จากใจคนรัก “กระดาษ” หวั่น “หวยกระดาษ” จะสูญพันธุ์

ผมอ่านข่าวว่า “หวยดิจิทัล” ขายดีมาก สามารถขายได้ถึง 4 ล้าน กว่าใบ หลังจากเปิดจำหน่ายเพียงแค่ 3 วัน และน่าจะทะลุเป้า 5 ล้านใบที่ตั้งไว้ก่อนกำหนด

ขณะเดียวกันก็มีข่าวเศร้าๆคู่ขนานไปว่า “หวยกระดาษ” หรือสลากกินแบ่งฯ ตัวจริงเสียงจริงคู่ประเทศไทยมายาวนานมาก ยอดขายหล่นฮวบทันที เหลือแบะแบนตามแผงทั่วประเทศ

มองในมุมหนึ่งก็ถือว่าดีและสมน้ำหน้าผู้ค้าสลากต่างๆ เพราะราคาแค่ 80 บาท ดันเอามาขายเป็นร้อยบาทหรือเกินกว่านั้น

รัฐบาลจึงหาทางแก้ปัญหาด้วยการออกหวยดิจิทัล ซึ่งก็ได้ผลอย่างมาก เพราะซื้อได้ในราคา 80 บาท และด้วยเหตุที่หวยกระดาษเหลือแบะแบน ในที่สุดก็จะต้องลดราคาลงมา เผลอๆ อาจจะต้องขายในราคาไม่ถึง 80 บาทด้วยซ้ำไป หากขายไม่ออกเอาจริงๆ

ถือเป็นการแก้ปัญหาหวยเกินราคาได้อย่างถูกจุด

เผอิญผมเป็นคนไม่ชอบ “ดิจิทัล” เพราะความทารุณโหดร้ายของมัน ทำให้สินค้าที่ผมรักหลายๆ อย่างต้องตายลงไปอย่างเลือดเย็น

เช่น ผมเป็นคนรัก “หนังสือ” และชอบอ่านหนังสือกระดาษเป็นเล่มๆ ซึ่งก็ปรากฏว่า ระยะหลังๆ สำนักพิมพ์ต่างๆ พิมพ์น้อยลง จะพิมพ์ก็แต่สำหรับคนสั่งจองเท่านั้น ทำให้ธุรกิจร้านหนังสือซบเซาลง เพราะคนรุ่นใหม่หันไป อ่านหนังสือ “ออนไลน์” กันเสียหมด

ผมเป็นคนรัก “นิตยสาร” กระดาษ แต่ในที่สุดเพชฌฆาตดิจิทัลก็สังหารนิตยสารกระดาษเหล่านั้นจนไม่เหลือหลอ

ปัจจุบันนี้เจ้าดิจิทัลก็ยังทำให้หนังสือพิมพ์รายวันกระดาษซวดเซเหนื่อยสาหัสไปตามๆ กัน

เห็นความทุกข์ร้อนของสินค้ากระดาษแบบนี้ คนรักกระดาษอย่างผมจึงพลอยลำเอียงไม่ชอบระบบดิจิทัลขึ้นมาตงิดๆ

เมื่อมาได้ข่าวว่า “หวยกระดาษ” ของรัฐบาล ที่ผมถือว่าเป็นผู้ใช้กระดาษเหมือนผมกำลังเหลือแบะแบน เพราะผู้คนหันไปเล่นหวยดิจิทัลอย่างท่วมท้น ผมจึงใจหายวูบ

นี่เป็นเหมือนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับสินค้ากระดาษประเภทสื่อสิ่งพิมพ์ ตอนแรกๆ ไม่ผิดเพี้ยน ค่อยๆ คืบเข้ามาในที่สุดก็กลืนกินไปได้ทั้งหมด

ผมคาดเดาว่า หากรัฐบาลโดยเฉพาะกองสลากฯ ไม่วางแผนให้ชัดเจน และแน่นอนว่าจะจำกัดหวยดิจิทัลไว้แค่ไหน และหวยกระดาษแค่ไหน (เพื่อให้อยู่กันได้) ในที่สุดก็จะเหลือเพียงหวยดิจิทัลอย่างเดียว

เพราะเล่นง่ายกว่า ยั่วใจมากกว่า และทุ่มซื้อได้สะดวกกว่า

ผมจึงใคร่ถือโอกาสนี้ฝากความในใจไปถึงท่านประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล ให้คำนึงถึงความพอดีด้วย…หวยดิจิทัลจะมีก็ไม่ว่าอะไร แต่หวยกระดาษก็ต้องอยู่คู่กันไป

ในความเห็นของคนที่อยู่กับสังคมไทยมายาวนานพอสมควร ผมมีความเห็นว่า หวยกระดาษนั้นเปรียบเสมือนสินค้าวัฒนธรรมที่เก่าแก่ของคนไทยประการหนึ่ง เป็นสินค้าแห่งความสุขและความหวังที่คนไทยฝากไว้มาแต่โบราณกาล

ผมเห็นปู่ย่าตายายผมและคนแก่คนเฒ่าบ้านผมเล่นหวยมาตั้งแต่เด็กๆ และเขาก็ไม่ได้เล่นแบบเอาเป็นเอาตาย เล่นแบบซื้องวดละใบ 2 ใบ เผื่อลุ้นหาความสุขและความหวังเท่านั้น

ท่านประธานทราบไหมว่า ยุคหนึ่งหวยกระดาษของท่านได้ก่อให้เกิดการจ้างงานขึ้นทั่วประเทศ ไม่เฉพาะพ่อค้าแม่ค้าลอตเตอรี่เท่านั้น… ยังรวมไปถึง หนังสือพิมพ์ รายลอตเตอรี่ของต่างจังหวัดที่ออกสู่ท้องตลาดได้ เพราะนำเสนอผลการตรวจลอตเตอรี่ของท่านทุกๆ 15 วัน

ทำให้เด็กๆ ต่างจังหวัดมีรายได้เสริมจากการวิ่งขายหนังสือพิมพ์ฉบับลอตเตอรี่พอเป็นค่าขนมช่วยพ่อแม่ได้บ้าง

การที่ระบอบดิจิทัลเข้ามาได้ทำให้วัฒนธรรม และวงจรการจำหน่ายหนังสือพิมพ์ต่างจังหวัด รวมทั้งการจ้างงานในลักษณะนี้เสื่อมหายไปมาก เพราะระยะหลังๆ ผู้คนหันไปตรวจลอตเตอรี่ทางดิจิทัลกันหมด

ผมจึงเดาว่า ในอนาคตอันไม่นานนี้ ถ้าท่านไม่หาทางยับยั้งหวยดิจิทัลไว้บ้าง หวยกระดาษต้องตายแน่นอน

ตายเหมือนสินค้ากระดาษอื่นๆ ที่ผมกล่าวไว้ตอนต้น…คนรักกระดาษอย่างผม จึงต้องออกมาโต้แย้งแบบข้างๆ คูๆ มีเหตุผลบ้าง ไม่มีเหตุผลบ้าง ฝากเป็นข้อคิดไว้ในเชิงขอความเห็นใจด้วยประการฉะนี้

ด้วยเหตุผลเดียวเท่านั้น ผมยังไม่อยากเห็น “หวยกระดาษ” ตายไป ต่อหน้าต่อตาอีกอย่างหนึ่งนะครับ ท่านประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลไทย.

“ซูม”

ข่าว, หวยกระดาษ, หวยดิจิทัล, สลากกินแบ่งรัฐบาล, ลอตเตอรี่, ซูมซอกแซก