วันแห่งความรัก 2562 รักประเทศไทยดีที่สุด

วันนี้เป็น “วันวาเลนไทน์” หรือ “วันแห่งความรัก” ตามธรรมเนียมของฝรั่งน่ะครับ แต่ก็เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางไปแล้วทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทยเราด้วย ทำให้ 2–3 วันนี้ ตามห้างต่างๆ จะมีรูปหัวใจสีชมพู และดอกกุหลาบสีแดง ประดับประดาเต็มไปหมด

ว่าไปแล้วในยุคก่อนๆคนไทยเราไม่รู้จักหรอกครับ วันวาเลนไทน์ หรือวันแห่งความรัก…เพราะคนไทยเราบอกรักกันทุกวัน ถือว่าทุกๆ วันเป็นวันแห่งความรักมาแต่ไหนแต่ไร

จนกระทั่งในยุคสงครามเวียดนามประมาณ พ.ศ.2508 พ.ศ.2509 สหรัฐอเมริกาเข้ามาตั้งฐานทัพในเมืองไทย มีสนามบินรบหลายแห่ง เช่น อู่ตะเภา, อุดรธานี แล้วก็ตาคลี เป็นต้น…

นั่นแหละวัฒนธรรมวาเลนไทน์ถึงได้เข้ามาแพร่ระบาดในประเทศไทยเรา

เนื่องจากสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่คลั่งวันวาเลนไทน์มากที่สุดในโลก มีธรรมเนียมประเพณีว่าด้วย “วันแห่งความรัก” มายาวนาน จนกลายเป็นวัฒนธรรมประการหนึ่งของเขา

เมื่อมาตั้งฐานทัพในไทยก็นำวัฒนธรรมนี้มาเผยแพร่ด้วย เป็นเหตุให้สาวๆ ที่อู่ตะเภา, อุดรธานี รวมทั้งตาคลีรู้จักวันวาเลนไทน์ก่อนใครๆ

ต่อมาก็เข้าสู่ห้างใน กทม. เมื่อลูกหลานเจ้าของห้างหรือพนักงานห้างรุ่นใหม่ที่ไปเรียนสหรัฐอเมริกา ได้พบได้เห็นวัฒนธรรมวาเลนไทน์ด้วยตนเอง และรู้ว่าห้างทางโน้นเขาโปรโมตอย่างไรบ้างก็เลยจำมาโปรโมตบ้างในบ้านเรา

ทำให้ห้างต่างๆ หลัง พ.ศ.2510 มักจะจัดกิจกรรมในวันวาเลนไทน์ขึ้นทุกห้าง เคียงคู่ไปกับกิจกรรมเทศกาลตรุษจีน ซึ่งโด่งดังอยู่ก่อนแล้ว

โดยส่วนตัวแล้วผมก็ชอบ วันวาเลนไทน์ ครับ เพราะถ้าเราตีความในวงกว้างแบบฝรั่งเขาจะรวม ความรัก เอาไว้ทุกๆ อย่างในวันนี้ ไม่เฉพาะความรักในแบบชู้สาวเท่านั้น

พ่อแม่รักลูกหลาน ลูกหลานรักพ่อแม่ รักปู่ย่าตายาย, รักเพื่อน, รักครู, รักเจ้านาย รักลูกน้อง, ไปจนถึงรักชาติบ้านเมือง รักทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวเรา ฯลฯ ล้วนอยู่ในคำนิยาม “วันแห่งความรัก” ของเขาทั้งสิ้น

ทุกครั้งที่ผมเขียนถึงวันวาเลนไทน์ผมก็จะฝาก “ความรัก” ในนิยามกว้างๆ แบบของเขาเอาไว้เสมอๆ โดยเฉพาะเรื่องรักชาติรักประเทศไทยขอให้อยู่ในนิยามของวันวาเลนไทน์ด้วยมาตลอด

เขียนมาถึงช่วงนี้ก็นึกขึ้นได้ว่าเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนมีการจับกุมตัวนาย ฮาคีม อัล-อาไรบี อดีตนักฟุตบอลทีมชาติบาห์เรนที่มีคดีอยู่ในบาห์เรนแต่ได้รับฐานะเป็นผู้ลี้ภัยไปอาศัยอยู่ที่ออสเตรเลียมาหลายปี

เราจับก็เพราะแกมีหมายจับของตำรวจสากล ซึ่งผู้แจ้งมาก็เป็นตำรวจสากลของออสเตรเลียนั่นแหละ แต่พอจับแล้วก็กลายเป็นเรื่องใหญ่โต ประเทศไทยถูกสับถูกสวดถูกประท้วงมากมายขอให้รีบส่งตัวไปออสเตรเลียโดยเร็วดังที่ทราบกันแล้ว

ถึงขนาดมีการติด แฮชแท็ก #boycottthailand บ้าง #Savehakeem บ้าง เกร่อไปหมดในโลกโซเชียล

แต่ ณ วันนี้ด้วยความสามารถของกระทรวงการต่างประเทศของไทย โดยเฉพาะท่านรัฐมนตรี ดอน ปรมัตถ์วินัย ที่ประสานไปทั้ง 2 ประเทศ บอกว่ามันเรื่องของยูนะ แต่ทำให้เราเดือดร้อน ขอให้ยูเจรจากันเอง ตกลงกันเอง

ทางบาห์เรนก็เลยยอมถอนหนังสือขอตัวนายฮาคีม แต่ยังไม่ถอนคดีที่บ้านเขา…แต่แค่นี้ก็พอแล้วที่จะทำให้อัยการไทยเรามีทางออกนำเรื่องถึงศาล และศาลท่านก็ปล่อยตัวเป็นที่เรียบร้อย

ป่านฉะนี้ นายฮาคีมกับภรรยาที่จะมาฮันนีมูนในเมืองไทยแล้วโชคร้ายต้องมาติดคุกไทยอยู่หลายวันคงจะกลับไปฉลองวาเลนไทน์ที่ออสเตรเลียแล้วเช่นกัน

ขอขอบคุณท่าน รมว.ต่างประเทศไว้ ณ ที่นี้อีกครั้งหนึ่ง ขอบคุณไปถึงเจ้าหน้าที่ทุกระดับทุกฝ่ายที่ช่วยกันอย่างแข็งขันด้วยนะครับ

สำหรับพี่น้องชาวไทยประเภทปากไวใจเร็วกดเร็วจำนวนมากที่เอะอะก็ด่าประเทศไทยตะพึดตะพือ ใครเขาด่าอะไรหน่อยเป็นต้องซ้ำเติมอย่างสะใจ ก็ขอให้ปากช้าลง ใจเย็นลง ใช้ความคิดใช้สติปัญญาให้มาก และอย่ารีบกดนิ้วด่าประเทศไทยเร็วนักในวันข้างหน้า

อะไรไม่อะไร อย่าลืมติดแฮชแท็ก #lovethailandmore รักเมืองไทยให้มากขึ้นในวันวาเลนไทน์ปีนี้ด้วยก็แล้วกัน.

“ซูม”