รีวิวหนัง “The Predator” (เดอะ เพรดเดเทอร์) 6/10

เมื่ออี-โมได้ยินว่าจะมีหนังเรื่อง “The Predator” จะมีภาคใหม่มาฉายอีกครั้งก็ตื่นเต้นอยากดูมากๆ เพราะจำได้ว่าเคยดูภาคก่อนๆ มา มันลุ้นระทึก ตื่นเต้น สยองขวัญ ทุกภาค ถึงแม้จะไม่ค่อยถูกโฉลกกับหนังสยองๆ เท่าไหร่ แต่ขอให้ไม่ใช่หนังผีแบบหลอนๆ อี-โมก็พอไหว

พอได้บัตรเชิญสำหรับรอบสื่อมีหรือที่จะพลาด และเตรียมไปเสียวสยองอย่างเต็มที่กับการไล่ล่าขอผู้มาเยือนจากต่างดาว งานนี้อี-โมคาดหวังความโหด ความรุนแรง เลือดสาด การลุ้นระทึกว่าใครจะโดนเอเลี่ยนลากไปเชือดตอนไหน และจะรอดจากการไล่ล่าได้อย่าง ใครบ้าง

ส่วนเนื้อเรื่องในภาคนี้นั้นเป็นเรื่องของนักล่าจากต่างดาวที่อันตรายที่สุดในจักรวาลที่มาแบบอัพเกรดกว่าเดิมจากการตัดต่อพันธุกรรมของตนเองกับสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ในจักรวาล ซึ่ง “ควิน แมคเคนน่า” ที่ได้ต่อสู้และจัดการกับเจ้านักล่าได้ แล้วเขาได้เก็บอาวุธของนักล่าจากต่างดาวแล้วส่งไปที่บ้านของตน ปรากฎว่าลูกชายของเขาซึ่งเป็นเด็กพิเศษดันไปแกะรหัสได้ ทำให้พวกมันกลับมายังโลกอีกครั้ง และมาไล่ล่าสิ่งมีชีวิตบนโลกมนุษย์ ซึ่งก็งานเข้าพระเอกกับลูกทีม และนักวิทยาศาสตร์สาวที่จะมาช่วยกันป้องกันการไล่ล่าในครั้งนี้…เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อนั้นอี-โมก็อยากให้ไปชมกันในโรงนะคะ เราไม่สปอยล์

แต่พอดูจบตอนเดินออกมาจากโรงอี-โมก็รู้สึกงงๆ ทำไมเรื่องมันเดินเร็วจนงง บทจะจบก็จบซะงั้น บางฉากก็ไม่มีที่มาที่ไป เล่าโน่นเล่านี่ไปเรื่อย ทำให้เสียเวลา และบางช่วงก็กลายเป็นมนุษบ์สู้กันเอง กว่าเจ้า Predator จะออกมาได้ตั้งนาน…เสียเวลาชื่นชมเจ้า Predator หมดเลยค่ะ

ส่วนเรื่องบู้ล้างผลาญก็พอใช้ได้อยู่ แต่ก็ไม่โหด ไม่ลุ้น ไม่กดดันเท่าภาคก่อนๆ แถมยังมีมุกตลกแทรกอีกเป็นระยะ ยิ่งทำให้ความโหดลดลงไปอีก จนบางครั้งก็นึกว่ากำลังดูหนังตลกอยู่ หรือว่านี่คือหนังบู๊กันแน่

ในเรื่องของงานภาพและ CG ก็ถือว่าโอเคไม่ขี้เหร่

อี-โม-ขอให้แค่ 6/10 นะคะ เพราะถ้าเทียบกับภาคก่อนๆ แล้ว ขอบอกว่าชอบในเรื่องราว และการไล่ล่าของภาคก่อนๆ มากกว่าค่ะ แต่ก็อาจจะเป็นไปได้ที่ผู้กำกับอยากสร้างให้เกิดความแตกต่างจากภาคก่อนๆ จึงนำเสนอมาในรูปแบบนี้ แต่เราไปคาดหวังว่ามันจะเหมือนภาคก่อนๆ ไปเอง

อี-โม-ชั่น