ผมเคยกราบเรียนท่านผู้อ่านไว้หลายๆ ครั้งแล้วว่า ผมมีความเป็นกลางทางการเมืองอย่างเคร่งครัด เอาใจช่วยทุกรัฐบาลทุกพรรคการเมืองที่ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และได้รับฉันทานุมัติจากรัฐสภาให้มาบริหารบ้านเมือง
ดังนั้นเมื่อพรรคเพื่อไทยซึ่งพิสูจน์ได้ชัดเจนว่าเคารพและยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย ที่อยู่ในแนวทางเดียวกับประชาชนส่วนใหญ่ และได้รับเสียงสนับสนุนตามรัฐธรรมนูญ ผมจึงยินดีต้อนรับมาตั้งแต่ต้น
เคยมีแผลอะไรอยู่บ้าง ดำเนินการอะไรผิดพลาดไปแล้วบ้างในอดีต ผมก็พยายามทำใจ ถือเสียว่าผู้บริหารของพรรคนี้ต่างก็แยกย้ายกันไปชดใช้หนี้กรรมที่เคยก่อไว้เป็นส่วนมากแล้ว
ติดคุกติดตะรางไปตามโทษานุโทษที่ศาลพิพากษา หนักบ้าง เบาบ้างแล้วแต่กรณีๆ ดังที่เห็นและเป็นอยู่คือในปัจจุบัน
อะไรที่พรรคนี้เคยทำไว้แล้วประสบความสำเร็จ เช่น โครงการ 30 บาทรักษาได้ทุกโรค…โครงการเปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิ…โครงการโอทอป หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ ฯลฯ ผมก็ขออนุโมทนา
สิ่งที่ผมหวังไว้ก็คือ ขอให้พรรคนี้อย่าได้ทำอะไรผิดๆ หรือทำความเสียหายใหญ่หลวงแก่ประเทศขึ้นมาอีกเท่านั้น
มองจากนโยบายและแผนงานที่พรรคเพื่อไทยแถลงว่าจะทำ และกำลังทำในขณะนี้ ผมเป็นห่วง “โครงการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท” มากที่สุด และก็ได้เขียนทักท้วงเอาไว้แล้วหลายๆครั้ง
ผมยังตั้งใจจะทักท้วงต่ออีก แต่เมื่อพรรคเพื่อไทยหันมาใช้วิธีที่จะออก พ.ร.บ.เงินกู้ ผมก็เห็นว่าไม่จำเป็นจะต้องทักท้วงอะไรอีกแล้ว
เพราะก่อนจะไปสู่รัฐสภา ย่อมจะมีผู้ทักท้วง ผู้ตรวจสอบมากมาย รวมทั้งในรัฐสภานั้นเอง ย่อมจะต้องพิจารณากันอย่างถี่ถ้วน
สรุปก็มีโครงการนี้เพียงโครงการเดียว (ณ นาทีนี้เท่าที่มองเห็น) ว่าเป็นโครงการที่น่าห่วงใยของพรรคเพื่อไทย
สำหรับโครงการบางโครงการและแผนงานอื่นๆ ผมเห็นด้วยเป็น ส่วนใหญ่ และแสดงความชื่นชมเอาไว้แล้วด้วยซํ้าในบางโครงการ
ชื่นชมตั้งแต่ตัวนายกรัฐมนตรี คุณเศรษฐา ทวีสิน ที่ผมชอบในความขยันขันแข็ง…อดทน…สู้งานและตั้งใจทำงาน
ชื่นชมในความใจกว้างที่ยอมรับโครงการดั้งเดิมที่ลงมือดำเนินการมาบ้างแล้ว หรือที่ยังไม่ดำเนินการแต่เริ่มจะดำเนินการ เช่น โครงการ EEC หรือโครงการแลนด์บริดจ์ เป็นต้น
ต่างกับบางรัฐบาลในอดีตที่มักจะชอบรื้อ ชอบเลิก ชอบระงับโครงการที่รัฐบาลอื่นๆทำไว้
ไม่เพียงแต่ไม่เลิกล้มเท่านั้น ท่านนายกฯ ยังทำหน้าที่เป็น “เซลส์แมน” ช่วยขายโครงการต่างๆ เหล่านี้ด้วย ในการไปเยี่ยมเยียนหรือมีโอกาสพบปะกับนักลงทุนใหญ่ในต่างแดน
ในส่วนที่ผมชื่นชมและอยากจะให้กำลังใจอีกโครงการหนึ่งก็คือ โครงการหรือแผนงานที่จะใช้พลัง “ซอฟต์พาวเวอร์” ของเราในการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศ
โดยการจัดตั้ง คณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ซึ่งมีนายกฯ เป็นประธาน มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็น รองประธาน และ “หมอเลี้ยบ” นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เป็นกรรมการเลขานุการ
ผมมีโอกาสได้อ่านบทสัมภาษณ์คุณ แพทองธาร ชินวัตร และคุณหมอ “เลี้ยบ” โดยทีมผู้สื่อข่าว ไทยรัฐ กรุ๊ป ที่ลงในหน้า 9 ของ นสพ.ไทยรัฐฉบับเมื่อวานนี้ และเมื่ออ่านจบก็ขอเอาใจช่วยเต็มที่
ผมตัดรายละเอียดทั้งหมดของคำให้สัมภาษณ์ในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐฉบับวานนี้ใส่แฟ้มเอาไว้แล้วครับ และจะลุ้นรอดูผลการปฏิบัติของกรรมการชุดนี้ต่อไป
ในเบื้องต้นผมอ่านแล้วก็อยากจะชมว่า มี “กึ๋น” เยอะไม่เบาทีเดียว แต่จะเดินหน้าได้แค่ไหน และประสบความสำเร็จหรือไม่? เพียงไร? คงต้องลุ้นกันต่อไปอย่างที่ว่า
พรุ่งนี้ผมจะสรุปประเด็นหลักของ “ยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์” ในสไตล์คุณ “อุ๊งอิ๊ง” และหมอเลี้ยบ พร้อมความคิดเห็นเพิ่มเติมมาสู่กันอ่านอีกสักวันนะครับ.
“ซูม”