ให้กำลังใจล่วงหน้า สำหรับท่านผู้ว่าฯ “พะเยา”

ขณะที่ผมนั่งเขียนต้นฉบับวันนี้ ปฏิบัติการเพื่อช่วยเหลือ 13 ทีม ฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมีรอบที่ 2 ผ่านไปสัก 5-6 ชั่วโมงเห็นจะได้  (ปฏิบัติการค้นหา 13 ชีวิต ถ้ำหลวงเชียงราย)

ผมไม่สามารถจะรอผลได้เพราะต้องส่งต้นฉบับก่อน…ก็ได้แต่เอาใจช่วยร่วมภาวนาไปพร้อมๆกับผู้คนส่วนใหญ่ ซึ่งบัดนี้ไม่ใช่เฉพาะในประเทศไทยเราเท่านั้น แต่มาจากทุกประเทศทั่วโลกเลยก็ว่าได้

ผลการช่วยเหลือชุดแรกเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาจบลงด้วยดี น้องๆ 4 คนชุดแรกออกจากถ้ำไปนอนพักรักษาตัวที่ โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ในอำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย เป็นที่เรียบร้อย

มีรายงานเพิ่มเติมว่า ทั้ง 4 คนแข็งแรง ปลอดภัย แต่ยังต้องมีการตรวจสุขภาพอย่างละเอียดตามขั้นตอนทางการแพทย์เป็นระยะๆ

จากนี้ไปก็คงต้องลุ้นต่อขอให้อีก 9 ชีวิตที่ยังคงอยู่ในถํ้าสามารถกลับออกมาได้เหมือนน้องๆ 4 คนแรก

ซึ่งถ้าฟังจากที่ท่านผู้อำนวยการศูนย์การค้นหา ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร แถลงข่าวอย่างเป็นทางการก่อนที่ผมจะเขียนต้นฉบับวันนี้ ก็พอจะเบาใจได้ว่าน้องๆ ทั้งหมดจะปลอดภัย

เพราะก่อนลงมือปฏิบัติการในทุกๆรอบ จะมีการเตรียมตัว จะมีการตรวจสอบ จะมีการประเมินสถานการณ์จนมั่นใจในทุกๆด้านแล้วจึงเริ่มลงมือดำเนินการ

ภาพจากเฟซบุ๊ก: https://www.facebook.com/ThaiSEAL/

ดังนั้นในระหว่างรอคอยการช่วยเหลือรอบใหม่อยู่นี้ผมขอเขียนถึงท่านผู้อำนวยการศูนย์การค้นหาไปพลางๆก็แล้วกัน

อย่างที่ทราบกันแหละครับว่า ท่านจะต้องไปรับตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา เมื่อเสร็จภารกิจช่วยเหลือน้องๆหมูป่าเรียบร้อยแล้ว อันเป็นผลมาจากคำสั่งโยกย้ายที่ออกมาตั้งแต่เดือนเมษายน แต่ยังรอความสมบูรณ์ครบถ้วนตามระเบียบปฏิบัติในการโยกย้ายข้าราชการระดับสูง

ภาพจากเฟซบุ๊ก: https://www.facebook.com/sisideaclub/

เผอิญว่าในระหว่างรอการโยกย้ายที่สมบูรณ์อยู่นั้นได้เกิดเหตุการณ์ “13 หมูป่าติดถํ้า” ขึ้นมาเสียก่อน ในเขตอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ท่านในฐานะที่ยังดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายจึงได้ทำหน้าที่ในการประสานงานช่วยเหลือตั้งแต่เริ่มแรก

ซึ่งก็ปรากฏว่าท่านได้แสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำที่เด็ดขาด มีการตัดสินใจที่ดี ส่งผลให้การช่วยเหลือเด็กๆ ซึ่งเต็มไปด้วยความยากลำบาก ผ่านไปทีละขั้นด้วยความเรียบร้อย

ทำให้หลายๆคนรู้สึกเสียดายเมื่อทราบว่าท่านจะต้องย้ายไปอยู่ในจังหวัดที่เล็กกว่า และเคยเป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดเชียงรายมาด้วยซ้ำ

ขณะเดียวกันก็มีการมองกันว่า การย้ายจากจังหวัดใหญ่ไปจังหวัดเล็ก ในทางศักดิ์ศรีของราชการโดยเฉพาะมหาดไทย ถือว่าเป็นการถูกลงโทษ เกิดเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ดังที่ทราบกันอยู่แล้ว

ผมเป็นคนมองในแง่บวก แม้จะเกิดความรู้สึกว่าการโยกย้ายท่านไม่เป็นธรรมเลย แต่เมื่อมีการพิจารณาไปแล้ว และหน่วยเหนือก็ตัดสินใจไปแล้ว ซึ่งท่านเองก็กล่าวในภายหลังว่า “ให้ผมไปอยู่ที่ไหนก็ได้ ดีกว่าจะต้องให้ผมทำอะไรผิดๆ”

ผมคิดว่าท่านก็คงพร้อมที่จะไป จึงขอฝากกำลังใจและฝากข้อคิดในการทำงานมาถึงท่านล่วงหน้า อย่าไปคิดอย่างข้าราชการเก่าๆเลยครับว่าจังหวัดนั้นเล็ก จังหวัดนั้นใหญ่…จากใหญ่ไปเล็ก จึงเหมือนถูกลดศักดิ์ศรี

ผมอยากให้นึกถึง “ประชาชน” หรือผู้คนในแต่ละจังหวัด ที่เราจะไปอยู่ว่า ทุกคนล้วนเป็นคนไทย มีศักดิ์ศรีเสมอกันทุกจังหวัด

เราจะไปทำงาน เพื่อประชาชนคนไทย ซึ่งไม่มีคนจังหวัดไหนใหญ่เล็กกว่ากัน ไปอยู่ที่ไหนก็ได้ทั้งนั้น ไปอยู่จังหวัดเล็กๆ ประชาชนน้อยๆจะดีกว่าตรงที่เราจะสามารถเข้าถึง และรับใช้ประชาชนได้ง่ายขึ้นและมากขึ้น

ยิ่งไปอยู่จังหวัดที่เจริญน้อยกว่า ฐานะโดยเฉลี่ยยากจนกว่า แล้วเราสามารถทำให้จังหวัดนั้นเจริญขึ้นได้อย่างผิดหูผิดตา และประชาชนจังหวัดนั้นก็อยู่ดีกินดีขึ้น อย่างเห็นได้ชัด

ผมว่านั่นแหละคือความภูมิใจ และความสำเร็จของการทำงานในฐานะข้าราชการ ที่มีหน้าที่ในการรับใช้ชาติ และแผ่นดินไทย

ไปใช้ความสามารถของท่านอย่างเต็มที่ที่จังหวัดพะเยานะครับ ผมจะคอยให้กำลังใจ.

“ซูม”