ขณะที่ผมเขียนต้นฉบับวันนี้ ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. มีมติเกี่ยวกับมาตรการผ่อนปรนในเฟส 4 ออกมาเรียบร้อย นอกจากการยกเลิกเคอร์ฟิวแล้ว ก็ยังมีการผ่อนปรนในกิจกรรมสำคัญๆ อีกยาวเหยียด

ดังรายละเอียด (ยิบ) ที่ลงประกาศไว้ใน ราชกิจจานุเบกษา และมีการเผยแพร่ทางออนไลน์ตั้งแต่คืนวันศุกร์ที่ 12 มิถุนายน

แต่ในขณะที่สถานการณ์ของไวรัสโควิด-19 ในบ้านเรากำลังคลี่คลายลงไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะยอดผู้ติดเชื้อใหม่ในประเทศเป็นศูนย์ติดต่อกันมา 16-17 วัน จน ศบค. ท่านตัดสินใจคลายล็อกมาจนถึงเฟส 4 นั้นเอง

สถานการณ์การระบาดของไวรัสสายพันธุ์นี้ทั่วโลกยังคงน่ากังวลใจ เพราะทั้งยอดผู้ติดเชื้อใหม่ และยอดผู้เสียชีวิตก็ยังเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ

ณ นาทีที่ผมเขียนต้นฉบับวันนี้ ตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ของโลกยังเพิ่มขึ้นถึง 124,446 ราย นับจาก 24 ชั่วโมงก่อนหน้า และยอดรวมของผู้เสียชีวิตก็ยังเพิ่มขึ้นถึง 4,124 ราย ภายใน 24 ชั่วโมงเช่นกัน

ทำให้ยอดรวมของผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกทะยานขึ้นเป็น 7,709,545 ราย และเสียชีวิตสะสมไปแล้วถึง 427,210 ราย

ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่มีประธานาธิบดีชื่อ นาย โดนัลด์ ทรัมป์ ติดเชื้อใหม่วันนี้ 22,549 ราย กลับมาเกิน 20,000 ราย เป็นวันที่สองติดกันหลังจากที่เคยลดลงไปถึงหลัก 16,000-17,000 รายต่อวัน

มีสัญญาณชัดเจนว่าอัตราการระบาดระลอกใหม่ของประเทศที่มีประธานาธิบดีชื่อ โดนัลด์ ทรัมป์ สูงขึ้นจากการเตือนของมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ ที่ติดตามสถิติตัวเลข จนตลอดสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 อย่างใกล้ชิดมาตั้งแต่ต้น

ในขณะที่ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพโลกของ มหาวิทยาลัยฮาวาร์ด ก็ได้ออกมาคาดการณ์ล่าสุดว่า ยอดผู้เสียชีวิตของประเทศที่มีประธานาธิบดีชื่อโดนัลด์ ทรัมป์ อาจสูงถึง 200,000 ราย ในเดือนกันยายน หากปราศจากมาตรการสกัดการระบาดอย่างเข้มข้น

สถาบันเดียวกันนี้ยังระบุด้วยว่าเหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะประเทศนี้เป็นประเทศใหญ่ประเทศเดียวที่ “ปลดล็อก” ทั้งๆ ที่ยังไม่สามารถทำให้อัตราการขยายตัวของผู้ติดเชื้อใหม่อยู่ในระดับ 5 เปอร์เซ็นต์ หรือตํ่ากว่า ติดต่อกันอย่างน้อย 14 วัน

ลองไปดูตัวเลขของประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสมเป็นอันดับ 2 ของโลก อันได้แก่ บราซิล ขวัญใจชาวไทยในการแข่งขันฟุตบอลโลกทุกยุคทุกสมัยกันบ้าง

ประเทศนี้มีประธานาธิบดีคนปัจจุบันชื่อเขียนเป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษว่า Jair Bolsonaro และเป็นตัวอักษรไทยตามที่กระทรวงต่างประเทศไทยเขียนไว้ว่า ฌาอีร์ โบลโซนารี

ยอดผู้ติดเชื้อใหม่วันนี้ของประเทศบราซิลอยู่ที่ 23,161 ราย ทำให้ยอดรวมสะสมเท่ากับ 828,810 ราย

ในขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 770 ราย ลดลงจาก 1,123 ราย จากวันก่อนหน้า แต่ก็พอเพียงที่จะทำให้ยอดเสียชีวิตสะสมสูงขึ้นเป็น 41,828 ราย แซงหน้าสหราชอาณาจักรขึ้นเป็นอันดับ 2 ของโลกเป็นวันแรก (สหราชอาณาจักรเสียชีวิตสะสมถึงวันนี้รวม 41,481 ราย)

ผลก็คือ ณ บัดนาวนี้ ประเทศบราซิลกลายเป็นอันดับ 2 ของโลก ทั้งในยอดจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมและยอดผู้เสียชีวิตสะสม

อีกประเทศที่ขอเอ่ยถึงได้แก่ อินเดีย เพื่อนร่วมเอเชียของเรา ที่แม้จะทราบชื่อประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรี แต่ก็ขออนุญาตไม่เอ่ยถึง เพราะท่านได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว แต่เนื่องจากประเทศนี้มีประชากรสูง แต่ละเมืองใหญ่ผู้คนแออัดมาก ทำให้บริหารจัดการยาก

แม้ล่าสุดยอดติดเชื้อสะสมของ อินเดีย จะสูงถึง 309,603 ราย เป็นอันดับ 4 ของโลกแล้ว ก็อย่าเอ่ยถึงผู้นำของเขาเลย

ล่าสุด อินเดียยังมีผู้ติดเชื้อใหม่อยู่ที่ 11,302 ราย เกิน 10,000 รายมาหลายวัน และอาจจะสูงเช่นนี้ไปอีกหลายวัน เพราะมีความจำเป็นต้องคลายล็อกเนื่องจากบีบคั้นด้านเศรษฐกิจ

เทียบกับประเทศเหล่านี้และวิเคราะห์จากสถานการณ์ของโลกแล้ว ก็ถือว่าประเทศที่มีนายกรัฐมนตรีชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สามารถบริหารจัดการกับโรคระบาดครั้งนี้ได้ในระดับดีมาก

แต่ก็นั่นแหละครับ ยังไงๆ ก็อย่าปล่อยให้ “การ์ดตก” เป็นอันขาด …โปรดระวังการระบาด “ก๊อก 2” เอาไว้ด้วยก็แล้วกัน…สวมหน้ากาก+ ล้างมือบ่อยๆ+รักษาระยะห่าง และ ฯลฯ ยังจำเป็นนะครับ.

“ซูม”