ฝากกรรมาธิการงบประมาณ ช่วยดูแล “แผนพัฒนา 13”

ในถ้อยแถลงของนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน ก่อนเสนอร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 ซึ่งมีวงเงินทั้งสิ้น 3.48 ล้านล้านบาท ให้สภาผู้แทนพิจารณาในวาระที่ 1 นั้น

ท่านได้อารัมภบทว่า ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฉบับนี้จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลตามที่แถลงไว้ต่อรัฐสภา ซึ่งจะดำเนินการให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจและฐานะการคลังของประเทศตลอดจนแนวทางการพัฒนาประเทศตามยุทธศาสตร์ชาติ

แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 13 และแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติและเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ฯลฯ และ ฯลฯ

ผมฟังแล้วก็ใจชื้นที่ท่านได้กล่าวถึงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 13 เอาไว้ด้วย

ตามประสากองเชียร์แผนพัฒนาและเห็นความสำคัญของแผนพัฒนาประเทศมาโดยตลอด ตั้งแต่หนุ่มจนเข้าวัยกลางคน และกลายเป็นผู้สูงอายุไปแล้วในขณะนี้

แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 13 นั้น ได้ประกาศใช้ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2566 เป็นต้นมา และจะไปสิ้นสุดในปี 2570

เท่ากับว่าได้ใช้แผนไปแล้ว 1 ปี ปีนี้จะเป็นปีที่ 2 ผมก็หวังว่าคงจะมีการจัดงบประมาณลงไปสนับสนุน “หมุดหมาย” 13 ประการที่ประกาศไว้ในแผนพัฒนาฉบับที่ 13 ตามสมควรนะครับ

ปีที่แล้วผมไม่ค่อยห่วงเท่าไร เพราะจัดทำโดยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ซึ่งเป็น “รัฐบาลของพรรคราชการ” กุมเสียงส่วนใหญ่…การจัดงบประมาณเพื่อแผนโน่นนี่ที่ฝ่ายข้าราชการจัดทำไว้จึงไม่ค่อยมีปัญหา

มาปีนี้แรกๆก็หนักใจ แต่ปรากฏว่ากลายเป็นรัฐบาลเก่าอีกนั่นแหละที่ทำไว้ รัฐบาลใหม่เข้ามา แม้จะมีเวลา 3 เดือน แต่ก็แก้อะไรยาก

จนโดนวิจารณ์ว่า งบประมาณไม่ตรงปกไปจากฝ่ายค้านหลายๆ ท่าน

แต่สำหรับผม ซึ่งลำเอียงมาทางฝ่ายราชการอย่างที่เรียนไว้แล้ว

ตอนต้น ยิ่งไม่ตรงปกทางการเมืองเท่าไร ก็น่าจะตรงกับแผนพัฒนาต่างๆ ที่ฝ่ายราชการอยากทำมากเท่านั้น ซึ่งก็มีการศึกษาวิเคราะห์ วิจัยแล้วอย่างดียิ่ง ก่อนจะกำหนดออกมาเป็นแผน

โดยเฉพาะแผนพัฒนาฉบับที่ 13 ที่มีหมุดหมาย 13 ประการ ล้วนแต่สำคัญทั้งสิ้น คงจะมีเงินงบประมาณไปสนับสนุนให้ทำตามแผน ไม่มากก็น้อย เพื่อให้บรรลุเป้าในหมุดหมายต่างๆ

ผมขออนุญาตคัดลอกทั้งหมดมาลงอีกครั้ง…ไม่ต้องลงรายละเอียดเห็นแต่ชื่อหัวข้อก็ควรแก่การสนับสนุนแล้วครับ…ดังนี้

หมุดหมายที่ 1 ไทยเป็นประเทศชั้นนำด้านสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูปมูลค่าสูง

หมุดหมายที่ 2 ไทยเป็นจุดหมายการท่องเที่ยวที่เน้นคุณภาพและความยั่งยืน

หมุดหมายที่ 3 ไทยเป็นฐานผลิตยานยนต์ไฟฟ้าที่สำคัญของโลก

หมุดหมายที่ 4 ไทยเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์และสุขภาพมูลค่าสูง

หมุดหมายที่ 5 ไทยเป็นประตูการค้าการลงทุนและยุทธศาสตร์ทางโลจิสติกส์ที่สำคัญของภูมิภาค

หมุดหมายที่ 6 ไทยเป็นฐานการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะที่สำคัญของโลก

หมุดหมายที่ 7 ไทยมีวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่เข้มแข็งมีศักยภาพสูงและสามารถแข่งขันได้

หมุดหมายที่ 8 ไทยมีพื้นที่และเมืองอัจฉริยะที่น่าอยู่ปลอดภัยเติบโตได้อย่างยั่งยืน

หมุดหมายที่ 9 ไทยมีความยากจนข้ามรุ่นลดลง และคนไทยทุกคนมีความคุ้มครองทางสังคมที่เพียงพอเหมาะสม

หมุดหมายที่ 10 ไทยมีเศรษฐกิจหมุนเวียนและสังคมคาร์บอนต่ำ

หมุดหมายที่ 11 ไทยสามารถลดความเสี่ยงและผลกระทบจากภัยธรรมชาติและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

หมุดหมายที่ 12 ไทยมีกำลังคนสมรรถนะสูงมุ่งเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตอบโจทย์การพัฒนาประเทศ

และ หมุดหมายที่ 13 สุดท้ายไทยมีภาครัฐที่ทันสมัยมีประสิทธิภาพและตอบโจทย์ประชาชน

เห็นหรือยังล่ะว่าแต่ละหมุดหมายถ้าเราสามารถทำได้แม้สักครึ่งหนึ่งผมก็ว่าประเทศไทยของเราจะไปไกลกว่านี้ได้อย่างแน่นอน…

จึงต้องขอฝากให้มีงบประมาณสนับสนุนตามสมควร เพื่อให้สามารถเคลื่อนขบวนได้อย่างต่อเนื่องและขอเอาใจช่วยทุกๆ หมุดหมายไว้ ณ ที่นี้อีกครั้งหนึ่งครับ.

“ซูม”

ฝากกรรมาธิการงบประมาณ ช่วยดูแล “แผนพัฒนา 13”, นายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน, พ.ร.บ., งบประมาณ, รายจ่าย, หมุดหมาย, ข่าว,​ ซูมซอกแซก, การเมือง