“ดัง” แล้ว “แบ่งปัน” ในสไตล์ “น้องลิซ่า”

ข่าวที่น่ายินดีและน่าปลื้มใจ อ่านเมื่อไรก็มีความสุข ดูคลิป ฟังคลิป เมื่อไรก็รู้สึกอิ่มเอมเมื่อนั้น ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ ต้องยกให้กับข่าว “น้องลิซ่า” กลับบ้านพร้อมกับทยอย “ปล่อยของ” หรือปล่อย “เพาเวอร์” ของเธอเพื่อสังคมไทยนั่นแหละครับ

“เพาเวอร์” หรือ “พลัง” ของน้องก็คือความเป็นซุปตาร์ระดับโลกมีแฟนนับร้อยล้านคนทั่วโลก เฉพาะผู้ติดตามในอินสตาแกรมของเธออย่างเดียวก็กว่า 90 ล้านคนเข้าไปแล้ว

ภาษาสมัยใหม่เขาใช้คำว่า “ซอฟต์เพาเวอร์” ซึ่งมีอยู่ในตัวน้องอย่างมากมายมหาศาล เป็นที่รับรู้อย่างดีจากแบรนด์สินค้าดังของโลกหลายๆ แบรนด์ด้วยกัน จึงมีการว่าจ้างเธอไปถ่ายแบบโฆษณาทั้งในประเทศไทยเราเอง และในต่างประเทศด้วยค่าตัวที่แพงลิบลิ่ว

รวมทั้งในการร่วมวง แบล็กพิ้งค์ มาแสดงในบ้านเราแล้วก็อยู่ต่อเพื่อพักผ่อนครั้งนี้นั้นก็มีข่าวว่าเธอไม่ได้พักผ่อนเฉยๆ แต่รับเป็นพรีเซนเตอร์โฆษณาให้แก่สินค้าหลายๆ แบรนด์ไปด้วย

ความน่ายินดีน่าชื่นชมน่าปลื้มใจก็อยู่ตรงที่ว่าน้องลิซ่ามิใช่จะใช้เพาเวอร์ของเธอตักตวงเงินทองให้แก่ตัวเธอและต้นสังกัดของเธอเท่านั้น แต่ได้เผื่อแผ่พลังดังกล่าวไปถึง สินค้าไทยๆ บ้านๆ อย่างน้อย 2-3 ชิ้นด้วยกัน ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา

ชิ้นแรก เป็นสินค้าท่องเที่ยวนั่นก็คือการแนะนำ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มรดกโลก โดยการไปเที่ยววัดเที่ยวโบราณสถานหลายแห่ง พร้อมกับโพสต์ภาพของเธอกับเพื่อนๆ ผ่านโซเชียลมีเดียที่มี FC ติดตามมากมายมหาศาลที่ว่า

ส่งผลให้มีผู้คนไปเที่ยวจังหวัดพระนครศรีอยุธยาตามรอยเธอจำนวนมากในวันต่อๆ มา

ชิ้นที่สอง ว่าด้วยเครื่องแต่งกายชุดผ้าฝ้ายไทยย้อมครามที่น้องลิซ่าสวมใส่ขณะท่องเที่ยวอยุธยานั่นเอง

เธอและเพื่อนๆ โพสท่าสวยๆ งามๆ พร้อมกับชุดผ้าไทยที่สวยงามเอาไว้หลายต่อหลายภาพ ทำให้ผ้าไทยชุดนี้ซึ่งมีต้นตำรับอยู่ที่ภาคอีสานขายดิบขายดีขึ้นมาทันที

มีข่าวว่าชุดที่เธอสวมถ่ายภาพเป็นชุดจากจังหวัดอุดรธานี แต่เมื่อวานนี้เองผมดูคลิปของจังหวัดมุกดาหารก็เห็นท่านผู้ว่าฯมุกดาหารออกมาขอบคุณน้องลิซ่ากับเขาด้วย

มีใจความตอนหนึ่งว่า ผ้าฝ้ายย้อมครามของจังหวัดมุกดาหารก็พลอยขายดีจนแทบจะเกลี้ยงร้านไปด้วยเช่นกัน

สินค้าไทย ชิ้นที่ 3 ที่น้องลิซ่าช่วยเป็นพรีเซนเตอร์ให้ล่าสุดก็คือ “นมหนองโพ” เมื่อเธอโพสต์ภาพเธอและเพื่อนๆ กำลังดื่มนมรสช็อกโกแลตหนองโพอย่างเอร็ดอร่อยพร้อมกับแคปชันที่ว่า “ดื่มนมก่อนนอน” กับ “วัยเด็กต้องนี่เลย”

ทำให้คาดหมายกันว่า นมหนองโพ ของสหกรณ์โคนมหนองโพราชบุรี จำกัด (ในพระบรมราชูปถัมภ์) น่าจะขายดีขึ้นมาอีกเช่นกัน

พูดก็พูดเถิดนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอแอบแบ่งปัน “เพาเวอร์” ของเธอให้แก่สังคมไทยอย่างเนียนๆ นะครับ เพราะในข้อเท็จจริงเธอได้ดำเนินการมาแล้วหลายครั้ง

ตั้งแต่การพูดถึง “ลูกชิ้นยืนกิน” ที่จังหวัดบุรีรัมย์จนลูกชิ้นบุรีรัมย์ขายดิบขายดีเหมือนเทน้ำเทท่า และยังขายดีอยู่จนถึงทุกวันนี้

แต่ที่เนียนที่สุดก็คือโฆษณาแฝงให้แก่ประเทศไทยและวัฒนธรรมไทยหลายๆ ด้านผ่านเพลง LALISA ที่มียอดวิวทางยูทูบกว่า 620 ล้านในขณะนี้เมื่อปีที่แล้ว

ตั้งแต่เนื้อร้องท่อนที่บอกว่าเธอมาจากเมืองไทยไปดังที่เกาหลีแล้วก็แต่งชุดไทย สวมรัดเกล้า ทั้งเต้นทั้งแร็ป ทั้งร่ายรำ ล้วนเป็นการโฆษณาแฝงให้แก่ประเทศไทยทั้งสิ้น

นอกจากจะขอบคุณลิซ่าที่แบ่งปัน “เพาเวอร์” ของเธอให้แก่ประเทศไทยแล้ว ก็คงต้องขอบคุณ วายจี เอนเตอร์เทนเมนต์ บริษัทต้นสังกัดของเธอด้วย ที่ใจกว้างยอมให้เธอแบ่งปันได้

ถ้าเขาไม่ยอมให้เธอร้องเพลง “ลาลิซ่า” ซึ่งประกาศตัวเป็นคนไทยอย่างชัดเจน รวมทั้งเบรกไม่ยอมให้เธอเป็นพรีเซนเตอร์ให้ผ้าไทย ลูกชิ้นไทย และนมไทย เธอจะทำได้อย่างไรล่ะ

ใครจะมอง YG อย่างไรก็แล้วแต่เถิด แต่ผมมองว่าเขาใจกว้างไม่เบานะครับ และขอขอบคุณบริษัทเกาหลีบริษัทนี้ไว้ ณ ที่นี้เช่นกัน.

“ซูม”

“ดัง” แล้ว “แบ่งปัน” ในสไตล์ “น้องลิซ่า”, ซอฟต์เพาเวอร์, แบล็กพิ้งค์, จังหวัดพระนครศรีอยุธยา, นมหนองโพ, ลูกชิ้นยืนกิน, ซูมซอกแซก