ซัมซุง เปิดตัว ‘กาแลคซี่ เอส 20’ สุดยอดสมาร์ทโฟนที่จะเปิดมุมมองและสร้างประสบการณ์การสื่อสารแห่งทศวรรษใหม่ ครั้งแรกกับซีรีส์สมาร์ทโฟนแฟลกชิปที่ทุกรุ่นมาพร้อมเทคโนโลยี 5G กับสุดยอดเทคโนโลยีกล้องวิดีโอที่ดีที่สุดของซัมซุง

จากเทรนด์ของคนในปัจจุบันที่นิยมถ่ายภาพและวิดีโอเพื่อบอกเล่าเรื่องราวของตนเองผ่านสมาร์ทโฟน ทำให้ ‘กล้อง’ กลายเป็นฟีเจอร์ที่สำคัญที่สุดที่ผู้บริโภคใช้เป็นปัจจัยในการตัดสินใจเลือกซื้อสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่ ซึ่งกาแลคซี่ เอส 20 ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์รูปแบบการใช้ชีวิตของผู้ใช้งาน ด้วยการนำเสนอระบบกล้องใหม่ล่าสุด ที่ทำงานด้วย AI อันทรงพลังและเซ็นเซอร์รับภาพขนาดใหญ่ที่สุดของซัมซุง เพื่อให้ผู้ใช้สามารถบันทึกทุกโมเมนต์สำคัญได้อย่างดีที่สุด

• Galaxy S20 มาพร้อมหน้าจอ 6.2 นิ้ว AMOLED, ส่วน Galaxy S20+ หน้าจอ 6.7 นิ้ว AMOLED และ Galaxy S20 Ultra 5G หน้าจอ 6.9 นิ้ว AMOLED โดยทั้ง 3 รุ่นใช้หน้าจอเต็มขอบ, มีรูบนจอสำหรับกล้องหน้า รองรับสแกนนิ้วที่จอแบบ Ultrasonic, รองรับสแกนใบหน้า, รองรับการแสดงผล HDR10+ และหน้าจอ Refresh Rate ที่ 120Hz

• Galaxy S20+ และ S20 Ultra 5G รองรับทั้ง sub-6GHz และ mmWave 5G ส่วน Galaxy S20 จะใช้ได้เพียง sub-6GHz ในการเชื่อมต่อ 5G ซึ่ง mmWave จะเร็วกว่า sub-6GHz

• Galaxy S20 มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว ประกอบไปด้วย Ultra Wide 12MP, Wide 12MP และ Telephoto 64MP Galaxy S20+ มีสเปคกล้องเหมือน Galaxy S20 แต่มีกล้องตัวที่ 4 เพิ่มเข้ามาเรียกว่า “Depth Vision” ส่วน Galaxy S20 Ultra 5G มีกล้องหลัง 4 ตัว ได้แก่ Ultra Wide 12MP, Wide 108MP, Telephoto 48MP และ Depth Vision

Samsung เผยว่าสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ที่เปิดตัวนี้ มีฟีเจอร์กล้องช่วยจัดการแสงในการถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดีขึ้น และในรุ่น Galaxy S20 Ultra 5G ให้ความละเอียดคมชัดของภาพ ภาพไม่เบลอ คมชัด สามารถซูมเห็นส่วนประกอบของภาพได้อย่างชัดเจน

สมาร์ตโฟนทั้ง 3 รุ่นมาพร้อมฟีเจอร์ “Space Zoom”, ผู้ใช้สามารถซูมได้ 30x ใน Galaxy S20 และ S20+ ส่วน Galaxy S20 Ultra 5G ซูมได้ 10x แบบ Hybrid Optic Zoom และซูมได้มากสุดที่ 100x

• “Single Take” เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ Samsung เปิดตัวด้วย สามารถกดถ่ายวิดีโอภาพได้นานสูงสุด 10 วินาทีและระบบจะประมวลผลออกมาเป็นวิดีโอหลายแบบและดึงภาพจากวิดีโอนั้นมาให้ด้วย ในงานวิดีโอนั้น ทั้ง 3 รุ่นรองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียด 8K มาพร้อมฟีเจอร์ “Super Steady” ใช้ AI มาช่วยระบบกันสั่น และ Galaxy S20 และ S20+ มาพร้อมกล้องหน้า 10MP ส่วน Galaxy S20 Ultra 5G มาพร้อมกล้องหน้า 40MP

• ส่วนสเปคภายใน Galaxy S20 และ S20+ มาพร้อม RAM 12GB, Galaxy S20 Ultra 5G มาพร้อม RAM 12 หรือ 16GB ส่วนความจุนั้นเริ่มที่ 128GB แต่ความจุ 512GB จะมีในรุ่นแพงสุดเท่านั้น

• Galaxy S20, S20+ และ S20 Ultra 5G ใช้ชิป Exynos 990 หรือ Snapdragon 865 มาพร้อม Android 10.0 และ One UI 2

• Galaxy S20 มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 4,000mAh, S20+ ความจุ 4,500mAh และ Galaxy S20 Ultra 5G ความจุ 5,000mAh โดยทุกรุ่นรองรับ Fast Wireless Charging และมีหัวชาร์จ 25W ใส่มาในกล่องด้วย

สี
Galaxy S20 มีสี Cosmic Gray, Cloud Blue, Cloud Pink
Galaxy S20+ มีสี  Cosmic Gray, Cloud Blue, Cosmic Black
Galaxy S20 Ultra 5G มีสี Cosmic Gray, Cosmic Black

ราคา
Samsung ประกาศเปิด Pre-Order วันที่ 21 กุมภาพันธ์นี้ และจะวางขายวันแรกวันที่ 3 มีนาคม 2020 โดยราคามีดังนี้
Galaxy S20 – 999.99 ดอลลาร์
Galaxy S20+ – 1,199.99 ดอลลาร์
Galaxy S20 Ultra 5G – 1,399.99 ดอลลาร์

ส่วนราคาไทยจะเป็นเท่าไหร่นั้นก็คงต้องตามกันต่อไปนะครับ