ซินเจียยู่อี่/ซินนี้ With Love

ผมนั่งเขียนต้นฉบับวันนี้ในช่วงบ่ายๆ วันพุธที่ 14 กุมภาพันธ์ 2561 ตรงกับวันวาเลนไทน์ หรือ “วันแห่งความรัก” ตามธรรมเนียมฝรั่งพอดิบพอดี

ซึ่งจะเป็นข้อเขียนประจำวันศุกร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2561 หรือ “วันตรุษจีน” วันขึ้นปีใหม่ตามประเพณีจีนพอดิบพอดีเช่นกัน

ถือว่าเป็นวันดีทั้ง 2 วัน…ว่างั้นเถอะ

อย่างเช่นวันแห่งความรักปีนี้ ขนาดมีข่าวมาก่อนว่าอาจจะเหงา เพราะดอกไม้ขายไม่ค่อยดี ช็อกโกแลตขายไม่ค่อยออก…แต่พอถึงวันจริงๆ กลับมีข่าวคราวว่าหนุ่มสาวแห่ไปรอจดทะเบียนสมรสแน่นตรึมทั่วประเทศ

มีทั้งแต่งงานบนฟ้า แต่งงานใต้น้ำ แต่งงานบนภูเขา ฯลฯ รวมทั้งมีการแห่กันไปรอจดทะเบียนสมรสตามเขต หรืออำเภอที่มีชื่อเป็นมงคลแน่นขนัดไม่แพ้ปีก่อนๆ

ทางด้านข่าวต่างประเทศเวลาเขาช้ากว่าเราหนึ่งวัน แต่ก็เริ่มมีข่าววาเลนไทน์รายงานล่วงหน้ามาแล้วยาวเหยียด โดยเฉพาะการเตรียมจำหน่ายดอกกุหลาบ บัตรรูปหัวใจ ช็อกโกแลตและของขวัญต่างๆ

ผมนั่งอ่านข่าวเหล่านี้จากสื่อออนไลน์หลายๆ สำนักด้วยความอิ่มอก อิ่มใจ และพลอยปลื้มไปด้วยที่ผู้คนทั่วโลกยังเต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก

โดยเฉพาะตามธรรมเนียมวันวาเลนไทน์ต้นตอของฝรั่งนั้น เขาจะครอบคลุมความรักทุกชนิด ทุกประเภท มิได้จำกัดอยู่เฉพาะความรักของหนุ่มๆ สาวๆ เท่านั้น

ของเขามีทั้งรักพ่อรักแม่ รักญาติ รักมิตร รักเพื่อนบ้าน รักคนรอบข้าง รักสัตว์ รักธรรมชาติ ฯลฯ ครบถ้วน

ข่าวคราวที่มาจากต่างประเทศจึงค่อนข้างหลากหลาย อ่านแล้วก็พลอยมีความสุขและอิ่มอกอิ่มใจไปด้วยอย่างที่ว่า

ระยะหลังๆคนไทยเราเริ่มปฏิบัติตามธรรมเนียมฝรั่งกันมากขึ้น มีการส่งการ์ด ส่งคำอวยพร ส่งคำระลึกถึงไปให้เพื่อนฝูงญาติมิตร หรือ ผู้หลักผู้ใหญ่ รวมทั้งครูบาอาจารย์

ถือเป็นการเอาอย่างที่ดีครับ เพราะอย่างไรเสีย การมอบความรักให้แก่กันและกันนั้น ยังไงๆก็ดีกว่าการมอบความเกลียดความโกรธ หรือความไม่ชอบให้แก่กันและกันอย่างแน่นอน

ผมก็ขอหยิบยืมธรรมเนียมข้อนี้มาใช้บ้างละกัน โดยขอใช้โอกาสในขณะนั่งเขียนหนังสือในวันแห่งความรัก ส่งความรักมามอบให้แก่ท่านผู้อ่าน ด้วยความขอบคุณเป็นอย่างสูงที่กรุณาติดตามอ่านตั้งแต่วันโน้นมาจนถึงวันนี้

ดังที่ผมได้กราบเรียนไว้ตั้งแต่ช่วงต้นๆแหละครับ ว่าต้นฉบับที่เขียนวันวาเลนไทน์นี้จะลงตีพิมพ์ในวัน “ชิวอิก” หรือ “วันตรุษจีน” จึงขออนุญาตที่จะเขียนถึงเรื่องเกี่ยวกับตรุษจีนเพื่อให้สอดคล้องกัน

เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่าในเทศกาลตรุษจีนนั้น จะมีวันสำคัญอยู่ 3 วันติดต่อกัน ได้แก่ “วันจ่าย” “วันไหว้” และ “วันถือ” (บางครั้งก็เรียกว่า วันเที่ยว เพราะเป็นวันที่คนจีนนิยมออกเที่ยวในวันนี้)

วันที่สำคัญที่สุดใน 3 วันดังกล่าวก็คือ “วันถือ” หรือวันขึ้นปีใหม่ของชาวจีน และเป็นวันมงคลสุดๆ ที่ชาวจีนจะสอนลูกหลานให้งดกระทำการอันไม่เป็นมงคลทั้งหลายทั้งปวงโดยเด็ดขาด

แม้แต่จะพูดจาปราศรัยก็จะต้องพูดแต่เรื่องดีๆเท่านั้น ห้ามด่า ห้ามกล่าวคำหยาบ หรือแม้แต่จะสบถสาบานก็ไม่ควร

ในสมัยโบราณยังห้ามอีกหลายๆเรื่องในวันนี้ เช่น ห้ามทำความสะอาดบ้าน เดี๋ยวจะเป็นการปัดกวาดความโชคดีต่างๆออกไป…ห้ามใช้ของมีคม เพราะการใช้ของมีคมจะตัดสิ่งที่ดีทิ้งไปเสีย

ห้ามใส่เสื้อผ้าสีจืดๆ โดยเฉพาะดำๆขาวๆ ห้ามขาด เพราะใส่แล้วจะเป็นทุกข์ ให้ใส่สีฉูดฉาดและให้ยึดสีแดงเป็นหลัก เพราะเป็นสีแห่งโชคดี

ทั้งหมดนี้ก็เป็นเรื่องของคำสอนโบราณ มาถึงยุคนี้ก็ใช้วิจารณญาณกันเอาเองละกัน ว่าควรเชื่อหรือไม่เชื่อ

อย่างเช่นเสื้อสีแดง ถ้าเป็นเมื่อ 6-7 ปีก่อน อาจจะถือว่าเป็นมงคลจริง ใส่แล้วโชคดีมากกว่าโชคร้าย เพราะเป็นยุคแดงทั้งแผ่นดิน…แต่เดี๋ยวนี้สีที่เป็นมงคลสุดน่าจะเป็นสีเขียว โดยเฉพาะเขียวขี้ม้า ดูมงคลกว่าเพื่อน

แม้จะมีเสียงวิจารณ์ว่าสีเขียวช่วงนี้กองหนุน หรือคะแนนนิยมชักตกลงไปบ้าง แต่ดูๆแล้วก็ยังไม่ตกมากนัก เพราะเมืองไทยเรายังไงสีเขียว ก็โดดเด่นกว่าสีอื่น อาจจะหลุดเทรนด์ไปบ้าง แต่สักพักหนึ่งก็จะกลับมา

ครับ! ก็ขออนุญาตเขียนเรื่องดีๆ เนื่องในโอกาสที่นานๆ ที “วันแห่งความรัก” กับ “วันตรุษจีน” จะมาบรรจบกันอย่างเป๊ะๆ แบบนี้สักครั้ง

“ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ With Love”…ทุกๆ ท่านนะครับ!

“ซูม”