น้อมรำลึก “ในหลวง” ร.9 “7 ปี” แห่งความทรงจำ

วันนี้ (13 ตุลาคม 2566) ตรงกับวันสวรรคตครบ 7 ปี ของพระ บาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ซึ่งนับแต่นี้ต่อไปจะมีชื่อวันว่า “วันนวมินทรมหาราช”

ตามที่รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีนายเศรษฐา ทวีสิน ได้กราบบังคมพระกรุณาขอพระราชทานพระบรมราชวินิจฉัยกำหนดชื่อวันคล้ายวันสวรรคตของพระองค์ท่าน เพื่อให้ประชาชนชาวไทยได้เรียกขานต่อไปในวันข้างหน้า

ในการนี้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้กำหนดชื่อวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรฯ ตามที่รัฐบาลกราบบังคมทูลขอพระราชทานพระกรุณาดังนั้น นับตั้งแต่นี้ไปทุกๆ วันที่ 13 ตุลาคมของทุกปี จะเป็น “วันนวมินทรมหาราช” โดยจะเริ่มนับตั้งแต่วันนี้ 13 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไป

เป็นที่ประจักษ์แก่มหาชนชาวไทยแล้วว่าในหลวงรัชกาลที่ 9 มีพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้แก่แผ่นดินไทยและพสกนิกรชาวไทยตลอดระยะเวลาที่ทรงเป็นพระมหากษัตริย์

ดังนั้นแม้พระองค์จะเสด็จสวรรคตไปอีกยาวนานสักเพียงใด พี่น้องประชาชนชาวไทยจากรุ่นถึงรุ่นก็จะรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันใหญ่หลวงของพระองค์ท่านอยู่เสมอ

การที่รัฐบาลประกาศให้ทุกๆ วันที่ 13 ตุลาคม เป็นวันนวมินทรมหาราช ก็จะยิ่งทำให้ความทรงจำและความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านสามารถส่งต่อไปได้ถึงลูกถึงหลานในอนาคตโดยไม่มีวันสิ้นสุด

สำหรับกิจกรรมหลักของปีนี้รัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน จะได้จัดพิธีสวดพระพุทธมนต์และทำบุญตักบาตร ถวายเป็นพระราชกุศลในวันที่ 13 ตุลาคม หรือวันนี้ตั้งแต่เวลา 07.30 น. เป็นต้นไป ณ ท้องสนามหลวง

ส่วนจังหวัดต่างๆ ก็จะมีพิธีช่วงเช้า ในเวลาเดียวกัน ณ ศาลากลางจังหวัด หรือสถานที่ที่จังหวัดเห็นว่าเหมาะสม และในต่างประเทศทางสถานเอกอัครราชทูตต่างๆ ก็จะมีการจัดพิธีขึ้นตามแต่จะเห็นว่าสมควร เพราะเวลานั้นแตกต่างกัน

ขณะเดียวกัน ในช่วงเวลา 16.30 น. ก็จะมีพิธีสวดพระพุทธมนต์ และเจริญจิตตภาวนาถวายเป็นพระราชกุศล ณ หอประชุมพุทธมณฑล และตามวัดในชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศ

ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้แจ้งข่าวผ่านสื่อมวลชนทุกแขนงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนเข้าร่วมพิธีดังกล่าว ณ พุทธมณฑล และวัดใกล้บ้าน หรือวัดที่ท่านสามารถเดินทางไปได้โดยสะดวก

นอกจากนี้ สำนักพระราชวังยังมีประกาศถึงพี่น้องประชาชนที่จะไปวางพวงมาลาถวายบังคมพระบรมราชานุสาวรีย์ในหลวง ร.9 ณ อุทยานเฉลิมพระเกียรติ บริเวณสนามม้านางเลิ้งเดิมนั้น ขอได้โปรดแจ้งความจำนงต่อเจ้าหน้าที่กองอำนวยการที่พร้อมจะอำนวยความสะดวกและแจ้งข้อปฏิบัติต่างๆ ในช่วงเวลา 08.00-18.00 น. ของวันที่ 12 ตุลาคม และระหว่าง 06.00-12.00 น. ของวันที่ 13 ตุลาคม

ที่ผมนำลงกราบเรียนท่านผู้อ่านเกี่ยวกับกิจกรรมต่างๆในวันนี้ เป็นเพียงบางส่วนเท่าที่มีการแจ้งมาและที่ผมอ่านพบในสื่อต่างๆ เท่านั้น เชื่อว่าน่าจะยังมีกิจกรรมทั้งของส่วนราชการและภาคเอกชนต่างๆ อีกมาก ดังนั้น หากอยู่ใกล้สถานกิจกรรมใดก็ขอให้ไปร่วม ณ ที่นั้น เพื่อความสะดวกของทุกๆท่าน

เจตนารมณ์ของพวกเราชาวไทยคือการแสดงออกถึงความจงรักภักดีและรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันใหญ่หลวงของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ไม่มีวันจะจางหายไปจากหัวใจของคนไทย

ด้วยเหตุนี้แม้ว่าจะอยู่ ณ ที่ใดเราก็สามารถแสดงออกถึงความจงรักภักดีได้เสมอ รวมทั้งที่บ้านของเราเอง

หากยังมีธง “ภปร.” สีเหลืองอยู่ที่บ้าน จะอัญเชิญมาประดับที่หน้าประตูหรือที่ริมรั้วก็ได้นะครับ แต่หากไม่มีอะไรเลยก็ประดับ “ธงชาติไทย” ซึ่งมีสัญลักษณ์ของชาติ-ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ครบถ้วนอยู่ในผืนธงไตรรงค์อยู่แล้ว

ผมยังมี “เสื้อสีเหลือง” เนื่องในโอกาสเฉลิมพระเกียรติต่างๆ อยู่อีกหลายตัว ซึ่งเก็บไว้อย่างทะนุถนอมในตู้เสื้อผ้า…ก็คงจะนำมาสวมใส่อีกครั้งในวันเสด็จสู่สวรรคาลัยครบ 7 ปี หรือวัน “สัตตมวรรษ” 13 ตุลาคมนี้ ที่เวียนมาบรรจบในวันนี้.

“ซูม”