เช็กตัวเลขเพื่อความมั่นใจ

“ป่วย+ตาย”…ถูกต้องนะครับ?
ช่วงนี้เขียนอะไรไม่ออกเลยจริงๆ ครับ เพราะเสพแค่ข่าวไวรัส “โควิด-19” ทั้งวันจนในสมองแทบไม่มีอะไรอื่นๆ นอกจากโควิด-19

ยิ่งเห็นตัวเลขและการติดเชื้อเพิ่มขึ้นที่โน่นเพิ่มขึ้นที่นี่ โดยเฉพาะในยุโรปในอเมริกาก็ยิ่งใจหายเข้าไปใหญ่

เกิดความรู้สึกกังวลขึ้นเป็น 2 เท่า…โดยเท่าแรกก็คือ กังวลว่าเจ้าไวรัสตัวนี้ช่างร้ายเหลือจริงๆ แม้แต่ประเทศยุโรปที่ได้ชื่อว่าเจริญแล้วเป็นอารยะแล้วยังเอามันไม่อยู่

อย่างเช่นอิตาลีเป็นต้น ตัวเลขล่าสุดขณะที่เขียนต้นฉบับยอดติดเชื้อพุ่งขึ้นเป็น 7,375 ราย เพิ่มวันเดียว 1,492 ราย ยอดเสียชีวิต 366 ราย เสียในวันเดียวถึง 133 ราย

เป็นเหตุให้อิตาลีต้องสั่งปิดแคว้นต่างๆในภาคเหนือถึง 4 แคว้น รวม 14 จังหวัด จำนวนประชากร 16 ล้านคน ห้ามเดินทาง ปิดโรงเรียน ปิดโรงยิมเนเซียม ปิดสนามฟุตบอล ปิดพิพิธภัณฑ์ ปิดห้องสมุด ปิดบาร์ ปิดไนต์คลับ ฯลฯ จนถึงวันที่ 3 เมษายนนี้

ยุโรปอื่นๆ ก็อาการหนักไปตามๆ กันครับ อย่างเช่นฝรั่งเศส ก็ติดเชื้อไปแล้ว 1,209 ราย เพิ่มวันเดียว 260 ราย และตายไปแล้ว 19 ราย ในขณะที่เยอรมนีก็มีผู้ติดเชื้อสูงถึง 1,040 ราย เพิ่มวันเดียว 240 ราย โชคดียังไม่มีรายงานว่าเสียชีวิต

ที่สเปนมีรายงานว่าติดเชื้อ 674 ราย เพิ่มวันเดียว 149 ราย ตายแล้ว 17 ราย ที่สวิตเซอร์แลนด์ติดเชื้อ 332 ราย ตาย 2 ราย และสหราชอาณาจักร (รวมอังกฤษด้วย) ติดเชื้อ 273 ราย ตายแล้ว 3 ราย ไปจนถึงเนเธอร์แลนด์, สวีเดน, เบลเยียม, นอร์เวย์ ติดเชื้อเกิน 200 รายทั้งสิ้น และมีรายงานว่าเสียชีวิตแล้ว 3 ราย ที่เนเธอร์แลนด์

ส่วนที่สหรัฐอเมริกานั้นมีผู้ติดเชื้อแล้ว 540 ราย เพิ่มวันเดียว 105 ราย ตายไปแล้ว 22 ราย

แสดงให้เห็นว่าไวรัสโควิด-19 ร้ายแรงจริงๆ แม้ประเทศระดับ “นานาอารยะ” ยังเหนื่อยไปตามๆ กัน

ทีนี้ก็มาถึงความรู้สึกวิตกกังวลเท่าที่ 2 (ที่ผมบอกแล้วว่ามี 2 เท่า) หลังจากนั่งดูตัวเลขล่าสุดก็คือความวิตกกังวลที่ว่า ขนาดยุโรป-อเมริกายังเจอเข้าไปหนักหน่วงทั้งติดเชื้อจำนวนมากและตายจำนวนมาก ดังตัวเลขข้างต้น

แต่ประเทศไทยของเราพบผู้ติดเชื้อเพียง 50 ราย เสียชีวิตเพียง 1 ราย (ขณะเขียน) เท่านั้นเอง

จริงแล้วผมควรจะดีใจที่สถิติของเราดีกว่าเขาเยอะมาก แต่ขณะเดียวกันก็อดระแวงเสียมิได้ว่าดีจริงๆ หรือเปล่าหนอ?

เพราะเท่าที่อ่านข่าวจากสื่อทุกสื่อในขณะนี้ รวมทั้งสื่อออนไลน์และสื่อโซเชียลด้วยแล้ว จะเห็นว่าบ้านเรามีปัญหา มีอุปสรรค มีความโกลาหลอลหม่านเกิดขึ้นมากเหลือเกิน

หน้ากากอนามัยขาดแคลน ตั้งแต่ระดับประชาชนไปจนถึงในโรงพยาบาลต่างๆ ที่ออกมาโพสต์ขอความช่วยเหลือด่วนทั่วประเทศ

เจลล้างมือ แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อก็พลอยขาดแคลนไปด้วย

ขณะเดียวกันเราก็ยังคงเปิดรับผู้เดินทางจากประเทศเสี่ยงทุกวัน และยังมีการเดินทางเข้ามาทุกวัน แม้จะมีการคัดกรองที่ดี มีการส่งตัวผู้มาจาก ประเทศเสี่ยงมากๆ ไปกักกันเพื่อสังเกตการณ์ 14 วัน และให้ผู้มาจากเขตเสี่ยงกลางๆ ดูแลตัวเองอย่าไปไหน 14 วัน แต่ก็ยังมีผู้มาจากประเทศเสี่ยงหลายๆ คนเอ้อระเหยไปโน่นไปนี่เป็นข่าวทุกวัน ฯลฯ

จะไม่ให้ผมรู้สึกกังวลใจจนอยากจะขอเช็กตัวเลขเพื่อความมั่นใจและความสบายใจได้อย่างไรล่ะครับ

เมื่อ 20 กว่าปีก่อน ผมเคยทำงานอย่างใกล้ชิดกับ 4 กระทรวงหลัก ของประเทศในการแก้ปัญหาชนบทของชาติ ได้แก่ กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงสาธารณสุข

ผมพบว่าบุคลากรของกระทรวงสาธารณสุขเป็นบุคลากรที่ดีที่สุดในบรรดากระทรวงหลักๆ ของประเทศไทยที่ผมเคยทำงานด้วย

ทุกวันนี้ผมก็ยังมีความทรงจำที่ดีและเชื่อมือกระทรวงนี้ว่าเป็นกระทรวงที่มีบุคลากรดีที่สุด มีฝีมือมากที่สุด ในบรรดากระทรวงทั้งหลาย

ทว่า สถานการณ์ไวรัสโควิด-19 มันใหญ่เหลือเกิน และข่าวบ้านเราก็สับสนเหลือเกิน…แม้ผมจะยังเชื่อมั่นในข้าราชการทุกระดับของกระทรวงนี้อยู่ แต่ก็ขออนุญาตถามละครับว่า

ตัวเลขของเรา (ณ วันที่เขียน) ติดเชื้อ 50 ราย เสียชีวิต 1 ราย…จริงแท้แน่นอนนาครับ ท่านปลัดที่เคารพ?

“ซูม”