ผมได้รับแจ้งจากครอบครัวของ ม.ร.ว.ถนัดศรี สวัสดิวัตน์ ขอให้ช่วยเผยแพร่ข่าวสารด้วยว่า พิธีสวดพระอภิธรรมศพของท่านจะย้ายจากศาลา 14 มาที่ศาลากลางน้ำ วัดเทพศิรินทราวาส ตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน และจะมีไปจนถึงวันพุธที่ 11 กันยายน จากนั้นจะเก็บศพไว้ 100 วัน เพื่อรอพิธีพระราชทานเพลิง ซึ่งจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง

ญาติสนิทมิตรสหายตลอดจนผู้ที่เคารพนับถือท่านหรือเป็นแฟนเพลง และแฟนรายการวิทยุโทรทัศน์รวมถึงแฟนคอลัมน์วันอาทิตย์ไทยรัฐของท่านที่มีความประสงค์จะไปร่วมแสดงความเคารพและความอาลัยโปรดทราบตามข้อความข้างต้นด้วยนะครับ

สำหรับผมเองเมื่อเผยแพร่ข่าวสารจบแล้ว ก็ถือโอกาสเล่าเบื้องหน้าเบื้องหลังของรายการ “ครอบจักรวาล” ของท่านเสียอีกวันก็แล้วกัน

ในฐานะที่เป็นรายการ “ทอล์กโชว์” ประเภทพูดคนเดียวทางวิทยุที่โด่งดังมากที่สุดรายการหนึ่ง เท่าที่ประเทศไทยของเราเคยมีมา

เริ่มออกอากาศครั้งแรกทางสถานีวิทยุกระจายเสียงกองทัพบกหรือ ททบ.FM 94.0 เมื่อ พ.ศ.2520 และต่อมาได้ย้ายมาออกอากาศทางสถานีวิทยุกรมการขนส่งทหารบก FM 102 พร้อมกับไปเป็นรายการโทรทัศน์ของ ททบ.5 ออกอากาศในช่วงเวลา 08.00-08.30 น. ในวันอาทิตย์อีกด้วย

กล่าวกันว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังในการขอร้องแกมบังคับให้ “อาหม่อม” เข้าสู่รายการ “ทอล์กโชว์” ทางวิทยุเมื่อ พ.ศ.2520 ก็คือ คุณ ประกิต อภิสารธนรักษ์ ประธานบริษัทประกิตโฆษณา และ คุณ พิศาล ประหัษฎางกูร รองประธานนั่นเอง

คุณพิศาลเล่าว่า หลังจากเชิญท่านมาเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับ “ซอสตราภูเขาทอง” ที่บริษัททำโฆษณาอยู่จนโด่งดังแล้วคุณประกิตก็ชวนท่านนั่งรถตู้ไปเดินสายตรวจตลาดต่างจังหวัดด้วยกันหลายครั้ง

ระหว่างนั่งรถผ่านไปตามสถานที่ต่างๆ อาหม่อมจะเล่าถึงความเป็นมาเป็นไปของสถานที่นั้นๆ ด้วยความรอบรู้อย่างลึกซึ้ง

บางขณะก็คุยเรื่องเก่าๆ ย้อนอดีตกรุงเทพฯ บ้าง ประวัติของบุคคลสำคัญๆ ของประเทศไทยบ้าง จนทั้งคุณพิศาลและคุณประกิตเห็นพ้องกันว่าต้องหารายการวิทยุให้ “อาหม่อม” ไปเล่าเรื่องที่ท่านเล่าอย่างสนุกสนานในรถตู้ระหว่างเดินสายตรวจตลาดสักรายการหนึ่ง

ในที่สุดก็ไปได้ที่ FM94 และใช้วิธีอัดเทปที่ห้องอัดเสียงของคุณไพบูลย์ ศุภวารี ส่งไปออกอากาศอีกทอดหนึ่ง

ได้รับเกียรติจากหัวหน้า จำนง รังสิกุล อดีตผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ช่อง 4 บางขุนพรหม ที่เกษียณอายุแล้ว และมาเป็นที่ปรึกษาบริษัทประกิตเป็นผู้ตั้งชื่อรายการนี้ว่า “ครอบจักรวาล” เพราะมีเจตนาที่จะให้ “อาหม่อม” พูดทุกเรื่องที่ท่านอยากพูดและอยากเล่า

ปรากฏว่า 3 วันแรกกร่อยสนิท คนฟังฟังแล้วหลับเป็นแถวๆ เหตุเพราะอาหม่อมท่านตั้งใจเกินไป เขียนบททำการบ้านมาอย่างดี และมาถึงก็นั่งอ่านไปตามบทที่ท่านเขียนไว้

บรรดากองเชียร์และผู้ยุยงทั้งหลาย โดยเฉพาะคุณพิศาล เห็นว่าไม่รอดแน่ๆ หากท่านจะใช้วิธีอ่านเหมือนอ่านไทยแบบนี้ จึงขอร้องให้ท่านเลิกเขียนบท เลิกเตรียมตัวล่วงหน้า…วันไหนนึกอยากจะพูดเรื่องอะไรก็พูดไปเลยเดี๋ยวนั้นแบบฟรีสไตล์

จากนั้นมา ม.ร.ว.ถนัดศรีก็เลิกเตรียมตัว เลิกเขียนบท เขียนสคริปต์ล่วงหน้า มาถึงห้องอัดเสียงก็ว่าฉอดๆ ตามแต่จะนึกอะไรออก

ได้ผลเลยทีนี้ เพราะอีกไม่นานต่อมารายการวิทยุ “ครอบจักรวาล” โดย ม.ร.ว.ถนัดศรี ก็กลายเป็นรายการที่มีผู้ฟังสูงสุดใน พ.ศ.ดังกล่าว

ทำให้คนไทยที่เคยรู้จักอาหม่อมในฐานะ “นักร้อง” ที่ร้องเพลงได้อย่างหวานซึ้ง และรู้จักในฐานะ “นักชิม” ที่บุกเบิกการชิมอาหารเป็นเจ้าแรกๆ ได้มีโอกาสรู้จักท่านในฐานะ “นักพูด” อีก “นัก” หนึ่ง

ส่วนการเป็น “นักเขียน” นั้น ช่ำชองมาตั้งแต่ต้นแล้ว เพราะในการแนะนำร้านอาหารผ่านคอลัมน์ “เชลล์ชวนชิม” ในสยามรัฐสัปดาห์วิจารณ์ ท่านได้ใช้วิชาขีดเขียนหนังสือของท่านมาโดยตลอด และได้มาพิสูจน์ฝีมืออีกครั้งในไทยรัฐวันอาทิตย์

คงหาไม่ได้ง่ายนักที่บุคคลคนหนึ่งจะเกิดมาแล้วเป็นได้หลายๆ “นัก” ที่ประสบผลสำเร็จ และเป็นที่ยอมรับของสังคมในทุกๆ “นัก” ดังเช่น อาหม่อม “ม.ร.ว.ถนัดศรี สวัสดิวัตน์”

ใน 6 ทศวรรษที่ผ่านมาของประเทศไทย น่าจะมีท่านเพียงคนเดียวกระมัง?

“ซูม”