บทเรียน “ประชานิยม” “การบ้าน” รัฐบาลปีหน้า
ผมเห็นด้วยกับ “บทบรรณาธิการ” ของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับเมื่อวันพุธที่ 18 ธันวาคม ในหัวข้อ “บทเรียนลดแลก แจกแถม” เป็นอย่างยิ่ง
ผมเห็นด้วยกับ “บทบรรณาธิการ” ของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับเมื่อวันพุธที่ 18 ธันวาคม ในหัวข้อ “บทเรียนลดแลก แจกแถม” เป็นอย่างยิ่ง
อ่านข่าวท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังไปแสดงปาฐกถา เรื่องควรปฏิรูประบบภาษีของเราเป็นส่วนรวมขึ้นบ้างลดบ้าง แต่คนไทยหยิบไปตีความว่า รัฐบาลจะขึ้นภาษีแวต 15 เปอร์เซ็นต์
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วผมเขียนถึงข่าวดีของประเทศไทยว่าด้วยการเป็นแชมป์โลก ในฐานะ “ประเทศที่ควรไปเยือนสักครั้งในชีวิต ประจำปี 2024” ของนิตยสารทางออนไลน์ที่ชื่อว่า CEO WORLD ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่อเมริกา
เมื่อสัปดาห์ก่อนมีข่าวใหญ่ที่ทำให้ผมเกิดอาการ “ช็อก” ไปเสียหลายวัน ได้แก่ ข่าวตำรวจ บก.ปปป.บุกจับ “พี่ศรี” นักร้องระดับชาติและคณะ ในข้อหาข่มขู่รีดทรัพย์จากอธิบดีกรมการข้าว
ใครจะมาเป็นประธานาธิบดีคนที่ 8 ของอินโดนีเซีย ประเทศที่มีประชากรกว่า 270 ล้านคน ยังต้องลุ้นและรอผลการเลือกตั้งในวันวาเลนไทน์ 14 กุมภาพันธ์ ดังที่คอลัมน์นี้บอกเล่าไว้เมื่อวานนี้
ขอแสดงความยินดีและขอต้อนรับ คุณเศรษฐา ทวีสิน สู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทยอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ได้กล่าวไปบ้างแล้วสั้นๆในการบันทึกเหตุการณ์วัน “ฤกษ์ดี” ของประเทศไทยในฉบับเมื่อวานนี้
เขียนถึงปลัดกระทรวงมหาดไทยคนใหม่ และอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชนคนใหม่ไปเมื่อวานนี้ ก็ทำให้นึกขึ้นมาได้ว่า อีกไม่กี่วันข้างหน้าเดือนกันยายนอันเป็นเดือนสุดท้ายของปีงบประมาณ 2564 ก็จะผ่านไป
เป็นอันว่ากระทรวงคมนาคมและการรถไฟแห่งประเทศไทยจะต้องจ่ายค่าโง่ประมาณ 12,000 ล้านบาท ให้แก่ บริษัทโฮปเวลล์อย่างแน่นอนแล้ว จากการตัดสินของศาลปกครองสูงสุด
ในระหว่างที่ท่านนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เดินทางไปเยือนอังกฤษและฝรั่งเศสนั้น นิตยสารไทม์ ฉบับเอเชีย ได้นำรูปภาพของท่านขึ้นหน้าปกพร้อมกับพาดหัวเกี่ยวกับบทบาทของท่านในการเลือกทางเดินระหว่างประชาธิปไตยกับเผด็จการ
ผมเพิ่งจะเขียนถึงประเด็น “คอร์รัปชัน” ที่เปรียบเสมือน “เชื้อชั่วไม่มีวันตาย” ไปหมาดๆ หลังจากที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย สำรวจ พบว่าดัชนีคอร์รัปชันประเทศไทยกลับมาสูงเหมือนเดิม