สืบสานรักษาต่อยอด เพื่อ “ปวงชน” ชาวไทย

เนื่องในโอกาสที่วันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในหลวงรัชกาลปัจจุบัน 28 กรกฎาคม 2566 เวียนมาบรรจบอีกครั้งในวันนี้

ผมขอกราบเรียนเชิญชวนท่านผู้อ่านทุกท่านร่วมแรงร่วมใจกันถวายความจงรักภักดี และน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระพรชัยมงคลแด่พระองค์ท่านอย่างพร้อมเพรียงกันดังเช่นทุกๆ ปีที่ผ่านมานับตั้งแต่ พ.ศ.2559 ที่เสด็จขึ้นครองราชสมบัติ

เพราะตลอดเวลาที่พระองค์ทรงดำรงตำแหน่งพระมหากษัตริย์นั้นได้ปฏิบัติพระราชภารกิจอย่างครบถ้วนดังพระปฐมบรมราชโองการที่ทรงประกาศในวันบรมราชาภิเษก 4 พฤษภาคม 2562 ความว่า “เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอดและครองแผ่นดินโดยธรรมเพื่อประโยชน์สุขแห่งราษฎรตลอดไป” ทุกประการ

อันหมายถึงพระราชกรณียกิจจากโครงการในพระราชดำริ และโครงการพัฒนาอื่นๆ ที่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรฯ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงริเริ่มไว้นั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบันไม่เพียงแต่จะ “รักษา” ไว้เท่านั้น ยังจะทรง “สืบสาน” และ “ต่อยอด” ให้มีการพัฒนายิ่งๆ ขึ้นไปอีก

เมื่อปีที่ผ่านมาผมได้เขียนรายงานท่านผู้อ่านไว้แล้วว่า พระองค์ท่านทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้องคมนตรีเข้าไปกำกับดูแลโครงการพระราชดำริกว่า 4,000 โครงการให้ก้าวหน้าต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง

นอกจากนี้ยังมีข่าวจากสำนักงาน กปร.เกี่ยวกับโครงการในพระราชดำริที่รัชกาลปัจจุบันทรงริเริ่มเพิ่มเติมขึ้นในภายหลัง รวมทั้งที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับโครงการที่ราษฎรขอพระราชทานความช่วยเหลือไว้แล้วนับร้อยโครงการนับแต่ขึ้นทรงราชย์เป็นต้นมา

ล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่แล้วนี้เอง หนังสือพิมพ์หลายฉบับ รวมทั้งไทยรัฐก็ได้ลงข่าวว่า ในหลวงรัชกาลที่ 10 ทรงรับ โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ จำนวน 9 แห่ง ให้อยู่ในการดูแลของมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ และทรงพระบรมราชานุญาตเปลี่ยนชื่อเป็น โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ หมายเลขต่างๆ จาก 58-66 เพิ่มเติมจากที่มีอยู่เดิม

ทั้ง 9 โรงเรียนเพิ่มเติมดังกล่าวนี้มีทั้งที่อยู่ในจังหวัด ปริมณฑล เช่น นนทบุรี ไปจนถึงต่างจังหวัดห่างไกล เช่น ร้อยเอ็ด เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน สุราษฎร์ธานี พัทลุง นราธิวาส ฯลฯ ครบทุกภาค

ทั้ง 9 โรงเรียนล้วนรับหน้าที่ในการดูแลเด็กที่อยู่ในภาวะยากจนและยากลำบากอย่างยิ่งในทุกด้าน จำเป็นต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ ซึ่งการที่พระองค์ทรงรับเข้าอยู่ในมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ จะทำให้นักเรียนได้รับการดูแลที่ดีขึ้น ได้รับโอกาสทางการศึกษาที่ดีขึ้น มีประสิทธิภาพในการเรียนการสอนทั้งด้านวิชาการและการอาชีพควบคู่กันไป

นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบันที่มีต่อพสกนิกรที่ยากจนโดยตรง

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของพระราชกรณียกิจที่แสดงให้เห็นอย่างเด่นชัดว่าในหลวงรัชกาลที่ 10 ได้ทรงปฏิบัติตามพระปฐมบรมราชโองการว่าด้วย “การสืบสานรักษาและต่อยอด” เพื่อประโยชน์สุขแห่งราษฎรทุกหมู่เหล่าดังที่ทรงตั้งพระราชปณิธานไว้

ผมขอเชิญชวนพี่น้องชาวไทยโปรดร่วมจิตร่วมใจอย่างพร้อมเพรียงกันอีกครั้งหนึ่ง เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2566 เวียนมาบรรจบวันนี้ เพื่อร่วมในกิจกรรมต่างๆ ที่จะมีการจัดขึ้นทั่วประเทศ

โดยเฉพาะในส่วนกลางจะมีพิธีทางศาสนาในภาคเช้าและพิธีถวายเครื่องราชสักการะและวางพานพุ่มตลอดจนพิธีจุดเทียนถวาย พระพรชัยมงคลเวลา 19.09 น. ณ ท้องสนามหลวง

ส่วนต่างจังหวัดจะจัด ณ ศาลากลางจังหวัด หรือในบริเวณที่สาธารณะที่เห็นสมควร และเหมาะสม ขอให้พี่น้องประชาชนติดตามข่าวด้วย เพื่อไปร่วมถวายพระพรชัยมงคลจากใจของพวกเรา

ขอพระองค์จงทรงพระเจริญ สถิตเป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่าตลอดไปตราบนานแสนนาน.

“ซูม”

อ่านคอลัมน์ “เหะหะพาที” เพิ่มเติมได้ที่

สืบสานรักษาต่อยอด เพื่อ “ปวงชน” ชาวไทย, วันเฉลิมพระชนมพรรษา, รัชกาลที่ 10,​ พระราชกรณียกิจ, โครงการในพระราชดำริ,​ ข่าว, ซูมซอกแซก