ก้าวใหญ่ “ธนาคารกรุงเทพ” ข้ามประเทศซื้อแบงก์อินโดฯ

สัปดาห์ที่ผ่านมามีข่าวใหญ่ข่าวหนึ่งในแวดวงธุรกิจการเงินการธนาคารบ้านเรา ได้แก่ ข่าวการประกาศซื้อกิจการธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่งของอินโดนีเซีย โดยธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)

สำนักข่าวต่างประเทศกระจายข่าวนี้ออกไปทั่วโลก สรุปได้ว่า “แบงก์บัวหลวง” ทุ่มเงิน 2,674 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 81,017 ล้านบาท เพื่อเข้าซื้อหุ้น 89 เปอร์เซ็นต์ของธนาคาร เพอร์มาตา แห่งประเทศอินโดนีเซีย

ผมอ่านข่าวนี้ด้วยความตื่นเต้นตามประสากองเชียร์ประเทศไทยที่ติดตามเอาใจช่วยเชียร์ไทยแลนด์ของเราในทุกๆด้าน ไม่ว่าการพัฒนาประเทศหรือการกีฬา หรือแม้แต่การประกวดสาวงาม ถึงกับส่งเสียง “เฮ”

เพราะการออกไปลงทุนต่างประเทศถือเป็นเกมรุกประการหนึ่งของการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ เพื่อไปแสวงหาตลาดใหม่ ธุรกิจใหม่ๆ ลูกค้าใหม่ๆ ซึ่งต่อมาหากการลงทุนนั้นประสบผลสำเร็จมีกำรี้กำไร เงินกำไรก็จะไหลกลับมาเป็นรายได้ส่วนหนึ่งของประเทศไทย

เราจะเห็นว่าประเทศพัฒนาแล้ว ร่ำรวยมีเงินทองเยอะแล้วมักออกไปลงทุนต่างประเทศกันมาก เพื่อเพิ่มพูนรายได้และความร่ำรวยของเขาให้สูงขึ้นไปอีก

ในอดีตที่ผ่านมาประเทศไทยเราเป็นประเทศหนึ่งที่เงินลงทุนจากต่างประเทศหลั่งไหลเข้ามามาก แม้ทุกวันนี้ก็ยังไหลเข้ามาโดยตลอด เพราะเราเองก็ยังต้องการทุนใหม่ๆ ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ๆ

แต่ขณะเดียวกัน ก็เริ่มมีธุรกิจการลงทุนในประเภทที่คนไทยเราช่ำชองแพร่หลายออกไปยังประเทศที่ช่ำชองน้อยกว่าเราเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะการไปสู่กลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา, ลาว, เมียนมาและเวียดนาม) และกลุ่มประเทศอาเซียนต่างๆ

แสดงให้เห็นถึงระดับการพัฒนาประเทศของเราที่สูงขึ้นกว่าแต่ก่อน ซึ่งมีความหมายว่า ประเทศเรามิใช่เพียงแค่ต้องการเงินลงทุนจากต่างประเทศเพียงด้านเดียว อย่างเมื่อ 20-30 ปีก่อนอีกแล้ว

สำหรับธุรกิจบางอย่างเราก็มีความสามารถและมีความเข้มแข็งพอที่จะออกไปลงทุนในประเทศอื่นได้เช่นเดียวกัน

นี่คือเหตุผลที่ผมแอบ “เฮ” ที่ทราบข่าวว่า ธนาคารกรุงเทพ ซึ่งเป็นธนาคารเก่าแก่และมั่นคงแห่งหนึ่งของประเทศไทยกำลังจะแผ่ความสามารถทางด้านธุรกิจการเงินออกไปสู่ประเทศอินโดนีเซีย

การขยายธุรกิจไปต่างประเทศไม่ใช่เรื่องใหม่ของแบงก์บัวหลวง แท้ที่จริงแล้วเป็นธนาคารไทยแห่งแรกที่ขยายธุรกิจไปต่างประเทศ โดยไปเปิดสาขาที่ฮ่องกงตั้งแต่ พ.ศ.2497 โน่นแล้วด้วยซํ้า

ทุกวันนี้ก็เป็นธนาคารไทยที่มีเครือข่ายในต่างประเทศมากที่สุดถึง 31 แห่ง ครอบคลุม 14 เขตเศรษฐกิจทั่วโลก ทั้งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปจนถึงจีน ญี่ปุ่น ฮ่องกง ไต้หวัน นิวยอร์กและลอนดอน

ที่อินโดนีเซียซึ่งธนาคารกรุงเทพไปเปิดสาขาแรกที่จาการ์ตาเมื่อปี 2511 ปัจจุบันนี้ก็มีเพิ่มขึ้นอีก 2 สาขา ที่สุราบายาและเมดาน

แต่ทั้งหมดที่เคยเกิดขึ้นในอดีตคือ แค่ขยายสาขาเท่านั้น…มิใช่ไปซื้อกิจการธนาคารในประเทศอื่น

ครั้งนี้จึงเป็นครั้งแรกที่ธนาคารกรุงเทพไปซื้อธนาคารท้องถิ่นทั้งธนาคารและต้องใช้เงินในจำนวนมากพอสมควรตามข่าวข้างต้น

ด้วยเหตุนี้กระมังที่ทำให้เกิดความตระหนกตกใจในตลาดหุ้นไทย ถึงขั้นมีการเทขายหุ้นลอตใหญ่ในช่วงแรกๆ จนหุ้นธนาคารกรุงเทพร่วงหล่นไปกราวใหญ่

แต่หลังจากที่ผู้บริหารออกมาแถลงรายละเอียดมากขึ้น ให้เหตุให้ผลถึงการตัดสินใจเข้าไปซื้อธนาคาร เพอร์มาตา มากขึ้น รวมทั้งพูดถึงโอกาสธุรกิจ ตลอดจนความสำเร็จที่คาดว่าจะได้รับในอนาคตมากขึ้น

หุ้นของธนาคารกรุงเทพจึงค่อยๆ กระเตื้องกลับมา

ผมเล่นหุ้นไม่เป็นและไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับการที่หุ้นของธนาคารกรุงเทพจะขึ้นหรือตกแต่อย่างใดทั้งสิ้น

แต่ในฐานะกองเชียร์ประเทศไทยที่เอาใจช่วยคนไทยในการแข่งขันทุกรูปแบบดังที่กล่าวไว้แล้ว ผมมั่นใจว่าการตัดสินใจของธนาคารกรุงเทพครั้งนี้ถูกต้องที่สุด และน่าจะเป็นผลดีทั้งต่อธนาคารกรุงเทพเอง และต่อเศรษฐกิจไทยของเราด้วยในอนาคต

เพราะอะไรที่ทำให้ผมเชื่อเช่นนั้น?…เนื้อที่หมดเสียแล้วขออนุญาตเฉลยในวันพรุ่งนี้ก็แล้วกันนะครับ.

“ซูม”