ข่าวดี (มาก) จาก WHO “BA.2” ไม่ร้ายเท่าที่คิด

เมื่อวานนี้ผมเขียนในเชิงบ่นเสียดายที่วันอังคาร 22 กุมภาพันธ์ ค.ศ.2022 อันมีเลขย่อเวลาเขียนบันทึกต่างๆที่สวยงามมาก คือ 22/2/2022 หรือไม่ก็ 22/2/22 จึงควรที่จะมีแต่ความงดงาม ความสุข สนุกสนานเท่านั้น

แต่กลับมีเหตุการณ์กรณีรัสเซียส่งกำลังทหารที่อ้างว่าจะไปรักษาสันติภาพใน 2 แคว้นที่แยกตัวออกจากยูเครนเกิดขึ้น…จนสร้างความวิตกว่าจะเป็น “ชนวน” ของ “สงครามใหญ่” อีกครั้งหนึ่งหรือไม่?

ทำให้คนที่รักและชอบหมายเลข 22/2/22 (รวมทั้งผมด้วย) เกิดอาการเซ็งในหัวใจไปตามๆ กัน

ทว่าหลังจากที่ผมเขียนต้นฉบับส่งมาโรงพิมพ์เรียบร้อยก็ปรากฏว่าในช่วงดึกๆ ของคืน 22/2/2022 ตามเวลาบ้านเรานั่นเอง ก็มีข่าวจาก WHO หรือองค์การอนามัยโลก ระบุว่า ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือตัวกลายพันธุ์ของโอมิครอน ที่เรียกกันว่า BA.2 นั้นไม่ก่ออาการรุนแรงมากกว่า BA.1 หรือเชื้อกลายพันธุ์ชุดแรกแต่อย่างใด

คุณ มาเรีย ฟาน เคิร์กโฮฟ หัวหน้าฝ่ายเทคนิคต้านโควิด-19 ของ WHO ตอบคำถามที่มีการถามทางออนไลน์ยํ้าชัดเจนว่า “จากตัวอย่างของผู้ติดเชื้อจากหลายประเทศ เราไม่พบเห็นความแตกต่างในความรุนแรงของ BA.1 กับ BA.2”

เธอขยายความต่อไปว่า ทั้ง 2 สายพันธุ์มีความรุนแรงพอๆ กันในความเสี่ยงของการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล ซึ่งถือเป็นการค้นพบที่สำคัญยิ่ง เพราะขณะนี้การระบาดในหลายๆ ประเทศจะเป็นสายพันธุ์ BA.1 กับ BA.2 เป็นส่วนใหญ่

คำยืนยันของหัวหน้าฝ่ายเทคนิคด้านโควิด-19 ทำให้โลกโล่งอกเป็นอย่างมาก เพราะก่อนหน้านี้มีการค้นพบว่า BA.2 ที่กลายพันธุ์มาใหม่ระบาดเร็วกว่า BA.1 หลายเท่า…ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อพุ่งพรวดๆ ขึ้นอย่างรวดเร็ว และสร้างความหวาดหวั่นแก่ชาวโลกอีกครั้งหนึ่ง

เมื่อปรากฏว่าความรุนแรงของ BA.2 ไม่มากไปกว่า BA.1 (ซึ่งเป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่า สำหรับคนที่ฉีดวัคซีนครบโดสจะไม่มีอาการรุนแรงอะไรมากนัก)…จะไม่ให้ผู้คนที่อ่านข่าวนี้มีความเบาใจและสุขใจขึ้นมาทันทีได้อย่างไรล่ะครับ

เนื่องจากข่าวนี้ส่งมาในช่วงดึกของคืนวันที่ 22/02/22 บ้านเรา แม้จะล่วงไป 23/02/22 หน่อยๆ แล้ว…แต่เวลาที่เธอแถลงข่าวที่เมืองนอกยังเป็น 22/02/22 อยู่ ผมจึงถือว่าวันแห่งหมายเลข 2 ดังกล่าวนี้ก็พอจะมีข่าวดีๆ อยู่เหมือนกัน ไม่ใช่มีเฉพาะข่าวร้ายอย่างเดียวเท่านั้น

ต่อมาในช่วงบ่ายๆ ของวันที่ 23/2/22 ตามเวลาประเทศไทย หรือวันรุ่งขึ้น ท่านโฆษกกระทรวงสาธารณสุขของบ้านเรา คุณหมอ รุ่งเรือง กิจผาติ ก็ออกมาแถลงข่าวนี้อีกครั้งว่า องค์การอนามัยโลกยืนยันแล้วว่าทั้ง 2 สายพันธุ์ไม่มีอะไรแตกต่างกันในแง่ความรุนแรง

ท่านให้ข้อมูลมาด้วยว่า ทั้ง 2 สายพันธุ์กำลังปรับตัวเป็นโรคประจำถิ่น หรือโรคติดต่อตามฤดูกาล เพราะความรุนแรงลดลงมาก “พบผู้เสียชีวิตน้อยกว่า 1 รายต่อผู้ติดเชื้อ 1,000 ราย และพบผู้ที่มีอาการป่วยรุนแรงน้อยกว่า 5 รายในผู้ป่วยติดเชื้อ 1,000 รายเช่นกัน”

ผมเชื่อว่ากระทรวงสาธารณสุขท่านคงรู้ข้อมูลในเรื่องนี้อยู่พอสมควรแล้ว ท่านจึงมีความพยายามที่จะปรับระบบการดูแลรักษาโควิด-19 บ้านเรา จากระบบ “ยูเซ็ป” ที่ใช้มาตั้งแต่เริ่มระบาด มาเป็นการรักษาตามปกติ

ใครมีสิทธิอะไรอยู่ก็รักษาไปตามสิทธินั้น ซึ่งปรากฏว่า ครม.ไม่เห็นด้วย มีมติให้ใช้ระบบ “ยูเซ็ป” ไปก่อน ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุขก็รับไปดำเนินการแล้ว

นี่ก็ถือว่าเป็นอีก 1 ข่าวดีในวันที่ 22/2/22 ครับ เพราะ ครม.ท่านประชุมในวันอังคารที่ 22 กุมภาพันธ์ นั่นเอง

แหม! ก็ยอดติดเชื้อบ้านเรายังพุ่งปรี๊ดๆ และเมื่อวานนี้ทะลุ 20,000 กว่ารายไปซะอีกแล้ว…ถึงจะบอกว่าไม่รุนแรง แต่ใครก็ตามที่โชคร้ายเป็น 1 ใน 20,000 คน ก็อดอกสั่นขวัญหายไม่ได้ละครับ

เปลี่ยนมาใช้วิธีใหม่ (คือกลับไปใช้ระบบปกติ) ในขณะที่สถานการณ์ยังไม่ปกติดีนัก ผลเสียทางจิตวิทยาและความสับสนในการปฏิบัติจะเกิดขึ้นอย่างมากมายแน่นอน การที่ ครม.มีมติให้ชะลอไว้ก่อนจึงถูกต้องแล้ว

ครับ ก็ถือเป็นเรื่องดีๆ หรือข่าวดีที่เกิดขึ้นในท่ามกลางข่าวร้ายหรือฝันร้ายของชาวโลก กรณี “รัสเซีย-ยูเครน” ในขณะนี้

ผมขอภาวนาให้ข่าวดีเรื่องสายพันธุ์ BA.2 จงดีไปตลอดเถิด …อย่าได้มีอะไรที่เป็นข่าวร้ายเกิดขึ้นอีกเลย…โลกเราจะได้กลับคืนสู่ภาวะปกติ หรืออย่างน้อยๆ ก็ “ใกล้เคียง” กับปกติซะทีน่ะครับ.

“ซูม”

ข่าว, ไวรัส, โควิด 19, ระบาด, WHO, BA1, BA2, ซูมซอกแซก