มีข่าวจากหนังสือพิมพ์และสำนักข่าวออนไลน์หลายๆ สำนักว่า วันจันทร์ที่ 30 มกราคม ที่จะถึงนี้ ท่านนายกรัฐมนตรี “บิ๊กตู่” พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จะไปลงพื้นที่ตรวจราชการที่จังหวัดนครสวรรค์และพิจิตร ตั้งแต่ 9 โมงเช้าเป็นต้นไปเลยทีเดียว
แม้งานบางอย่างที่ท่านจะไปตรวจน่าจะซ้ำกับที่ “บิ๊กป้อม” ปาด…เอ๊ย! เดินทางไปตรวจเมื่อสัปดาห์ก่อนโน้นอยู่บ้าง เช่น โครงการบริหารจัดการน้ำที่เรียกว่า “สี่แควโมเดล” เป็นต้น…แต่ก็มีอีกหลายๆ งานและหลายโครงการที่ไม่ซ้ำกัน
โดยเฉพาะพื้นที่ตรวจงานนั้นมีซ้ำอยู่หน่อยเดียว นอกนั้นก็เป็นคนละอำเภอและยังข้ามจังหวัดไปถึงพิจิตรด้วย
โครงการสำคัญที่บิ๊กป้อมไม่ได้ดู…แต่บิ๊กตู่ท่านจะแวะไปดู ได้แก่ โครงการ “เกษตรอินทรีย์” ที่ตำบลบ้านมะเกลือ อำเภอเมืองนครสวรรค์ซึ่งมีข่าวว่าบิ๊กตู่จะขับรถดำนาลงสู่แปลงนาข้าวปลอดภัย หรือ “ข้าวรักษ์โลก” ร่วมกับชาวนาที่นั่นอย่างใกล้ชิด
คงจะได้พื้นที่ข่าวจากภาพสวยๆ ขณะขับรถไถนาลุยท้องนาพอสมควรละครับ
จากนั้นจะไปเยี่ยม โรงพยาบาลบรรพตพิสัย ที่อำเภอ บรรพตพิสัย เยี่ยมชมนิทรรศการของโรงพยาบาล และฟังบรรยายสรุปการบริหารจัดการน้ำการเกษตรที่บึงบอนควบคู่ไปด้วย
ตกบ่ายค่อยออกเดินทางต่อไปจังหวัดพิจิตร ตรวจเยี่ยม โรงพยาบาลบึงนาราง อ.บึงนาราง ไปจนถึง โรงพยาบาลบางมูลนาก และจะใช้เวลาอยู่ที่บางมูลนากจนถึงเย็นๆ ค่อยขึ้น ฮ.กลับมาลงที่กองบิน 4 อำเภอตาคลี เพื่อนั่งเครื่องบินกลับกรุงเทพฯ เวลา 18.00 น.
อ่านรายชื่อของอำเภอหรือตำบลที่เป็นที่ตั้งของโครงการหรือโรงพยาบาลต่างๆ แล้ว ผมก็มองเห็นภาพอย่างทะลุปรุโปร่ง ในฐานะที่เป็นคนแถบนั้นและสมัยหนึ่งก็ออกตระเวนไปรอบๆพื้นที่เหล่านี้ จนจำได้อย่างติดตาติดสมองมาโดยตลอด
โดยเฉพาะ โรงพยาบาลบรรพตพิสัย ที่อำเภอบรรพตพิสัย บ้านเกิดผมนั้น เห็นมาตั้งแต่ยังเป็นอาคารไม้แบบ “สุขศาลา” กลางทุ่งนาที่แต่ก่อนเคยเป็นบึงแล้วค่อยๆ พัฒนาจนกลายเป็นโรงพยาบาลขนาด 90 เตียง ที่มีตึกรวม มีหอผู้ป่วย มีเรือนพักผู้ป่วยใหญ่โตพอใช้ในทุกวันนี้
การไปเยี่ยมอำเภอบรรพตพิสัยของบิ๊กตู่ทำให้ผมอดที่จะนึกถึงภาษิตไทยแต่โบราณ ที่ว่า “ช้างเหยียบนาพระยาเหยียบเมือง” เสียมิได้
ในอดีตที่ผ่านมาสมัยผมเป็นเด็กๆ นั้นการเดินทางไปสู่อำเภอนี้ค่อนข้างยากลำบาก ต้องอาศัยการนั่งเรือวิ่งทวนแม่นํ้าปิงแต่เพียงสถานเดียว นั่งกันครึ่งค่อนวันกว่าจะถึง
ข้าราชการเบิ้มที่สุดที่ไปเยือนอำเภอนี้สมัยผมเป็นนักเรียนและคุณครูท่านเกณฑ์มารับเท่าที่จำได้ ก็คือท่าน ศึกษาธิการจังหวัด เท่านั้น แม้แต่ท่านผู้ว่าฯ หรือท่านปลัดจังหวัดยังไม่เคยไปด้วยซํ้า
นายกรัฐมนตรีท่านแรกที่ไปเยี่ยมเท่าที่ผมจำได้ก็คือ “ป๋าเปรม” พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ นั่นเอง…เนื่องจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ โดยท่าน ผอ.กำพล วัชรพล ไปสร้าง โรงเรียนไทยรัฐวิทยา 59 (วัดสังขวิจิตร) ที่บ้านตาสังข์เหนือ อำเภอบรรพตพิสัย พอถึงวันเปิด ท่าน ผอ.กำพล ไปกราบเรียนเชิญป๋าเป็นประธาน ซึ่งป๋าก็กรุณารับปากในทันที
จำได้ว่าพี่น้องประชาชนชาวบรรพตพิสัยที่ทราบข่าวต่างก็ไปต้อนรับกันมากมายแน่นวัดตาสังข์เหนือไปเลยทีเดียว
จากนั้นผมไม่แน่ใจว่าจะมีนายกรัฐมนตรีท่านอื่นๆ ไปเยี่ยมเยือนอีกหรือไม่? เดาว่าคงมีละครับ เพราะในช่วงหลังๆ การไปอำเภอนี้ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรอีกแล้ว
กล่าวในเชิงความเชื่อและวัฒนธรรมประเพณีไทยที่ยังยึดมั่นในภาษิต “ช้างเหยียบนา พระยาเหยียบเมือง” การไปเยือนอำเภอบรรพตพิสัยครั้งนี้น่าจะเป็นที่พึงพอใจและภูมิใจของชาวบ้านแถวๆ นั้นอยู่ไม่น้อย
แต่เนื่องจากอำเภอนี้น่าจะเป็นเขตของสมาชิกพรรคพลังประชารัฐที่ได้รับความนิยมมาก และถ้าจำไม่ผิดดูเหมือนจะได้เป็น ส.ส. เมื่อคราวที่แล้ว
ดังนั้นในทางการเมืองจะมีผลอะไรบ้าง (หมายถึงว่าน้องตู่จะสามารถช่วงชิงคะแนนเสียงมาจากพี่ป้อมได้หรือไม่ในเขตนี้) คงต้องติดตามกันต่อไป
ผมเองไม่ยุ่งเรื่องการเมืองอยู่แล้ว วางตัวเป็นกลางอย่างเคร่งครัดมาทุกยุคทุกสมัย…ที่เขียนวันนี้ก็เพื่อจะขอบคุณที่ท่านไปเยือนถิ่นเกิดของผมเท่านั้นเอง
ส่วนพี่น้องที่อำเภอเกิดของผมจะเลือกใคร? อยู่ที่วิจารณญาณของพี่น้องครับ…เรื่องวิเคราะห์การเมืองอะไรต่างๆ เนี่ย คนอำเภอผมเป็นตัวของตัวเองมานานแล้วครับ…ขอบอก!.
“ซูม”