เหตุการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นเมื่อกลางสัปดาห์ที่แล้วเป็นไปตามคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ ที่ว่า อนิจจัง หรือความไม่เที่ยงแท้แน่นอนนั้นเป็นสัจธรรมของโลก

ความสุข, ความทุกข์, เคราะห์ดี, เคราะห์ร้าย, ขึ้นสูง, ลงต่ำ, เกิดขึ้น, ตั้งอยู่, ดับไปเป็นของธรรมดา และจะมาถึงตัวเราเมื่อไรไม่มีทางจะรู้ได้ทำนายได้

ฉะนั้นมนุษย์จะต้องมีสติอยู่ตลอดเวลา เพื่อเตรียมรับกับความเปลี่ยนแปลง หรือความไม่เที่ยงต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นอย่างไม่คาดฝันแก่ตัวเรา

ดังเช่นเหตุการณ์และเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับรัฐมนตรี อดีต กปปส. 3 ท่านของรัฐบาลนี้ เมื่อวันพุธที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ดูเถิดว่าช่วงเช้ายังเป็น รัฐมนตรี มีอำนาจวาสนากันอยู่เลย แต่ช่วงค่ำเจอคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้จำคุก และไม่สามารถประกันตัวได้ทันต้องเข้าไปนอนในเรือนจำถึง 2 คืนเต็มๆ

มิหนำซ้ำยังต้องหลุดพ้นจากตำแหน่งนับแต่นาทีที่ศาลอ่านคำพิพากษาให้จำคุกตามมาตรา 160 (7) ของรัฐธรรมนูญปัจจุบัน

สำหรับความคิดเห็นหรือการวิพากษ์วิจารณ์จากสื่อสังคมออนไลน์นั้น ก็มีทั้งที่เห็นใจให้กำลังใจ และที่ถากถางซ้ำเติมเยาะเย้ย

ขึ้นอยู่กับว่าผู้โพสต์จะมีรสนิยมทางการเมืองแนวไหน หรือสนับสนุนฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดอยู่

ผมเองยังไม่มีโอกาสแสดงความเห็นเพราะเหตุเกิดในขณะที่ผมจำเป็นจะต้องเขียนเรื่องอื่นๆที่มิใช่ข่าวหรือเหตุการณ์ประจำวันตามคิววันเสาร์วันอาทิตย์เสีย 2 วันเต็มๆ เพิ่งจะมีโอกาสเขียนถึงในวันนี้

ขออนุญาตเจาะจงเขียนถึงเฉพาะรัฐมนตรีทั้ง 3 ท่านที่ต้องเจอกับสัจธรรม อนิจจังไม่เที่ยงก็แล้วกันนะครับ

ผมมีโอกาสสัมภาษณ์อดีตรัฐมนตรีศึกษาธิการ ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ที่โรงพิมพ์ไทยรัฐนี่แหละถึง 2 ครั้ง 2 หน

ยังนำบทสัมภาษณ์บางช่วงบางตอนมาเขียนถึงในคอลัมน์นี้ และขณะเดียวกันก็แอบให้คะแนนท่านไปด้วยว่าท่านมีความตั้งใจสูงที่จะทำงานด้านพัฒนาการศึกษาของประเทศไทย

จากประสบการณ์ส่วนตัวของผมกระทรวงนี้เป็นกระทรวงที่บริหารยากที่สุดในบรรดากระทรวงทั้งหลายทั้งปวงที่ประเทศเรามีอยู่ ดังนั้นไม่ว่าใครที่ตั้งใจมาบริหาร ผมก็จะแอบให้กำลังใจอยู่เสมอ

มาวันนี้จึงรู้สึกเสียดายอยู่ไม่น้อยที่ท่านต้องพ้นจากตำแหน่งอย่างที่ไม่มีใครคาดคิด และหวังว่าท่านจะทำใจได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น

อดีตรัฐมนตรีอีกท่านที่ผมคุ้นเคยอย่างยิ่งก็คือ “คุณบี” พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ เหตุเพราะท่านเคยรับราชการอยู่ที่ บีโอไอ และเคยทำงานสายตรงในสังกัดของคุณ สถาพร กวิตานนท์ อดีตเลขาฯบีโอไอรุ่นพี่จากนครสวรรค์ที่ผมสนิทสนมมาตั้งแต่เด็กๆ

แวะไปเยี่ยมเยียนคุณสถาพรที่บีโอไอคราวใดก็จะเจอะเจอกับคุณพุทธิพงษ์คราวนั้น จึงพลอยคุ้นเคยกันไปด้วย

ในความเห็นของผมคุณบีในฐานะรัฐมนตรีดีอีเอสโชว์ฟอร์มได้ดีกว่าที่ผมเคยคิดไว้ ถึงลูกถึงคนและฉายแววว่าจะสามารถเป็นรัฐมนตรีในกระทรวงที่ใหญ่ขึ้นกว่านี้ได้ในอนาคต

จึงอดเสียดายเสียมิได้ที่ต้องหลุดจากตำแหน่งรัฐมนตรีไปอย่างน่าเสียดาย แต่ก็ได้ยินว่า ท่านยังมีสิทธิลุ้นในการเป็น ส.ส.อยู่…ก็ขอเอาใจช่วยให้มีโอกาสได้เป็น ส.ส.ทำหน้าที่ในสภาต่อไป

สำหรับคุณ ถาวร เสนเนียม นั้นผมเคยสัมภาษณ์พูดคุยกับท่าน 2-3 ครั้ง และก็นานมาแล้วด้วย จึงไม่คุ้นเคยเท่ากับ 2 ท่านแรก แต่ในโอกาสที่ท่านต้องหลุดจากตำแหน่งอย่างไม่คาดฝันเป็นรายที่ 3 ผมก็ขอแสดงความเห็นใจและมอบกำลังใจมาด้วยเช่นกัน

ให้กำลังใจแก่อดีต 3 รัฐมนตรีเสร็จแล้วจากนี้ไปคงต้องหันมาให้กำลังใจตัวเองในฐานะประชาชนคนหนึ่งบ้างละว่า 3 รัฐมนตรีใหม่ที่จะมาแทน…จะเป็นใคร?

เท่าที่มีชื่อเป็นข่าวทุกวันนี้ แต่ละรายชื่อที่แพลมออกมา บอกตรงๆ ว่า ผมใจหายเลยครับ และคิดว่าประชาชนทั่วๆ ไปก็คงใจหายด้วย

ก็เลยต้องหันมาปลอบใจและให้กำลังใจตัวเอง พร้อมกับอธิษฐานขอให้ “บิ๊กตู่” จงใช้สติใช้ปัญญาของท่าน เลือกรัฐมนตรีใหม่ที่เหมาะสมกับงานของประเทศชาติมากที่สุด เท่าที่จะมากได้

ช่วงนี้คะแนนนิยมของบิ๊กตู่ถดถอยไปเยอะนะครับ ถ้าตั้งมาอีก “3 ยี้” ละก็ระวัง “อนิจจังไม่เที่ยง” จะเกิดขึ้นกับรัฐบาลทั้งชุด เอาน่ะนา.

“ซูม”