บันทึกวันติดเชื้อเป็น “0” “ไชโย” แบบ “การ์ดไม่ตก”

ผมเขียนต้นฉบับวันนี้ด้วยหัวใจที่พองโต และด้วยความรู้สึกที่อิ่มเอิบปลื้มปีติเป็นที่สุด เหตุเพราะเมื่อเวลา 11 โมงเช้า 35 นาทีเห็นจะได้ คุณหมอทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกของ ศบค. ซึ่งออกมาแถลงข่าวประจำวันตามภาระหน้าที่ของท่านได้เอ่ยกับผู้ชมผู้ฟังทางบ้านด้วยประโยคแรกว่า

“วันนี้ผมมีข่าวดีมาแจ้งนะครับ…ไม่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ใหม่เพิ่มขึ้นเลย…คือ เราติดเชื้อ 0 รายนะครับวันนี้”

ผมรอฟังเลขศูนย์มาหลายวันแล้ว ตั้งแต่ตัวเลขติดเชื้อใหม่ของเราลดลงมาเป็นเลขหลักเดียว ก็ลุ้นอยู่ตลอดว่าเมื่อไรจะถึง “ศูนย์” เสียทีหนอ

เฉียดไปเฉียดมาที่ 2 รายบ้าง 1 รายบ้าง อยู่หลายครั้ง ก่อนหน้านี้ เมื่อวันอังคารที่ 12 พ.ค. ก็ออกมาที่ 2 ราย

ดังนั้น เมื่อมาถึงวันพุธที่ 13 พ.ค. และคุณหมอทวีศิลป์ประกาศว่า หมายเลขศูนย์มาถึงแล้ว…ผมจึงรู้สึกปลื้มปีติยินดีเหมือนถูกรางวัลเลขท้าย 2 ตัว 00 ยกชุดว่าอย่างนั้นเถอะ

เหตุที่ผมรู้สึกดีใจมากเป็นพิเศษอีกประการหนึ่ง ก็เพราะหากเรามองย้อนกลับไปถึงวันที่รัฐบาลคลายล็อกเฟสแรก เมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 พฤษภาคมเป็นต้นมาแล้ว…วันนี้จะเป็นวันที่สิบของการคลายล็อก

เป็นวันที่สิบของรายการ “แร้งลง” แย่งกันซื้อเหล้าเบียร์ในซุปเปอร์สโตร์ต่างๆ เป็นวันที่สิบของการเบียดเสียดในตลาดนัดและตลาดสดต่างๆ หลังเปิดวันแรกทำให้คนแห่ไปซื้อข้าวของมากกว่าปกติ

หากเหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวาย ณ วันนั้นจะทำให้มีการแพร่เชื้อมากขึ้นละก็มาถึงวันที่สิบเนี่ย ยอดติดเชื้อใหม่คงจะต้องเป็นหลายๆ สิบหรือเป็นหลักร้อยกันบ้างละ

แต่นี่กลับเป็น “0” แสดงว่า การติดเชื้อใหม่อันเกิดจากความวุ่นวายของวันแรกที่เราคลายล็อกไม่เกิดขึ้นเลย แม้จะผ่านไปสิบวันแล้ว

เราจะลุ้นต่อไปอีกจนถึงวันอาทิตย์ที่ 17 พ.ค. หรือแถมวันจันทร์ที่ 18 พ.ค.อีกวันก็ได้ ซึ่งจะครบ 14 วันพอดี หลังคลายล็อกครั้งแรก…หากยอดติดเชื้อยังเป็นหลักตัวเดียวต่ำๆ หรือมีศูนย์มาให้ชื่นชมอีกละก็

ความห่วงกังวลและความไม่สบายใจอันเกิดจากเหตุการณ์วัน “แร้งลง” และความแออัดอื่นๆ ที่เกิดขึ้นจะหมดสิ้นไปทันที

ไม่รู้นะ ถ้าดูตามแนวโน้มที่ผ่านมา หากผ่านไป 10 วันแล้ว ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปในทางเพิ่มขึ้นอย่างน่าสังเกตละก็…มักจะไม่มีอะไรร้ายๆ เกิดขึ้นในวันหลังๆ หรือวันที่ 14 อันเป็นวันสุดท้าย

ทำให้ผมแอบมั่นใจอยู่เงียบๆ ว่า วันที่เราห่วงใยกันมากๆ ดังกล่าวก็น่าจะไม่มีอะไรที่เลวร้ายมากนักเกิดขึ้นเช่นกัน

ครับ! ทั้งหมดนี้ก็คือเหตุผลเพิ่มเติมที่ทำให้ผมดีใจเพิ่มขึ้นเป็นกำลังสองเมื่อได้ยินว่า ยอดติดเชื้อ ณ วันที่ 13 พ.ค.เป็น “ศูนย์”

แต่คุณหมอทวีศิลป์ท่านก็ทำหน้าที่ของท่านในฐานะที่เป็นหมออย่างครบถ้วนสมบูรณ์แบบ โดยยํ้าไม่ให้พี่น้องประชาชนดีใจกับหมายเลข “0” จนเกินเหตุ และจงอย่าประมาท อย่าการ์ดตกเป็นอันขาด

ท่านขอให้ระมัดระวังต่อไปเพราะก่อนหน้านี้ก็ยังมีผู้ติดเชื้อ 4 รายบ้าง 5 รายบ้าง อาจมีการกระจายเชื้อออกไป โดยที่ผู้รับเชื้อยังไม่ออกอาการก็ได้

เพราะมีตัวอย่างจากจีน จากเกาหลี ซึ่งตัวเลขเป็นศูนย์ติดต่อกันหลายๆ วันแล้วด้วยซํ้า ยังกลับมาใหม่ได้ เล่นเอาทั้ง 2 ประเทศที่ว่าต้องกลับมาเหนื่อยกันอีกหน

ก็ต้องขอขอบคุณคุณหมอทวีศิลป์อีกครั้งที่กรุณาเตือนสติ ซึ่งโดยส่วนตัวผมแล้วเห็นด้วยทุกประการ และได้ปฏิบัติตามคำเตือนของคุณหมอในทันทีที่คุณหมอแถลงจบ

นั่นก็คือ หลังจากตะโกนคำว่า “ไชโย” 3 ครั้ง หน้าจอทีวีของกองบรรณาธิการไทยรัฐ เฉลิมฉลองเลข “0” เรียบร้อยแล้ว ผมซึ่งสวมหน้ากากอนามัยอยู่แล้ว ก็เดินไปล้างมือด้วยเจลที่ตั้งอยู่หน้าประตูทางเข้า เสียอีกหนึ่งรอบ พร้อมกับเดินแยกตัวไปเขียนหนังสือที่โต๊ะผม ซึ่งอยู่ห่างจากโต๊ะเพื่อนๆ เกิน 2 เมตรอยู่แล้ว

ผมขอให้สัญญากับคุณหมอว่าจะสวมหน้ากาก จะล้างมือ จะรักษาระยะห่างทางสังคมไปจนกว่ากระทรวงสาธารณสุขจะประกาศยกเลิก

สำหรับพี่น้องประชาชนอื่นๆ ก็ขอให้ปฏิบัติตามคุณหมออย่างเคร่งครัดนะครับ และถ้าหากวันที่ 17 พ.ค.นี้ มีการเปิดห้างจริงๆ ตามข่าวลือละก็ อย่าลืมป้องกันตัวเองเต็มที่ด้วยล่ะ ทั้งหน้ากาก ทั้งเฟซชีลด์ และหรือจะสวมถุงมือด้วยก็ได้…จะได้เดินห้างอย่างสบายใจ!

“ซูม”