แบ่งใจช่วยคนไทยนิวยอร์ก เจอโควิดหนักสุดในอเมริกา

ดังที่ท่านผู้อ่านทราบเป็นอย่างดีแล้วแหละครับว่า ณ นาทีนี้สหรัฐอเมริกากลายเป็นประเทศที่ติดเชื้อการระบาดของไวรัสมหาภัยโควิด-19 มากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของโลก โดยแรกๆ ก็อยู่หลังๆ ค่อยๆ ไต่ไปอยู่กลางๆ และแซงพรวดเป็นอันดับ 1 เมื่อไม่กี่วันมานี้เอง

ในช่วงที่ผมนั่งเขียนต้นฉบับวันนี้ สหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อแล้ว 161,044 ราย เพิ่มวันเดียวถึง 17,553 ราย และมียอดเสียชีวิตแล้ว 2,968 ราย

สำหรับรัฐที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุด ได้แก่ รัฐนิวยอร์กครับ ตัวเลขวันนี้อยู่ที่ 60,497 ราย เสียชีวิตก็มากที่สุด อยู่ที่ 1,218 ราย และวันนี้วันเดียว 253 ราย มากที่สุดเมื่อเทียบกับรัฐอื่นๆ เช่นกัน

เมื่อเจาะลึกลงไปอีก คือดูเฉพาะ นิวยอร์ก ซิตี้ หรือ มหานครนิวยอร์ก ที่เรามักเรียกว่าเมืองหลวงทางเศรษฐกิจและความสนุกสนานบันเทิงของโลก พบว่ามีผู้ติดเชื้อ 36,221 ราย และเสียชีวิตไปแล้ว 790 ราย

ก่อนผมเขียนต้นฉบับไม่กี่นาทีคุณ แอนดรูว์ เอ็มคูโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก เพิ่งจะแถลงข่าวประจำวันจบ พร้อมกับยอมรับว่าสถานการณ์ของรัฐวิกฤติมาก และต้องการความช่วยเหลือ

ท่านบอกว่าแพทย์และพยาบาลของรัฐนิวยอร์กไม่พอรับมือแล้ว และทุกคนก็เหนื่อยกันมาก จนยื่นแทบไม่อยู่…รัฐไหนที่ยังระบาดไม่มาก หมอ พยาบาลยังว่างมาช่วยนิวยอร์กด้วย ท่านจะขอบคุณเป็นอย่างสูงยิ่ง

“และคืนนี้ผมจะให้ ตึกวันเวิลด์เทรด เซ็นเตอร์” (ที่สร้างขึ้นมาแทนเวิลด์เทรด เซ็นเตอร์หลังเก่า) ประดับไฟด้วย สีแดง-ขาว-น้ำเงิน อันเป็นสีสัญลักษณ์ในธงชาติของเรา เป็นสัญญาณว่าเราจะสู้กับโควิด-19 อย่างไม่ยอมแพ้!!” ท่านผู้ว่าการให้สัมภาษณ์อย่างหนักแน่น

สำหรับผมแม้จะหวาดวิตกกับเหตุการณ์ในบ้านเราซึ่งก็รุนแรงขึ้นทุกขณะ วันนี้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 127 ราย ทำให้ยอดรวมเท่ากับ 1,651 ราย และเสียชีวิตไปแล้ว 10 ราย

แต่ก็ขอปันใจบางส่วนส่งไปให้ท่านผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก ขอให้ท่านประสบความสำเร็จ (ทำให้มีผู้เสียชีวิตน้อยลง) ในการระบาดที่คาดว่าจะเป็นช่วงพีก หรือสูงสุด ในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้

เฉพาะที่เมืองนิวยอร์ก มีคนไทยอยู่ประมาณ 10,000 คน เป็นชุมชนใหญ่ของชาวไทยชุมชนหนึ่งในอเมริกามีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย

แต่พรรคพวกเพื่อนฝูงผมยังปลอดภัยกันดีทุกคน ส่วนใหญ่ปฏิบัติตามมาตรการ Social distancing เก็บตัวอยู่กับบ้าน อยู่กับอพาร์ตเมนต์ นานๆ จะออกมาซื้อข้าวปลาอาหารไปสำรองไว้

คุณ ไพโรจน์ ปักษาษิณ ผู้สื่อข่าวไทยรัฐบอก แม้จะออกไปไหนไม่สะดวก แต่ก็อาศัยโทรศัพท์มือถือและโซเชียลมีเดียในการเช็กข่าวอยู่ตลอดเวลา

คุณ สุจิตรา ปาลีวงศ์ ประธาน ศูนย์วัฒนธรรมไทยฯ ในนิวยอร์ก สั่งปิดศูนย์ไปนานแล้ว และสั่งงดจัดงานสงกรานต์ที่ศูนย์ แต่ก็แนะนำว่าควรจะจัด เฉพาะในแต่ละบ้านของตนเองอย่างง่ายๆ เพื่อคงไว้ซึ่งประเพณีอันดีงามของไทยเรา

เมื่อตอนเกิดเหตุการณ์ 11 กันยายน ปี 2001 ผู้ก่อการร้ายขับเครื่องบินพุ่งชนตึกเวิร์ดเทรด เซ็นเตอร์ ผมอยู่กับพรรคพวกที่โน่น นั่งเขียนรายงานมาจาก “กราวด์ ซีโร่” แบบวันต่อวัน

ในช่วงที่คุณสุจิตรา ประธานศูนย์วัฒนธรรมไทยฯ นำคนไทยที่โน่นขนน้ำดื่ม และของใช้ที่จำเป็นไปบริจาคเพื่อช่วยคนอเมริกันที่เคราะห์ร้าย ที่จาวิตส์ เซ็นเตอร์ ศูนย์การประชุมใหญ่โอ่อ่ากลางเมืองที่ดัดแปลงเป็นศูนย์บรรเทาภัยชั่วคราว ผมก็ไปด้วย ยังจำภาพได้ติดตา

ทุกวันนี้ จาวิตส์ เซ็นเตอร์ ได้รับการแปลงสภาพเป็น โรงพยาบาลสนาม สำหรับรับโควิด-19 และเป็นศูนย์แถลงข่าวของท่านผู้ว่าการด้วย

คราวโน้นนิวยอร์กมีปัญหา ผมอยู่ที่โน่นพอดีเลยไปร่วมด้วยช่วยเขาได้เต็มที่ แต่คราวนี้ผมอยู่เมืองไทย และนิวยอร์กกับ กทม. มีปัญหาอย่างเดียวกันพร้อมๆ กันก็คงต้องใช้วิธีต่างคนต่างอยู่ และต่างคนต่างเอาตัวรอด

อย่างเก่งก็ทำได้แค่ส่งใจไปปลอบประโลมกันแบบนี้ละครับ

คราว 11 กันยายน 2001 มีผู้เสียชีวิต 2,977 ศพ ในนิวยอร์ก ไม่รวมผู้ก่อการร้าย…คราวนี้เฉพาะเมืองนิวยอร์ก เสียไปแล้ว 790 ขอภาวนาอย่าทำลายสถิติครั้งก่อนเลย…เอาใจช่วยทุกๆ คนครับ.

“ซูม”