เริ่มแล้ว! วัคซีน “เข็ม 3-4” ที่ไหน? อย่างไร? เมื่อไร?
เมื่อวานนี้ผมเขียนถึงนโยบายการเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยว เข้าประเทศเราอย่างสะดวกมากขึ้น ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม
เมื่อวานนี้ผมเขียนถึงนโยบายการเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยว เข้าประเทศเราอย่างสะดวกมากขึ้น ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม
ต้นฉบับของผมวันนี้ จะลงตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันจันทร์ที่ 2 พฤษภาคม 2565 หลังวันเปิดประเทศ เพื่อรับนักท่องเที่ยว 1 พฤษภาคม 2565 หนึ่งวัน
เนื่องจากผมได้เขียนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ออสเตรเลียในกรณีของโนวัค ยอโควิช นักเทนนิสมือ 1 โลก ไปโดนยึดวีซ่าและต้องต่อสู้กันถึงชั้นศาลมาหลายวัน รวมทั้งเมื่อวานนี้ก็เขียนถึงการยึดวีซ่าครั้งที่ 2 และการยื่นอุทธรณ์ต่อศาลเป็นครั้งที่ 2 ของยอดนักเทนนิสรายนี้ โดยยังไม่ทราบผลว่าศาลจะตัดสินอย่างไร?
ท่านผู้อ่านคงจะพอจำได้นะครับว่าเมื่อ 2 วันก่อนผมได้เขียนถึง “ข่าวใหญ่” ของโลกข่าวหนึ่ง เกี่ยวกับยอดนักเทนนิส หมายเลข 1 ของโลก โนวัค ยอโควิช ไม่ยอมฉีดวัคซีน และหันมาใช้วิธีขอยกเว้นทางการแพทย์ เพื่อจะไปแข่งขันในรายการใหญ่ของโลก “ออสเตรเลียนโอเพ่น” ที่นครเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย
ในขณะที่หลายๆ ประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศดังๆ ในยุโรปต่างก็ยังหวั่นวิตกกันอยู่ว่าจะได้ฉลองคริสต์มาสหรือปีใหม่ที่จะมาถึงในอีกไม่กี่วันนี้หรือไม่ เพราะการกลับมาระบาดอีกระลอกของโควิด–19 นั้นเอง
ผมไปฉีดวัคซีนป้องกันโควิด–19 “เข็ม 3” หรือบูสเตอร์โดส (Booster Dose) มาเรียบร้อยแล้วครับ นับได้ 24 ชั่วโมงพอดิบพอดี ขณะที่เขียนต้นฉบับวันนี้…ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เจ้าประจำของผม เมื่อบ่าย 2 โมง วันอังคารที่ผ่านมา
เป็นอันว่าตั้งแต่วันพุธที่ 1 กันยายน หรืออีกเพียง 2 วันนับจากวันนี้ ศบค.ท่านจะผ่อนคลาย “กฎเข้ม” ของการ “ล็อกดาวน์” ใน 29 จังหวัดพื้นที่สีแดงรวมทั้ง กทม.และปริมณฑลลงมาเปลาะหนึ่ง
ท่าน ดร.สุวจี กู๊ด ที่ปรึกษาด้านการส่งเสริมสุขภาพและปัจจัยสังคมกำหนดสุขภาพ นั่นเอง…ท่านทำงานอยู่กับ WHO มาหลายปี เข้าใจว่าผู้อ่านที่ติดตามข่าวด้านสาธารณสุขเป็นประจำคงจะคุ้นกับท่านพอสมควร
ผมได้รับเอกสารจากผู้ใหญ่ท่านหนึ่งขอให้ช่วยเผยแพร่ต่อในคอลัมน์นี้ด้วย เพื่อให้ท่านผู้อ่านเข้าใจความหมายของ อักษรย่อภาษาอังกฤษ OEM ที่มีการใช้อย่างกว้างขวางในอุตสาหกรรมการผลิตยุคนี้
ยอดผู้ติดเชื้อใหม่ของประเทศไทยขณะที่ผมนั่งเขียนต้นฉบับวันนี้ (เสาร์ที่ 31 กรกฎาคม 2564) ทะยานขึ้นไปที่ 18,912 รายแล้ว เป็นสถิติใหม่หรือ “นิวไฮ” อีกครั้ง และที่สำคัญเข้าใกล้หลัก 20,000 เข้าไปทุกขณะ