ข่าวพาดหัวไม่ใหญ่นักแต่ก็ไม่เล็กมากและพาดอยู่ในจุดที่เห็นชัดพอสมควรของหน้าเศรษฐกิจไทยรัฐ กรอบประจำวันพุธที่ 20 มกราคม ทำให้ผมรีบอ่านก่อนเป็นข่าวแรก เมื่อพลิกหนังสือพิมพ์ไทยรัฐมาจนถึงหน้า 9 เมื่อวานนี้ นั่นคือพาดหัวที่ว่า “แอร์เอเชียสั่งพนักงาน 75 เปอร์เซ็นต์ หยุดงาน”
และเมื่ออ่านเนื้อในไปจนถึงย่อหน้าที่อยู่ในเครื่องหมายคำพูดทั้งหมด…ผมก็รู้สึกสะเทือนใจอย่างบอกไม่ถูกและตัดสินใจในบัดเดี๋ยวนั้นว่าผมควรจะหยิบข่าวนี้มาเขียนในคอลัมน์วันนี้
ก่อนจะเขียนถึงข้อความในเครื่องหมายคำพูดที่ว่านี้ ผมขอสรุปรายงานข่าวชิ้นนี้เพิ่มเติมอีกนิดว่า จากพาดหัวที่ผมนำมาลงไว้ข้างต้นนั้น รายละเอียดของข่าวมีประเด็นอะไรบ้าง
ประเด็นหลักก็คือ ทางสายการบินแอร์เอเชียได้ขอความร่วมมือให้พนักงานของบริษัททั้งหมดรวมทั้งลูกเรือ พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน พนักงานภาคพื้นดิน และ ฯลฯ รวมแล้วกว่า 75 เปอร์เซ็นต์…หยุดงานโดยไม่รับค่าจ้าง (Leave Without Pay) เป็นเวลา 4 เดือน ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ไปจนถึงเดือนพฤษภาคม
เหลือไว้สำหรับทำงานทั้งนักบินและเจ้าหน้าที่ฝ่ายอื่นๆ ที่จำเป็นแค่ 25 เปอร์เซ็นต์ ดังที่หน้าเศรษฐกิจไทยรัฐพาดหัวไว้
ครับ! ก็มาอ่านข้อความในเครื่องหมายคำพูดกันได้ละ…ซึ่งผู้พูดหรือผู้ให้สัมภาษณ์ประโยคทุกประโยคต่อไปนี้ก็คือคุณ สันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของสายการบินแอร์เอเชียนั่นเอง
“เป็นการตัดสินใจที่ยากลำบาก…เจ็บปวด…และเข้าใจผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับพนักงาน แต่หากไม่มีบริษัทก็จะไม่มีพนักงาน ดังนั้น จึงมีความจำเป็นที่จะต้องรักษาบริษัทไว้ และหากไม่มีพนักงานก็จะไม่มีบริษัทเช่นกัน ดังนั้นจึงต้องรักษาไว้ทั้ง 2 อย่าง”
“เป็นที่มาของการลดจำนวนคนทำงานลง หยุดการรับเงินไว้ช่วงเวลาหนึ่ง…แต่ทุกคนยังอยู่ด้วยกันและหากสถานการณ์ดีขึ้น ยืนยันว่าจะเรียกพนักงานกลับมา แต่ในช่วงเวลานี้คงต้องหยุดทำงานเพื่อบริษัท”
ครับ! นี่คือส่วนหนึ่งของผู้ที่ได้รับผลกระทบด้านการทำงานโดยตรงจาก พิษสงของ “โควิด-19” ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประมาณการไว้ว่ามีเกือบๆ 7 ล้านคน ที่ผมหยิบตัวเลขมาเขียนถึงเมื่อวานนี้
ครับ! นี่กระมังคือคำอธิบายของศัพท์ “คนเสมือนว่างงาน” ที่แบงก์ชาติหยิบมาใช้และผมก็คัดลอกมาลงต่อโดยยังนึกไม่ออกว่า เสมือนว่างงาน นั้นคืออะไร?
อ่านข่าวนี้แล้วก็เข้าใจทันทีว่า “เสมือนว่างงาน” นั้นก็คือ…ยังมีงานทำอยู่ บริษัทเขายังไม่ให้เราออก แต่เขาไม่มีเงินจะจ่ายเงินเดือนให้… และให้สัญญาว่า ถ้าทุกอย่างฟื้นขึ้นเมื่อไร บริษัทจะเรียกตัวกลับมา
จริงๆ แล้วสถานภาพของการว่างงานแบบนี้ ก็ยังดีกว่าแบบที่เราเห็นและคุ้นเคยคือ ต้องออกจากงานไปชั่วนิรันดร์เลย เพราะบริษัทต้องเลิกกิจการโดยสิ้นเชิง และเราไม่มีทางจะได้กลับไปบริษัทเก่าอีก ต้องรอบริษัทใหม่ สมัครงานกันใหม่เท่านั้น
ซึ่งเป็นภาพที่เกิดขึ้นในทุกสาขาการผลิตและการบริการของประเทศไทยในขณะนี้ หรือจะบอกว่า ในทุกประเทศทั่วโลกขณะนี้ (ยกเว้นจีน) ก็คง จะได้กระมังจากฤทธิ์เดชในการทำลายเศรษฐกิจทั่วโลกของโควิด-19
ผมก็ขอปลอบใจและขอให้กำลังใจแก่น้องๆ หลานๆ ทุกคนของ สายการบินแอร์เอเชีย จงอย่าท้อแท้ จงกัดฟันสู้ จงอยู่อย่างประหยัด เพื่อรอฟ้าหลังฝน ซึ่งหวังว่าจะกลับมาในวันใดวันหนึ่งข้างหน้า
นอกจากน้องๆ แอร์เอเชียแล้ว อย่างที่ผมบอกทุกๆ กิจกรรมการผลิตการค้า การบริการล้วนแต่เผชิญปัญหานี้ด้วยกันทั้งสิ้น จึงขอให้อดทนและกัดฟันสู้ ทุกๆ คนและทุกบริษัททั่วประเทศไทย ทั้งที่ว่างงานจริงๆ และเสมือนว่างงานนะครับ
คนแก่ที่ช่วงนี้ยังโชคดีไม่ตกงานอย่างผมก็คงทำได้เพียงแค่นี้ คือให้กำลังใจและเอาใจช่วยให้น้องๆ หลานๆ มีความอดทน และยืนหยัดสู้ต่อไป โดยไม่ท้อถอยเท่านั้น
ส่วนคณะบุคคลที่พอจะช่วยน้องๆ หลานๆ ให้กลับมามีงานทำได้อย่างแท้จริงก็คือ “คณะรัฐบาล” ที่มี “บิ๊กตู่” เป็นหัวหน้าโน่นแหละ
ถ้าท่านช่วยน้องๆ ให้มีงานทำได้ ท่านก็คงได้อยู่ต่อ แต่ถ้าท่านช่วยน้องๆ ไม่ได้ ท่านและคณะก็คง “ตกงาน” ด้วยเหมือนกัน.
“ซูม”