วันนี้ (9 กุมภาพันธ์ 2567) ตามปฏิทินไทยของเราก็คือ วันแรม 15 ค่ำ เดือน 2 แต่ในปฏิทินจีนที่ผมและพวกเราฝ่ายข่าวกีฬาไทยรัฐได้รับแจกมาจาก “เฮียฮง” หรือสุนทร จารุมนต์ นายกสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย จะพิมพ์ด้วยถ้อยคำตัวโตๆ อ่านได้ใจความว่า “วันไหว้สิ้นปี…ไหว้รับไฉ่ซิงเอี๊ย เทพเจ้าแห่งโชคลาภ”
สรุปก็คือ วันนี้เป็น “วันไหว้” ส่งท้ายปีเก่าตามธรรมเนียมตรุษจีนของพี่น้องชาวจีนนั่นเอง
จะมีการไหว้เจ้าพ่อเจ้าแม่และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย รวมถึงบรรพบุรุษของแต่ละครอบครัว ด้วยเครื่องเซ่นไหว้ต่างๆ
ถือเป็นการเข้าสู่เทศกาลตรุษจีนอย่างเป็นทางการ เพราะเมื่อไหว้เสร็จแล้วก็มักจะนำหมูเห็ดเป็ดไก่ที่ไหว้เทพเจ้าทั้งหลายมาสับ หรือปรุงแต่งเพิ่มเติมรับประทานร่วมกันในครอบครัว หรือในบริษัท กงสี ฯลฯ
และพรุ่งนี้ซึ่งเป็น “ชิวอิก” หรือวันขึ้นปีใหม่ นอกจากจะเป็น “วันถือ” คือต้องพูดในสิ่งดีๆ และกระทำในเรื่องดีๆ แล้ว ตามธรรมเนียมจีนก็ยังเป็น “วันเที่ยว” อีกด้วย
จะมีการแต่งตัวสวยๆ งามๆ ออกไปเที่ยวโน่นเที่ยวนี่ ทั้งเพื่อไปสนุกสนานและพักผ่อน หรือไม่ก็ไปเยี่ยมกราบผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ เพื่อไปขอพร หรือไปแสดงความกตัญญูในวันอันเป็นมงคล
ประเพณี “วันเที่ยว” นี่แหละครับที่ทำให้เกิดการท่องเที่ยวอย่างขนานใหญ่ของพี่น้องชาวจีนทั่วโลก มีทั้งท่องเที่ยวในประเทศตนเอง และไปไกลถึงต่างแดนในช่วงเทศกาลตรุษจีน
ส่งผลให้ประเทศไทยเราได้รับอานิสงส์ไปด้วย เพราะมีข่าวว่านักท่องเที่ยวชาวจีนทั้งจากประเทศจีนเอง และชาวจีนจากประเทศอื่นๆ เช่น ฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย รวมทั้งไต้หวัน จะแห่มาเที่ยวบ้านเราอย่างเป็นประวัติการณ์ในช่วงตรุษจีนปีนี้
ถึงขนาดมีข่าวว่า สนามบินสำคัญ 6 แห่งของเรา จะมีผู้โดยสารทะลักเข้ามาในช่วงตรุษจีนนี้กว่า 3.5 ล้านคน เฉลี่ยถึง 350,000 คนต่อวัน เพิ่มขึ้นถึง 20 เปอร์เซ็นต์จากปีกลาย
ในขณะที่เที่ยวบินก็จะเพิ่มมากขึ้นกว่า 20,000 เที่ยว เฉลี่ยวันละกว่า 2,000 เที่ยว เพิ่มขึ้นกว่า 16 เปอร์เซ็นต์ของปีที่ผ่านมา
ผมอ่านข่าวเหล่านี้แล้วก็พลอยปลาบปลื้มใจไปด้วย และดีใจที่ประเทศไทยของเรายังมีเสน่ห์ และยังเป็นเป้าหมายที่พี่น้องชาวจีนโพ้นทะเลอยากมาเที่ยวในช่วงตรุษจีน
ไม่เพียงเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่จะทะลักเข้ามาเท่านั้น ในส่วนของการท่องเที่ยวของพี่น้องเชื้อสายจีนในบ้านเราเองก็คงจะมากขึ้นเช่นกัน
มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยคาดว่า ค่าใช้จ่ายในช่วงตรุษจีนปีนี้จะเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
ผมก็ภาวนาขอให้การคาดการณ์ถูกต้อง ขอให้การใช้จ่ายในเทศกาลตรุษจีนปีนี้จากคนไทยเราเอง จงเพิ่มขึ้นตามเปอร์เซ็นต์ที่คาดไว้ จะมากจะน้อยอย่างไรขอให้เพิ่มขึ้นก็แล้วกัน
เมื่อรวมเงินหมุนเวียนและค่าใช้จ่ายทุกประเภท ทั้งรายจ่ายจากภายนอกและรายจ่ายจากภายในคงจะทำให้จีดีพีของประเทศไทยที่หลายๆ สำนักบอกว่า เมื่อปลายปีที่แล้วอ่อนตัวลงมากนั้น–น่าจะกลับมาเพิ่มมากขึ้นในช่วงปีใหม่นี้ โดยเฉพาะจากเทศกาลปีใหม่มาจนถึงตรุษจีนที่นักท่องเที่ยวยังคงหลั่งไหลมาไม่หยุดหย่อน
จริงอยู่รายได้ท่องเที่ยวอย่างเดียวคงไม่พอ ต้องมาจากการส่งออกสินค้าสำคัญต่างๆและการใช้จ่ายเพื่อการลงทุนต่างๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนของเราควบคู่ไปด้วย
แต่ก็ช่างเถอะ เรื่องอื่นๆ เอาไว้ว่ากันทีหลัง ช่วงนี้ท่องเที่ยวกำลังปังก็ขอให้คนไทยเราทุกๆ คนร่วมกันทำหน้าที่เจ้าบ้านให้ดีที่สุด สร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยวให้มากที่สุด
ท่านที่อยู่ในวงการท่องเที่ยวก็ขอให้ต้อนรับเขาดีๆ อย่าไปขูดรีด อย่าไปฟันอะไรเขาจนเกินเหตุนะครับ เขาจะได้ติดอกติดใจกลับมาเที่ยวอีกในอนาคต
จากตรุษจีนยังมีสงกรานต์ จากสงกรานต์ยังมีลอยกระทงและอีก ฯลฯ รออยู่ข้างหน้าเหมือนน้ำซึมบ่อทราย ตักตวงได้ไม่หมดตลอดปี…อย่าเผลอไปทำอะไรไม่ดีงาม ทำลายบ่อทรายของเราไปเสียก่อนก็แล้วกันครับ.
“ซูม”