มีการเปิดเผยตัวเลขว่า รายการ “เดินหน้าประเทศไทย” ตอน “ส่งหมูป่ากลับบ้าน” เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม มีเรตติ้งรวมกันจากการถ่ายทอดสดทุกช่องดิจิทัลทีวีสูงถึง 20.054 หรือคิดเป็นคนดูประมาณ 11.3 ล้านคนต่อนาที
ผมลองเอาไปเทียบกับเรตติ้งของละครที่ฮิตที่สุดในยุคดิจิทัลทีวี เรื่อง “บุพเพสันนิวาส” หรือ “ออเจ้า” ก็พบว่าเรตติ้งส่งหมูป่ากลับบ้านชนะ “ออเจ้า” อย่างถล่มทลายเลยครับ
เนื่องเพราะในการออกอากาศตอนสุดท้ายของละครเรื่อง “บุพเพสันนิวาส” ทาง ช่อง 3 เมื่อกลางเดือนเมษายนทำสถิติไว้ที่ 18.6 ซึ่งก็ถือว่าสูงสุดแล้วในยุคนี้ แต่รายการ “ส่งหมูป่ากลับบ้าน” สามารถทำได้ถึง 20 เศษๆ ดังตัวเลขที่ผมอ้างถึงข้างต้น
ที่สำคัญหากเรากลับไปดูเรตติ้งรายการ “เดินหน้าประเทศไทย” ของรัฐบาลและ คสช.ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา พบว่าเรตติ้งเฉลี่ยทั้ง 25 ช่องจะอยู่ที่ประมาณ 0.321 เท่านั้น แสดงว่าคนดูน้อยมาก
และถ้าจับทั้ง 25 ช่วงรวมกันหมดจะได้ราวๆ 8.145 ซึ่งดูเหมือนว่าเยอะพอสมควร แต่ก็ไม่แน่ว่าคนดูจะตั้งใจดูหรือฟังหรือไม่ เพราะส่วนใหญ่จะเปิดแช่ไว้เพื่อรอรายการอื่นๆ ต่อเสียมากกว่า แต่เมื่อนำหมูป่ามาออกอากาศ เชื่อว่าทุกคนเปิดดูอย่างตั้งใจและดูตั้งแต่ต้นจนจบเป็นส่วนใหญ่
มีเสียงหัวเราะด้วยความสุข มีอารมณ์ตื้นตันในบางช่วงและมีอารมณ์หงุดหงิดเวลาคุณสุทธิชัย หยุ่น ถามไม่ถูกใจ และลงท้ายด้วยการปรบมือพร้อมๆ กับนักข่าวในห้องแถลงข่าวที่เชียงราย
เรียกว่ามีอารมณ์ร่วมในทุกๆ ขั้นตอนของรายการตลอดช่วงเวลา 1 ชั่วโมง 27 นาที เหมือนกับแฟนๆที่นั่งดูละคร “บุพเพสันนิวาส” ในแต่ละตอนอย่างไรอย่างนั้น
ผมก็ถือโอกาสนำมาเขียนบันทึกไว้อีกครั้ง เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการบันทึกเหตุการณ์ของแผ่นดิน เผื่อจะมีใครมาอ่านพบในอนาคตข้างหน้า
จะได้รับรู้รับทราบว่า ปรากฏการณ์ “หมูป่าติดถํ้า” เป็นปรากฏการณ์ใหญ่มากปรากฏการณ์หนึ่งของแผ่นดินไทย
เป็นปรากฏการณ์ที่ได้รับความสนใจ ไม่เพียงเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น แต่ได้รับความสนใจจากทั่วโลก จนกลายเป็นปรากฏการณ์ของโลกไปด้วยในที่สุด
ส่งผลให้สื่อต่างๆที่เกาะติดเหตุการณ์นี้ และนำเสนอเหตุการณ์นี้ พลอยได้รับความสนใจ ได้รับความนิยมไปด้วย
ดังจะเห็นได้จากสื่อต่างๆทุกแขนงทุกสำนักทั่วโลก ต่างแข่งกันนำเสนอข่าวนี้เป็นข่าวใหญ่ติดต่อกันเป็นเวลายาวนาน
สำหรับบ้านเราก็พิสูจน์ได้ชัดเจนว่า ข่าวเรื่องนี้ทำให้ ไทยรัฐทีวี ที่ทุ่มเทเวลาและเกาะติดแบบนาทีต่อนาทีมาตลอด เรตติ้งกระฉูดจนขึ้นมาเป็นที่ 2 บ้างที่ 3 บ้างในภาพรวมถึง 2 สัปดาห์ รวมทั้งเป็นที่ 1 ชนะช่อง 7 สี ได้ 1 วัน ในวันนำหมูป่าออกจากถํ้า
น่าจะเป็นวันแรกและวันเดียวก็ได้นะครับในยุคดิจิทัล ที่ช่อง 7 สี เสียแชมป์ประจำวันให้แก่ช่องอื่นๆ
และล่าสุด ปรากฏการณ์หมูป่า ก็ทำให้รายการที่แทบไม่มีคนดูเลย เพราะผู้คนรู้สึกเหมือนว่าถูกบังคับให้ดูอย่างรายการ “เดินหน้าประเทศไทย” กลายเป็นรายการที่มีคนดูถล่มทลายดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ของทุกอย่าง เรื่องราวทุกเรื่อง จะมีจุด “อิ่มตัว” ของมันคือจะไปถึงจุด “พีค” สุด แล้วค่อยๆลดตํ่าลงมา
เป็นหลักแห่งความจริงของโลก ที่สามารถอธิบายได้ทั้งโดย “ธรรมะ” และโดย “ทฤษฎีเศรษฐศาสตร์” ที่ผมเคยเขียนถึงหลายครั้ง
ปรากฏการณ์นี้ก็เช่นกัน ได้มาถึงจุดอิ่มตัวแล้ว และถือว่าถึงจุดพีคแล้วในวัน “ส่งตัวหมูป่ากลับบ้าน” นั้นเอง
จากนี้ไปถ้าใครยังเดินหน้านำเสนอข่าวต่อก็จะนำไปสู่ผลลบแล้วล่ะ…ดังเช่นที่สื่อต่างประเทศหลายสำนัก ยังพยายามจะไปตอแยถามเด็กๆ อยู่อีก ทำให้เริ่มมีเสียงตำหนิ
การหยุดเรื่องนี้ไว้เพียงเท่านี้ แล้วปล่อยให้ทุกสิ่งจบลงอย่างธรรมชาติ จึงเป็นหนทางที่ดีที่สุด
การนำเสนอข่าวต่อไปจะเริ่มมีผลในทางลบ และจะน่าเสียดายมาก หากผลลบที่ว่าอาจจะส่งผลกระทบไปถึงเด็กๆในที่สุด
ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากให้ปรากฏการณ์อันแสนวิเศษครั้งนี้ จบลงด้วยรายการ “ส่งหมูป่ากลับบ้าน” ซึ่งเป็นการจบที่สวยงามเหลือเกิน ได้ทั้งเรตติ้งที่ถล่มทลาย และความสุขความชื่นใจของคนไทยทั้งประเทศ.
“ซูม”