ฝากไปถึง “บิ๊ก” เมียนมา เป็นลูกป๋าต้องเอาอย่างป๋า
ขณะที่ผมเขียนต้นฉบับเหตุการณ์ยึดอำนาจที่เมียนมาผ่านมา 2 วันจะเข้าวันที่ 3 แล้ว ยังไม่มีข่าวอะไรที่ร้ายแรงถึงขั้นเลือดตกยางออก หรือมีการเสียชีวิตตามมา
ขณะที่ผมเขียนต้นฉบับเหตุการณ์ยึดอำนาจที่เมียนมาผ่านมา 2 วันจะเข้าวันที่ 3 แล้ว ยังไม่มีข่าวอะไรที่ร้ายแรงถึงขั้นเลือดตกยางออก หรือมีการเสียชีวิตตามมา
การยึดอำนาจหรือการก่อรัฐประหารของคณะทหารเมียนมา ภายใต้การนำของ พล.อ.มิน อ่อง หล่าย จากรัฐบาลเมียนมา เมื่อ 2-3 วันที่แล้ว ดูจะแตกต่างไปจากการยึดอำนาจของคณะทหารทั่วๆ ไปในโลกนี้ รวมทั้งที่เกิดขึ้นหลายต่อหลายครั้งในบ้านเรา
เมื่อวานนี้ ผมเขียนถึงข่าวการจับกุมโรงแรม ร้านค้า ร้านอาหาร และประชาชนที่ให้ความร่วมมือจำนวนมาก ในการโกงโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ของรัฐบาล พร้อมกับตั้งคำถามไว้ว่า การโกงอย่างมโหฬารครั้งนี้ เป็นเพราะอะไรกันแน่?
ข่าวพาดหัวไม่ใหญ่นักแต่ก็ไม่เล็กมากและพาดอยู่ในจุดที่เห็นชัดพอสมควรของหน้าเศรษฐกิจไทยรัฐ กรอบประจำวันพุธที่ 20 มกราคม ทำให้ผมรีบอ่านก่อนเป็นข่าวแรก เมื่อพลิกหนังสือพิมพ์ไทยรัฐมาจนถึงหน้า 9 เมื่อวานนี้ นั่นคือพาดหัวที่ว่า “แอร์เอเชียสั่งพนักงาน 75 เปอร์เซ็นต์ หยุดงาน”
เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้วธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ออกมาแถลง ข่าวว่าด้วยการประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการระบาดรอบใหม่ของโควิด-19 มีประเด็นสำคัญมากประเด็นหนึ่งที่ผมคิดว่ารัฐบาลต้องให้ความสนใจและต้องแก้ปัญหาอย่างจริงจัง
เคาะออกมาเรียบร้อยโรงเรียนรัฐบาลไทยแล้วนะครับ สำหรับมาตรการเยียวยาผลกระทบจากการระบาดรอบสองของโควิด-19 ในประเทศไทย หลังการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันอังคารที่แล้ว
ตลาดสี่มุมเมือง จับมือธนาคารกรุงไทย ตั้งจุด “คนละครึ่ง one stop service” เพื่อช่วยเหลือรถเร่และแผงค้า สมัคร “โครงการคนละครึ่ง” เพื่อเพิ่มช่องทางให้กับประชาชนได้ซื้อสินค้าอย่างทั่วถึง ลดภาระค่าใช้จ่ายประชาชน เป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจปลายปี
ผมชอบหน้าหนาวหรือฤดูหนาวครับ ซึ่งก็คงจะเป็นความชอบที่เหมือนๆ หรือคล้ายๆ กับพี่น้องชาวไทยทั้งประเทศนั่นเอง
มีข่าวที่ผมได้ยิน ได้ฟังและได้อ่านรายละเอียดแล้วก็รู้สึกดีใจขึ้นมาแว่บหนึ่ง แต่ก็แว่บเดียวเท่านั้นเองครับ เพราะหลังจากนั้นความดีใจก็ค่อยๆ คลายลง กลายเป็นความห่วงใยกลับมาเหมือนเดิม เมื่ออ่านมาถึงท่อนจบ ข่าวที่ “สภาพัฒน์” หรือ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รายงานสถานการณ์ความยากจนของประเทศไทย ในปี 2562 ว่าปรับตัวไปในทางที่ดีขึ้นนั่นแหละครับ