ยังยืนยัน…”ไทยนี้รักสงบ”
ผมเขียนยุให้รัฐบาลไทยเพิ่มความ “แข็งแกร่ง” ในการตอบโต้เขมรไปเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว อย่ามัวแต่ “หน่อมแน้ม” เกรงอกเกรงใจเขมรอยู่เลย
ผมเขียนยุให้รัฐบาลไทยเพิ่มความ “แข็งแกร่ง” ในการตอบโต้เขมรไปเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว อย่ามัวแต่ “หน่อมแน้ม” เกรงอกเกรงใจเขมรอยู่เลย
หลังจากที่ท่านเลขาธิการสภาพัฒน์แถลงตัวเลขการขยายตัวของจีดีพีไตรมาสแรกปีนี้ว่าอยู่ที่ 3.1 เปอร์เซ็นต์ แต่มีรัฐมนตรีท่านหนึ่งของรัฐบาลบอกว่าก็ยังเป็นอัตราขยายตัวที่เกิน 3 เปอร์เซ็นต์ และเป็นฝีมือของรัฐบาลนี้โดยตรง
เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์ทุกฉบับ (เท่าที่ยังมีขายตามแผง) พาดหัวข่าวยักษ์ตรงกันว่า รัฐบาลใส่เกียร์ “ถอยกรูด” กรณีมีข่าวจะเพิ่มภาษีแวต 15 เปอร์เซ็นต์
ผมเคยเขียนถึงประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) คนใหม่ คุณคงกระพัน อินทรแจ้ง ไว้บ้างแล้วเมื่อก่อนที่ท่านจะเข้ารับตำแหน่งต่อจาก คุณอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคมที่ผ่านมา
ผมเขียนต้นฉบับว่าด้วยความปลาบปลื้มที่ญี่ปุ่นสามารถใช้ Soft Power ของเขาอย่างได้ผล ทำให้ธุรกิจท่องเที่ยวของเขาล้นทะลักมาตั้งแต่ต้นปีนี้ พร้อมกับแสดงความชื่นชมกับ F ตัวที่ 6 ของเขาคือ Friendly
บนโต๊ะผมมีข่าวประชาสัมพันธ์จากห้างใหญ่ห้างหนึ่งวางรวมอยู่กับข่าวประชาสัมพันธ์ทั่วๆ ไปอีก 2-3 ชิ้น…ผมหยิบของห้างมาอ่านหลังสุด อ่านจบแล้วก็ได้แรงบันดาลใจสำหรับข้อเขียนวันนี้
เมื่อวานนี้ผมเขียนทิ้งท้ายว่า นอกจากคนเก่งสอบได้ที่ 1 ของประเทศไทย และอันดับต้นๆของประเทศไทย รวม 3 ท่าน ที่นำความเก่งของท่านไปช่วยเหลือคนไทยทั้งทางตรงทางอ้อมแล้ว
ทุกครั้งที่ผมนึกถึงตัวอย่างของคนเรียนเก่งแล้วอุทิศตัวช่วยเหลือคนไม่ค่อยเก่ง หรือคนด้อยโอกาสและอ่อนแอช่วยตนเองไม่ได้ ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของสังคมไทยเรานั้น ผมจะนึกถึงคุณหมอประเวศ วะสี อยู่เสมอ
เมื่อวานนี้ผมหยิบข่าวที่ธนาคารโลกแถลงด้วยความห่วงใย เรื่องการศึกษาไทย “ถดถอย” ใช้เงินต่อหัวเยอะแต่ผลสัมฤทธิ์ของการพัฒนาคุณภาพเด็กไทยกลับออกมาต่ำ…ทางธนาคารโลกจึงได้เสนอแนะวิธีการแก้ปัญหาแก่รัฐบาลไทย 3–4 ประการ
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วทีมงานของธนาคารโลกประจำประเทศไทย ออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าวเกี่ยวกับสถานภาพทางการศึกษาของประเทศไทย มีประเด็นที่น่าสนใจหลายๆ ประเด็น ผมขออนุญาตนำมาเผยแพร่ต่อในวันนี้นะครับ