ทุกครั้งที่มีข่าวคราวเกิดขึ้นกับจังหวัดเชียงใหม่ เมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศไทย รองจากกรุงเทพมหานครละก็ผมจะต้องอ่าน (ถ้าเป็นข่าวหนังสือพิมพ์ หรือข่าวออนไลน์) จะต้องเงี่ยหูฟัง (ถ้าเป็นข่าววิทยุ) และต้องชมดู (ถ้าเป็นข่าวโทรทัศน์)-โดยไม่ปล่อยให้ผ่านไปอย่างเด็ดขาด
ในฐานะที่ผมก็เหมือนคนไทยส่วนใหญ่นั่นแหละครับที่มีความหลังฝังใจในสิ่งที่ดีงามและสวยงามทั้งธรรมชาติและจิตใจของพี่น้องชาวเชียงใหม่ที่ได้ชื่อว่าเอื้ออารีเป็นที่ชื่นชมของผู้คนภาคอื่นๆ ทุกภาคมานับแต่ผมจำความได้
ครับ! ตอนที่ผมจำความได้ช่วงแรกๆ ราวๆ 60 ถึง 70 ปี ก่อนโน้น เคยมีเพลงฮิตอยู่เพลงหนึ่งแต่งโดย ครูไพบูลย์ บุตรขัน บันทึกแผ่นเสียงโดย สมยศ ทัศนะพันธุ์
ชื่อเพลง “มนต์เมืองเหนือ” ไงครับ บรรยายความงดงามของเมืองเหนือเอาไว้อย่างซาบซึ้ง แม้ในเนื้อเพลงจะหมายถึงเมืองเหนือหรือภาคเหนือทั้งหมดแต่คนฟังโดยเฉพาะเด็กๆ อย่างผมมักจะนึกถึงเชียงใหม่ก่อนจังหวัดในภาคเหนืออื่นๆ
ปรากฏว่าพอผมอายุใกล้ๆ 30 และต่อมาก็เกิน 30 ปี ผมก็มีโอกาสได้ไปเชียงใหม่อย่างนับครั้งไม่ถ้วน ทั้งไปเที่ยว ไปทำงานและไปสำรวจหาข้อมูลในฐานะนักพัฒนาชนบท
ได้รู้ได้พบความจริงมากขึ้นว่าเชียงใหม่ที่เป็นเมืองอันดับ 2 ของประเทศไทยนั้น แท้ที่จริงก็เป็นจังหวัดหนึ่งที่มีความยากจนแฝงเร้นอยู่อย่างเหลือเชื่อ
ยังจำ “แม่แจ่ม”, “พร้าว” “ดอยเต่า” ฯลฯ ได้จนถึงวันนี้ เพราะมีส่วนร่วมกับน้องๆที่สภาพัฒน์ กลุ่มหนึ่งเขียนบทความเชิงวิชาการ เรื่อง “เชียงใหม่ : ความยากจนที่ซ่อนเร้น” เอาไว้ในวารสารเศรษฐกิจและสังคม ของสภาพัฒน์ยุคโน้นกับเขาด้วย
แต่ไม่ว่าจะจนแค่ไหนและอย่างไรคนเชียงใหม่ก็ยังเป็นคนที่มีจิตใจงดงามและจังหวัดเชียงใหม่โดยรวมก็ยังเป็นจังหวัดที่สวยงามด้วยทรัพยากรธรรมชาติแม้บางพื้นที่จะเริ่มมีการบุกรุกทำลายป่าและทำลายต้นน้ำสายหลักๆ บ้างแล้วก็ตาม
ยุคโน้นมีการเผาป่าหรือเผาหญ้า เผานาในพื้นที่ราบข้างๆ เทือกเขาต่างๆ บ้างแล้ว แต่ยังไม่หนักหนาสาหัสอย่างทุกวันนี้
การวัดฝุ่นพิษหรือฝุ่นจิ๋วที่เรียกกันว่า PM 2.5 ยุคโน้นก็ยังไม่มีและไม่มีใครรู้ว่ามันคืออะไร
จนกระทั่งในช่วงหลายๆ ปีหลังมานี้เมื่อโลกรู้จัก PM 2.5 และเริ่มมีการวัดมีการจัดอันดับอากาศเป็นพิษก็ปรากฏว่าเชียงใหม่โผล่ไปติดอันดับในเชิงแย่สูงสุดหลายต่อหลายครั้ง
รวมทั้ง เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาเว็บไซต์ IQAIR ที่ทำหน้าที่รายงานเมืองที่มีอากาศแย่ทั่วโลกรายงานตั้งแต่เช้าตรู่ว่า เชียงใหม่ติดอันดับหนึ่งในเชิงแย่สีแดงเข้มเห็นตัวเลขแล้วก็ใจหาย
ปรากฏว่าจนบ่ายจนเย็นก็ยังติดอันดับ 1 หรือเป็นแชมป์โลกเมืองอากาศแย่อยู่ตลอดยังไม่เปลี่ยนแปลงใดๆ
ก็พอดีอ่านข่าวดูข่าวเพิ่มเติมพบว่าช่วงนี้เชียงใหม่แม้จะมีปัญหา PM 2.5 อย่างหนัก แต่ก็ยังมีคนสำคัญไปเยือนหลายคน
ทั้งอดีตนายกฯ และปัจจุบันนายกฯ ก็ไปด้วยทั้ง 2 ท่าน
โดยเฉพาะปัจจุบันนายกฯ หรือนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน นั้นท่านจะไปราชการหลายจังหวัดภาคเหนือแต่จะแวะเชียงใหม่ก่อน ถือว่าไปได้อย่างเข้าบรรยากาศ เพราะน่าจะมีโอกาสได้สัมผัสกับเชียงใหม่ในวันที่ PM 2.5 เป็นอันดับ 1 ของโลก พอดิบพอดี
ที่ผ่านมานายกฯ เศรษฐาท่านให้ความสำคัญในเรื่องนี้อยู่แล้ว และตั้งใจจะแก้ไขอย่างจริงจังถึงขั้นเคยคุยกับผู้นำประเทศเพื่อนบ้านไว้แล้วด้วยซ้ำ ในประเด็นความร่วมมือต่างๆ
ผมก็ขอให้กำลังใจท่านและขอให้ดำเนินการที่จะแก้ไขปัญหาต่อไป อย่างเข้มแข็ง…จนกว่าเชียงใหม่จะกลับมาเป็นเมืองในฝันและเป็นเมืองที่มี “มนต์” ดังเช่นเพลงฮิตในอดีตกาลอีกครั้ง
ที่จะให้เหมือนเดิมร้อยเปอร์เซ็นต์คงยากแล้ว ขออย่างเดียวอย่าให้ติดอันดับโลกเรื่องอากาศพิษบ่อยๆ ก็แล้วกัน…เดี๋ยวจะกระเทือนไปถึงซอฟต์พาวเวอร์ด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งจะเป็นเรื่องน่าเสียดายอย่างยิ่ง
1 เมษายนนี้จะมีการจัดงานสงกรานต์ที่เชียงใหม่ เป็นจังหวัดแรก––จะแก้ปัญหา PM 2.5 ได้ทันกาลไหมครับเนี่ย?
“ซูม”