ข้อคิดจากสาวน้อย “วัย 18” แชมป์ “ยูเอส โอเพ่น” ล่าสุด

สัปดาห์ที่ผ่านมาเรื่องราวและความสำเร็จของ “คนรุ่นใหม่” โดยเฉพาะเด็กสาววัยทีนเอจ 2 คน ได้กลายเป็นเรื่องที่พูดถึงกันทั่วโลกแบบ “ทอล์ก ออฟ เดอะ เวิลด์” อยู่หลายวัน

ได้แก่เรื่องราวของการชิงแชมป์เทนนิสระดับแกรนด์สแลม หรือรายการใหญ่ของโลกรายการสุดท้ายแห่งปี “ยูเอส โอเพ่น” ที่มหานครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เมื่อวันเสาร์ที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา

รายการนี้มีเงินรางวัลสำหรับแชมป์สูงที่สุดในโลก คือสูงถึง 2.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เท่ากัน ทั้งแชมป์ชายและแชมป์หญิง คิดเป็นเงินไทยแล้วก็ประมาณ 82 ล้านบาท เป็นเศรษฐีคนใหม่ไปเลยทีเดียว

ข่าว, ยูเอส โอเพ่น, เอ็มมา ราดูคานู, นักเทนนิส, ลูกชิ้นยืนกิน, ลิซ่า, ซูมซอกแซก

ปรากฏว่าคู่ชิง “หญิงเดี่ยว” กลายเป็นเด็กสาวอายุ 18 ปีเศษจากอังกฤษ ซึ่งเป็นลูกผสม พ่อเป็นโรมาเนีย แม่เป็นคนจีน เกิดที่แคนาดามาโตที่ลอนดอน กับเด็กสาวอีกคนอายุ 19 ปีเศษ พ่อเป็นชาวกัวเตมาลา แม่เป็นชาวฟิลิปปินส์ในแคนาดา…เมื่อเกิดแล้วก็อยู่อาศัยที่แคนาดา

เด็กสาวอังกฤษนั้นชื่อ เอ็มมา ราดูคานู ส่วนเด็กสาวแคนาดาชื่อ เลย์ลาห์ เฟอร์นานเดซ ไม่คุ้นหูแฟนเทนนิสมาก่อนทั้ง 2 คน

ความฮือฮานั้นอยู่ตรงที่ทั้ง 2 สาวต่างปราบนักเทนนิสรุ่นพี่ระดับมือพระกาฬมาแบบเรียบวุธจนได้เข้าชิงกันอย่างเหลือเชื่อ

ผลที่สุด เอ็มมา ราดูคานู เด็กสาวอังกฤษ เป็นฝ่ายชนะไป 2 เซตรวด 6-4, 6-3 คว้าถ้วยรางวัลอันยิ่งใหญ่และเงิน 82 ล้านบาทไปครอง แถมทำสถิติเอาไว้มากมาย

ส่วน เลย์ลาห์ เฟอร์นานเดซ คนแพ้ ซึ่งได้เงินรางวัลกึ่งหนึ่ง คือ 1.25 ล้านเหรียญ หรือกว่า 40 ล้านบาท ก็กลายเป็นเศรษฐินีน้อยๆ ไปด้วยเช่นกัน

ทันทีที่ได้แชมป์ยูเอส โอเพ่น ชื่อเสียงของเด็กสาววัย 18 เอ็มมา ราดูคานู ก็ดังกระฉ่อนโลก กลายเป็นเป้าที่สื่อมวลชนพุ่งเข้าหาเพื่อสัมภาษณ์ซักถามเรื่องราวต่างๆนานา

เธอเผยเคล็ดลับว่า ที่เธอมาถึงจุดนี้ได้ก็เพราะเลียนแบบคุณแม่ของเธอที่เป็นชาวจีนอพยพไปอยู่แคนาดา และยังมีความผูกพันอยู่กับบ้านเกิดที่ เสิ่นหยาง แผ่นดินใหญ่ มีเวลาว่างก็จะกลับไปเยี่ยมเสมอๆ

เธอเล่าตอนหนึ่งว่า แม่ของเธออดทนมาก ขยันมาก มีวินัยมาก และได้ถ่ายทอดคุณสมบัติดังกล่าวนี้ให้แก่เธอ

ทำให้เธอกลายเป็นคนอดทน ขยันขันแข็ง และมีวินัยในการฝึกซ้อมอย่างหนักมาก จนเดินมาได้ถึงจุดนี้

ทุกครั้งที่เธอเหนื่อยและท้อก็จะนึกถึงแม่ที่เป็นคนใจสู้และไม่ยอมท้อแท้อะไรง่ายๆ ที่เธอเห็นมาตั้งแต่เด็กๆ

อีกประเด็นหนึ่งที่แม่สอนให้เธอ และเธอก็เชื่อและนำมาปฏิบัติก็คือ “การให้ความเคารพแก่บุคคลอื่น”

เธอมิได้ขยายความว่า การให้ความเคารพผู้อื่นเป็นผลดีอย่างไรบ้าง แต่ผมก็ตีความเอาเองว่า การให้ความเคารพนับถือคนอื่น จะทำให้เราเป็นคนเปิดกว้าง พร้อมจะรับฟังความเห็นต่างๆ มาปรับปรุงตัวเรา

ไม่อวดเก่ง ไม่อวดดี ไม่ด้อยค่าคนอื่น ซึ่งจะทำให้เรากลายเป็นคนคับแคบ และอาจถึงขั้นโดนคนอื่นรังเกียจรังงอน ยากที่จะเจริญก้าวหน้า

อีกครั้งที่เธอย้ำให้เห็นว่าความสำเร็จของนักกีฬาทุกคน และความจริงก็ทุกๆ อาชีพทุกๆ การงานนั่นแหละจะต้องมาจากความขยันขันแข็ง ความอดทนและมีระเบียบวินัยทั้งสิ้น

เหมือนที่น้อง ลลิษา มโนบาล ของเราเอง ซึ่งประสบความสำเร็จใหญ่หลวงในระดับโลกเช่นกัน แม้จะเป็นเรื่องราวของเพลงไม่ใช่กีฬา…แต่น้องก็ย้ำหนักหนาว่ามาจากการฝึกฝนและการทุ่มเทฝึกซ้อมอย่างหนักหน่วงเต้นวันละหลายๆ ชั่วโมงมาโดยตลอด

น้องลิซ่าอาจไม่พูดออกมาเอง แต่ฟังๆ ที่เธอให้สัมภาษณ์หลายครั้ง ผมสรุปได้เลยว่า เธอเป็นคนเคารพและให้เกียรติคนอื่นๆ เช่นเดียวกับแชมป์ยูเอส โอเพ่น อย่างแน่นอน

การให้เกียรติแม่ค้าลูกชิ้นปิ้ง ลูกชิ้นทอด ที่ชาวบุรีรัมย์เขาเรียกว่า “ลูกชิ้นยืนกิน” นั้น เป็นข้อพิสูจน์ที่ดีสุด

ผมก็ขอถือโอกาสนี้นำแนวคิด นำปรัชญา และแนวทางปฏิบัติของเด็กสาวที่ประสบความสำเร็จเหล่านี้มาฝากคนรุ่นใหม่ของเราด้วย

บ้านเมืองไทยในอนาคตจะอยู่ในมือของลูกๆ หลานๆ นี่แหละ…ถ้าลูกๆ หลานๆ ไม่ขยัน ไม่หมั่นเพียร เอาแต่ใจตนเอง ไม่ฟังคนอื่น ไม่เคารพคนอื่น ฯลฯ ไปเสียหมด…ประเทศชาติของเราจะเจริญก้าวหน้า ไปได้อย่างไรล่ะ หลานๆ เอ้ย.

“ซูม”