เป็นประจำทุกปีที่สมาคมกีฬาขี่ม้าแห่งประเทศไทยจะจัดการแข่งขันขี่ม้าสุดยิ่งใหญ่ระดับนานาชาติ “ปริ้นเซส คัพ ไทยแลนด์” เพื่อส่งเสริมและพัฒนากีฬาขี่ม้าของประเทศไทยให้เทียบเท่ามาตรฐานสากล ตลอดจนสร้างเสริมประสบการณ์ให้นักกีฬาขี่ม้ารวมถึงบุคคลากรที่เกี่ยวข้องกับกีฬาขี่ม้าในประเทศไทยให้มีความสามารถและทักษะที่เพิ่มพูนยิ่งขึ้น โดย “ปริ้นเซส คัพ ไทยแลนด์ 2019”  (Princess’s Cup Thailand 2019) ที่เพิ่งจัดขึ้นเมื่อไม่นานนี้

ได้รับพระกรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงรับเป็นองค์ประธานอำนวยการและนโยบายประทานแนวทางในรายละเอียดต่างๆ เหมือนเช่นทุกปีที่ผ่านมา จึงทำให้การแข่งขันปริ้นเซส คัพ ไทยแลนด์ 2019 ปิดฉากลงได้อย่างงดงามและน่าประทับใจ

และถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่หลังจากจบการแข่งขันจะมีการจัดงานกาล่าดินเนอร์ “อีเควสเทรียน ไรซิ่ง สตาร์ อวอร์ด ไนท์” (Equestrian Rising Star Awards Night) ขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองและมอบรางวัลประกาศเกียรติคุณแก่นักกีฬาขี่ม้าที่มีผลงานยอดเยี่ยมประจำปี โดยครั้งนี้จัดขึ้นในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2563 ณ ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ

โอกาสนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จไปทรงเป็นประธานในงาน “อีเควสเทรียน ไรซิ่ง สตาร์ อวอร์ด ไนท์ 2020” พร้อมพระราชทานรางวัลแก่ผู้ชนะการแข่งขันกีฬาขี่ม้ารายการ Princess’s Cup Thailand 2019 จำนวน 5 รางวัล และรางวัลนักกีฬาดีเด่น Best of The Year ในแต่ละประเภท จำนวน 8 รางวัล ประกอบไปด้วย 

รางวัลการแข่งขัน Princess’s Cup Thailand 2019 จำนวน 5 รางวัล ได้แก่

• รางวัลถ้วยพระราชทานประเภท Dressage ได้แก่ อาริย์ณัฎฐา ชวตานนท์ จากสโมสร ไทย โปโล แอนด์ อีเควียสเตรียน คลับ (Thai Polo & Equestrian Club)
• รางวัลถ้วยพระราชทานประเภท Jumping ได้แก่ จารุพร ลิมปิชาติ จากสโมสร เช็คเมท ฮอร์ส คลับ (Checkmate Horse Club)
• รางวัลถ้วยพระราชทานประเภท Eventing ได้แก่ กรธวัช สำราญ จากสโมสร ไทย โปโล แอนด์
  อีเควียสเตรียน คลับ (Thai Polo & Equestrian Club)
• รางวัลถ้วยพระราชทานประเภท Best Groom ได้แก่ หน่วยม้าทรงประจำพระองค์ฯ (Royal Stable Unit)
• รางวัลถ้วยพระราชทานประเภท Best Farrier ได้แก่ ชมรมขี่ม้า ทหารม้ารักษาพระองค์ (Royal Horse Guard)

รางวัลนักกีฬาดีเด่น Best of The Year จำนวน 8 รางวัล ได้แก่

• ประเภท Dressage ได้แก่ ภัคจิรา ธงภักดิ์ จากสโมสร เช็คเมท ฮอร์ส คลับ (Checkmate Horse Club)
• ประเภท Jump ได้แก่ จารุพร ลิมปิชาติ จากสโมสร เช็คเมท ฮอร์ส คลับ (Checkmate Horse Club)
• ประเภท Eventing ได้แก่ อาริย์ณัฎฐา ชวตานนท์ จากสโมสร ไทย โปโล แอนด์ อีเควียสเตรียน คลับ (Thai Polo & Equestrian Club)
• ประเภท Endurance ได้แก่ วราภรณ์ จันทร์แสงสุก จากชมรมขี่ม้าชายหาดระยอง (Rayong Beach  Horse Riding)
• ประเภท Reining ได้แก่ โภคิณ  ภิรมย์ชุน จากชมรมขี่ม้า สยามเวสเทิร์น เพอร์ฟอร์มแมนซ์ ฮอร์ส (Siam Western Performance Horse)
• ประเภท Cowboy ได้แก่ วรจิต วงค์กระโซ่ จากสโมสร ไทย โปโล แอนด์ อีเควียสเตรียน คลับ (Thai Polo & Equestrian Club)
• ประเภท Pony Dressage ได้แก่ ธิตินันท์ สหวัฒน์ จากชมรมขี่ม้า ฟินิกซ์ไรดิ้ง อาคาเดอมี (Phoenix Riding Academy)
• ประเทภ Pony Jump ได้แก่ ปริพล พิชิตมาลัย จากสโมสร ปิยะชาติ ฮอร์สไรด์ดิ้ง คลับ (Piyachart Horse Riding Club)

โดยมีแขกผู้ทรงเกียรติ เหล่าบุคคลระดับแถวหน้าของวงการขี่ม้าและผู้มีชื่อเสียงในแวดวงสังคมเฝ้ารับเสด็จฯ และร่วมแสดงความยินดีกับผู้ได้รับรางวัลต่างๆ อย่างคับคั่ง อาทิ พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ ประธาน บี.กริม  และนายกสมาคมกีฬาขี่ม้าแห่งประเทศไทย  ธนวัตน์ ภูมิสาขา ผู้แทนโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ  ร่วมด้วยคณะกรรมการจัดงาน ท่ามกลางบรรยากาศอันเต็มไปด้วยความชื่นชมยินดีและความประทับใจ

ในการนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา พระราชทานพระวโรกาสให้ ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ นายกสมาคมกีฬาขี่ม้าแห่งประเทศไทย  เข้าเฝ้าถวายโล่รางวัล Best of the Best ในฐานะทรงมีผลงานโดดเด่นด้านกีฬาขี่ม้าและสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย ด้วยทรงนำทีมนักกีฬาขี่ม้าทีมชาติไทย คว้าเหรียญทอง ศิลปะบังคับม้าประเภททีม ในการแข่งขันขี่ม้าครั้งประวัติศาสตร์ในทวีปเอเชีย รายการ FEI Asian Championships Pattaya 2019

นับเป็นความสำเร็จอย่างงดงามอีกครั้งของการจัดการแข่งขันขี่ม้า ปริ้นเซส คัพ ไทยแลนด์ และงานอีเควสเทรียน ไรซิ่ง สตาร์ อวอร์ด ไนท์ ซึ่งไม่เพียงส่งเสริมให้กีฬาขี่ม้าไทยเป็นที่รู้จักในวงกว้าง แต่ยังช่วยสนับสนุนให้ประชาชนคนไทยตลอดจนเยาวชนของชาติหันมาให้ความสนใจในกีฬาขี่ม้ามากยิ่งขึ้น อันจะเป็นการผลักดันให้กีฬาขี่ม้าของประเทศไทยก้าวไปสู่ระดับสากลและระดับโลกได้ในอนาคต