ดังที่ทราบกันดีแล้วว่า สัปดาห์นี้ทั้งสัปดาห์ ประเทศไทยของเราจะเป็นเจ้าภาพงานใหญ่ระดับโลก…นั่นก็คือการจัดประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิก ครั้งที่ 29 หรือที่เรียกกันว่า “APEC 2022” ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพมหานคร

แม้รัฐบาลจะมีมติให้หยุดราชการพิเศษเป็นเวลา 3 วัน ใน 3 จังหวัด ได้แก่ กทม., นนทบุรี และ สมุทรปราการ…ตั้งแต่วันนี้ (16 พ.ย.) ไปจนถึงวันศุกร์นี้ (18 พ.ย.)…แต่โดยข้อเท็จจริงแล้ว การประชุม APEC 2022 ได้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่วันจันทร์ที่ 14 พ.ย.ที่ผ่านมา

โดยในช่วงแรกเป็นการประชุมเจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสขึ้นก่อน จากนั้นตามมาด้วยการประชุมระดับรัฐมนตรีในวันที่ 17 พฤศจิกายน และการประชุมระดับ “ผู้นำ” ในวันที่ 18 และ 19 พฤศจิกายน

สำหรับรายชื่อผู้นำของประเทศต่างๆ ที่จะมาร่วมประชุมนั้น กระทรวงการต่างประเทศได้แถลงออกมาหลายวันแล้วว่า จะมีท่านใดมาบ้าง…แม้จะขาดบุคคลระดับโด่งดังของโลกไปบ้าง 2-3 ท่าน แต่ก็เข้าใจถึงเหตุผลที่ท่านจำเป็นต้องส่งตัวแทนมาประชุม

ดังเช่น ท่านประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซียนั้น เป็นที่คาดอยู่แล้วว่า ท่านคงมาไม่ได้ เพราะท่านอยู่ระหว่างรบทัพจับศึก ทำสงครามกับยูเครนและนาโต…จะให้ออกจากประเทศของท่านไปที่ใดที่หนึ่งคงเป็นไปได้ยาก

ส่วนประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ก็มีข่าวว่าท่านติดภารกิจในครอบครัว ต้องเป็นเจ้าภาพงานแต่งงานของญาติสนิท ซึ่งตรงเป๊ะกับช่วงเวลาประชุมเอเปกครั้งนี้พอดิบพอดี จึงมอบให้รองประธานาธิบดี คามาลา แฮร์ริส มาแทน

สำหรับท่านประธานาธิบดีจีน ท่าน สี จิ้นผิง นั้น ในรายชื่อยืนยันว่ามาแน่นอน…ทำให้การประชุมครั้งนี้มีสีสันและมีความหมายในสายตาชาวโลกขึ้นอีกหลายเท่า

นอกจากนี้ก็ยังมีรายชื่อผู้นำดังๆ อื่นๆ เช่น คุณ จัสติน ทรูโด แห่งแคนาดา และผู้เข้าประชุมพิเศษที่เป็นแขกเชิญครั้งนี้ เช่น ประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส และเจ้าชาย มูฮัมหมัด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมาร และนายกรัฐมนตรีซาอุดีอาระเบีย และอีกหลายๆ ท่าน

ไม่ขี้เหร่เลยครับ สำหรับรายชื่อผู้นำที่จะมาประชุมครั้งนี้

โดยความเห็นส่วนตัวของผมการที่ประเทศต่างๆจะหันมาร่วมมือกันทางด้านเศรษฐกิจเป็นหลัก แต่หลังๆก็รวมด้านสังคมไว้ด้วย เป็นเรื่องที่ดีและควรสนับสนุนให้เกิดขึ้นในหลายๆพื้นที่ของโลกเท่าที่จะสามารถเกิดขึ้นได้

แต่ผมก็เข้าใจดีว่าในการรวมของประเทศที่อยู่ห่างไกล แม้จะมีมหาสมุทรเชื่อมถึง เช่น กลุ่มเอเชียแปซิฟิกดังกล่าว…คงไม่ใช่เรื่องง่ายๆนักที่จะตกลงอะไรกันได้ง่ายๆ

แถมอยู่ไปนานๆประเทศสมาชิกระดับพี่เบิ้มของกลุ่มรวม 3 ประเทศ กลับกลายมาเป็น “คู่กัด” มีเรื่องกระทบกระทั่งกัน เช่น จีน สหรัฐฯ หรือสหรัฐฯ รัสเซีย ก็เป็นเรื่องธรรมดาของประเทศมหาอำนาจ ซึ่งมักขัดแย้งกันอยู่เสมอๆ ประสาคนมีอำนาจมากกว่าคนอื่นๆ

จะไปหวังให้การรวมตัวรวมกลุ่มของ APEC ราบรื่นไปเสียทั้งหมดคงไม่ได้อย่างแน่นอน

แค่การรวมกลุ่มกันไว้ก็ยังดีกว่าการแตกออกไปคนละทิศคนละทาง…ทะเลาะกันแค่ไหนอย่างไรก็ยังอาจใช้เวทีนี้มาเจอะเจอกันได้

ผมจึงเอาใจช่วยการรวมตัวของกลุ่ม APEC มาตลอดนับตั้งแต่การประชุมทั้ง 2 ครั้ง ในประเทศไทย (2535-2546)

ดังนั้นเมื่อการประชุม APEC หวนกลับมาประชุมในบ้านเราอีกครั้ง …นอกจากการประชุมระดับผู้นำประเทศสมาชิก หรือฝ่ายรัฐแล้วยังมี อีกหลายระดับรวมถึงภาคเอกชน ที่ ไอคอนสยาม ด้วย ควบคู่กันไป

ย่อมจะส่งผลดีในการค้าขาย หรือความร่วมมือทางเศรษฐกิจของภาคธุรกิจเอกชนต่อไปในอนาคต

ผมหวังว่าการประชุม APEC 2022 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจะจบลงด้วยดี และแม้มีข่าวลือโน่นนี่เป็นระยะๆ แต่ก็หวังว่าจะไม่มีอะไรที่ร้ายแรงเกิดขึ้น

ช่วงนี้ประเทศไทยเรากำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจดังที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยคาดหมายไว้ และผมหยิบมาเขียนกราบเรียนท่านผู้อ่านเมื่อวานนี้

ได้การประชุม APEC 2022 มาช่วยเสริม…ก็ยิ่งจะทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างดียิ่งขึ้นไปอีก

อย่าทำให้บรรยากาศดีๆ เช่นนี้ต้องสูญเสียไปเลยครับ…ผมขอร้องและขอฝากเอาไว้ด้วยก่อนจบคอลัมน์วันนี้.

“ซูม”