ผมเขียนต้นฉบับวันนี้ในช่วงบ่ายๆ ของวันอังคารที่ 22 สิงหาคม 2566…“วันฤกษ์ดี” ของประเทศไทยที่จะมีการประชุมรัฐสภาเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี ตามการเสนอชื่อของพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลลอตนี้
แต่ก็ช่างประจวบเหมาะที่อดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยที่มีความผิดตามคำพิพากษาศาลหลายคดี…เลือกเป็น “วันดี” ในการเดินทางกลับบ้านของท่านเพื่อรับโทษานุโทษต่างๆดังที่ทราบกันดีอยู่แล้ว
ทำให้หวาดหวั่นกันว่า เหตุการณ์ในวันที่ 22 สิงหาคม 2566 จะเป็นไปในทิศทางใด? จะมีผลต่อการเลือกนายกรัฐมนตรีท่านใหม่หรือไม่? รวมทั้งจะเกิดความวุ่นวายอื่นใดแทรกซ้อนขึ้นหรือไม่?
ผมเองก็พลอยหวั่นๆ ไปด้วยเช่นกัน ดังที่เขียนและแสดงความรู้สึกเอาไว้บ้างแล้วในคอลัมน์นี้ฉบับเมื่อวาน
แต่พอเหตุการณ์เกิดขึ้นจริงๆ โดยเฉพาะการเดินทางกลับบ้านของอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ตั้งแต่มีข่าวว่าขึ้นเครื่องบินส่วนตัวออกมาจากสิงคโปร์แล้วจนถึงเครื่องบินมาลงที่ดอนเมืองและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมานำตัวอดีตนายกรัฐมนตรีไปดำเนินการตามขั้นตอน ซึ่งจบลงด้วยการส่งตัวเข้าสู่เรือนจำ…เป็นไปด้วยความเรียบร้อยอย่างยิ่ง
ผมเห็นภาพอดีตนายกฯ ทักษิณผูกเนกไทสีชมพู แต่มิได้สวมสูทขึ้นนั่งเครื่องบินส่วนตัว ปรากฏอยู่ในเว็บไซต์ข่าวของ บีบีซี และซีเอ็นเอ็น ตั้งแต่เวลา 8 โมงครึ่งเช้าโดยประมาณ
เว็บไซต์ข่าวดังระดับโลกทั้ง 2 เว็บพาดหัวเหมือนๆ กัน และลงภาพเดียวกันเอาไว้บนหน้า 1 ระบุว่า อดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย เดินทางกลับประเทศแล้ว หลังจากเดินทางไปต่างประเทศเป็นเวลา 15 ปี
สำนักข่าวฝรั่งส่วนมากจะใช้เวลา 15 ปีเป็นหลัก โดยนับจากวันที่ท่านกลับมากราบแผ่นดินแล้วหลบออกไปอีกครั้ง
หลังจากได้เห็นภาพ ได้อ่านข่าวดังกล่าวแล้ว อีกพักเดียวเท่านั้น ท่านก็เดินทางมาถึงดอนเมือง และหลังจากนั้นก็มีการถ่ายทอดสดให้เห็นถึงเหตุการณ์ที่อดีตนายกฯทักษิณเดินออกมาพร้อมครอบครัว
ภาพแรกคือการก้มลงกราบถวายความเคารพแด่พระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมราชินี ที่มีการประดิษฐานไว้ในบริเวณดังกล่าว
จากนั้นท่านก็ขึ้นรถเจ้าหน้าที่ไปดำเนินการโน่นนี่
จนถึงฉากสุดท้ายคือการเดินทางเข้าสู่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร
พร้อมกับประตูรั้วเหล็กใหญ่ด้านหน้าเรือนจำก็ค่อยๆ ปิดลง เหลือแต่กองทัพช่างภาพและผู้สื่อข่าวหลายร้อยคน รวมถึงมวลชนเสื้อแดงจำนวนหนึ่งที่มาต้อนรับยืนอยู่ข้างนอก
ช่วงบ่ายๆ มีท่านอธิบดีกรมราชทัณฑ์และนายแพทย์ของโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ตลอดจนผู้เกี่ยวข้องจำนวนหนึ่งออกมาแถลงข่าวว่า ได้ดำเนินการ ปฏิบัติต่อคุณทักษิณอย่างไรบ้าง? ตรวจอาการแล้วเป็นอย่างไรบ้าง?
สรุปได้ว่าดำเนินการทุกอย่างโดยปกติตามกฎกติกาที่ใช้กับผู้ต้องขังทั่วไป หากจะมีการผ่อนปรนบ้างก็เป็นการผ่อนปรนตามกฎเกณฑ์ที่ใช้กับผู้สูงอายุเท่านั้น
ส่วนผลการตรวจสุขภาพนั้นก็สรุปได้ว่า ท่านมีโรคประจำตัว หลายโรค รวมทั้งโรคหัวใจ โรคความดันสูง ฯลฯ
เป็นอันว่าในส่วนของการเดินทางกลับบ้านของคุณทักษิณ ก็ผ่านไป ด้วยความสงบเรียบร้อยไม่มีเหตุการณ์ใดๆ ที่จะนำไปสู่ความรุนแรงเกิดขึ้น
ตัดภาพไปที่บรรยากาศประชุมรัฐสภาบ้าง
ดุเดือดเฉพาะในช่วงแรกๆ ที่ท่านประธานวันนอร์เล่นลูกเฉียบขาดกับผู้อภิปรายจากพรรคก้าวไกลเท่านั้น จากนั้นเมื่อเข้าสู่วาระการอภิปรายของ สว. และ สส. ในกรณีของคุณ เศรษฐา ทวีสิน บรรยากาศดูเรื่อยๆ มาเรียงๆ ไม่มีอะไรเผ็ดร้อนมากนัก
ในที่สุดก็ได้เวลาโหวตซึ่งเริ่มตั้งแต่บ่าย 3 โมงเศษๆ ใช้เวลาแค่ 2 ชั่วโมง 40 นาที พอถึง 5 โมงกับ 40 นาทีเป๊ะ ทุกอย่างก็เรียบร้อย
คุณเศรษฐา ได้คะแนน “เห็นชอบ” ไปถึง 482 เสียง…“ไม่เห็นชอบ” 165 เสียง และงดออกเสียง 81 เสียง ส่งผลให้คุณเศรษฐาลอยลำไปสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 อย่างท่วมทัน
โดยเฉพาะเสียง สว.ต้องการแค่ 61 เสียงเท่านั้น กลับได้มาถึง152 เสียง ทะลุเป้าไปกว่าเท่าตัว
สรุป 22 สิงหาคม 2566 เป็นวันมหาฤกษ์มหาชัยจริงๆ ครับ จากนี้ไปไทยแลนด์ของเราก็เดินหน้าต่อได้ เพราะได้แล้วนายกฯ ตัวจริงเสียงจริง.
“ซูม”