เป็นอันว่าชัดเจนร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วว่า ท่านนายกรัฐมนตรี “บิ๊กตู่” ท่านจะขออยู่ต่อ จึงต้องสู้ต่อ โดยจะเป็นแคนดิเดตนายกฯ ในนามของพรรคใหม่เอี่ยมอ่อง “รวมไทยสร้างชาติ” หรือ รทสช. มิใช่ “พลังประชารัฐ” หรือ พปชร.ดังเดิม
สัปดาห์ที่แล้วผมนั่งลุ้นการเลือกตั้งที่มาเลเซียอย่างใจจดใจจ่อ เพราะเป็นแฟนคลับหรือ FC ของอดีตรองนายกรัฐมนตรี อันวาร์ อิบราฮิม มาแต่ไหนแต่ไร…
เมื่อวันที่ท่านเลขาธิการสภาพัฒน์ คุณดนุชา พิชยนันท์ ออกมาแถลงเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2 ของปีนี้ ซึ่งเริ่มฟื้นตัวขึ้น พร้อมกับมีการปรับคำทำนายตัวเลขตลอดทั้งปีเสียใหม่ โดยคาดว่าทั้งปีเศรษฐกิจไทยน่าจะโตได้ระหว่างร้อยละ 2.7 ถึงร้อยละ 3.2 นั้น
ผมนั่งเขียนต้นฉบับสำหรับวันนี้ในช่วงบ่ายแก่ๆ ของวันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคมครับ ยังเหลือเวลาอีกสัก 2 ชั่วโมงเห็นจะได้ ก่อนที่ จะ “ปิดหีบ” การเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในเวลา 17.00 น.
วันเสาร์ที่ 21 พฤษภาคม 2565 ถึงคิว “เสาร์สารพัน” ชวนเที่ยวงาน ชวนอ่านหนังสือ และฟังเพลงย้อนยุคอีกครา…แต่เสาร์นี้ถือเป็นกรณีพิเศษ จะชวนไปใช้สิทธิใช้เสียงเลือกตั้งซะก่อนแวะเที่ยวงานต่างๆตาม “สารพัน” ข่าวที่ส่งมาเต็มโต๊ะเช่นเคย