“สัญญาณดี” เริ่มขึ้นแล้ว ได้เวลา…“คืนสู่สามัญ?”
สัปดาห์ที่แล้วผมมีนัดตรวจร่างกายตามปกติกับคุณหมอ 2 หมอ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญคนละโรคของโรงพยาบาลรามาธิบดี คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
สัปดาห์ที่แล้วผมมีนัดตรวจร่างกายตามปกติกับคุณหมอ 2 หมอ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญคนละโรคของโรงพยาบาลรามาธิบดี คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
เมื่อวานนี้ผมเขียนถึงนโยบายการเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยว เข้าประเทศเราอย่างสะดวกมากขึ้น ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม
ต้นฉบับของผมวันนี้ จะลงตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันจันทร์ที่ 2 พฤษภาคม 2565 หลังวันเปิดประเทศ เพื่อรับนักท่องเที่ยว 1 พฤษภาคม 2565 หนึ่งวัน
ทันทีที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ “โควิด-19” ของเราเริ่มมีแนวโน้มลดลง แม้จะยังติดถึงวันละเกิน 10,000 รายอยู่ แต่เมื่อลดลงไปเรื่อยๆก็ถือเป็นข่าวดี เพราะเราคาดกันว่าสถานการณ์จะหนักหนามากหลังสงกรานต์ ซึ่งก็ปรากฏว่าทุกอย่างดีกว่าที่คาดไว้
เพื่อขานรับการเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก และต้อนรับฤดูกาลท่องเที่ยวในช่วงปลายปี พร้อมกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยภายในประเทศให้กลับมาคึกคักอย่างต่อเนื่อง
อย่างที่ผมเขียนเกริ่นไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า เศรษฐกิจโลกที่คาดกันว่าทรุดหนักเหลือเกินจากผลพวงการระบาดของเจ้าโควิด-19 อาจจะฟื้นได้เร็วกว่าที่คิดไว้
วันเสาร์ที่ 30 ตุลาคม 2564 เหลืออีกแค่ 2 วัน ก็จะขึ้นสู่เดือนที่ 11 ของปี หรือเดือนพฤศจิกายน และก็อย่างที่เราทราบพอ 1 พ.ย. เป๊ะ
จากวันนี้ไปก็ประมาณสัปดาห์เดียวเท่านั้น…จะถึงวัน “เปิดประเทศ” ต้อนรับนักท่องเที่ยวจาก 45 ประเทศ+1 เขตปกครอง ที่ฉีดวัคซีนครบโดส และผ่านข้อกำหนดตามกติกาเมื่อมาถึงประเทศไทย…ให้ออกเที่ยวได้เลยโดยไม่ต้องกักตัว
ทันทีที่มีข่าวว่ารัฐบาลไทยพร้อมเดินหน้าเปิดประเทศ 1 พฤศจิกายนนี้ แน่นอนแล้ว หลังจากเปิดเผยรายชื่อ 46 ประเทศความเสี่ยงโควิดต่ำ…มาเที่ยวไทยได้โดยไม่ต้องกักตัว หากฉีดวัคซีนครบโดส และตรวจแล้วไม่พบเชื้อวันเดินทางถึงไทย…
“บิ๊กตู่” ออกมาแถลงอย่างชัดเจนแล้วครับว่า ท่านจะเปิดประเทศไทยต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ซึ่งนับจากวันนี้ก็เหลืออีกเพียง 17 วันเท่านั้น