ได้เวลา “ทำการบ้าน” เตรียม “สอบไล่” 14 พ.ค.
วันนี้เป็นวันเริ่มต้นทำงานวันแรกหลังจากหยุดยาวในช่วงเทศกาลสงกรานต์เสียหลายวัน รวมทั้งวันหยุดชดเชยเมื่อวานนี้ด้วย
วันนี้เป็นวันเริ่มต้นทำงานวันแรกหลังจากหยุดยาวในช่วงเทศกาลสงกรานต์เสียหลายวัน รวมทั้งวันหยุดชดเชยเมื่อวานนี้ด้วย
เมื่อวานนี้ผมเล่าถึงคำว่า “ประชารัฐ” ที่เกิดขึ้นตั้งแต่แผนพัฒนาฉบับที่ 8 (พ.ศ.2540-2544) แต่โดนแช่แข็ง “แน่นิ่ง” ตามระบบ “แพลนนิ่ง” แบบไทยๆ มาถึง 18-19 ปี
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมานี้เอง ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบวาระสำคัญวาระหนึ่ง ซึ่งเป็นข่าวเล็กๆ ในสื่อมวลชนต่างๆ แต่สำหรับผมแล้วเห็นว่านี่คือข่าวใหญ่มาก ขออนุญาตหยิบมาขยายความต่อในวันนี้นะครับ
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วมีการจัดเสวนาที่ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือที่เราเรียกกันอย่างติดปากว่า “แบงก์ชาติ” ในหัวข้อ “เหลียวหลังแลหน้ากับผู้ว่าการ ธปท.” โดยเชิญอดีต “บิ๊ก” หรือผู้ว่าการแบงก์ชาติ มาร่วมแสดงความคิดเห็นถึง 6 คน…เป็นข่าวใหญ่พาดหัวหน้าเศรษฐกิจหนังสือพิมพ์เกือบทุกฉบับ
ยังคงเป็นข่าวใหญ่เขย่าขวัญชาวโลกต่อไป สำหรับเจ้าเชื้อ “กลายพันธุ์” โควิด-19 ที่มีรหัสหรือโค้ดว่า “B.1.1.529” และองค์การอนามัยโลกตั้งชื่อให้เรียบร้อยแล้วว่า “Omicron”
ในที่สุดต้นไม้ใหญ่ที่ยืนต้นอยู่ใกล้ฝั่งแม่น้ำที่เรียกกันว่า “ไม้ใกล้ฝั่ง” อีกต้นหนึ่งก็อำลาจากไปอย่างน่าเสียดายยิ่ง เพราะโดยข้อเท็จจริงแล้วท่านยังเป็นต้นไม้ใกล้ฝั่งที่แข็งแรงมาก หากไม่เผชิญกับ “โรคร้าย” โรคหนึ่งตามที่หนังสือพิมพ์รายงานเสียก่อน
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐฉบับล่วงหน้าวันจันทร์ที่ 13 กันยายน พาดหัวตัวยักษ์ไว้ว่า “เด็ก พปชร. ระส่ำระสาย”
ผมขออนุญาตเขียนเยียวยาความเจ็บปวดของตัวเอง หรือ “ไถ่ความผิด” ให้แก่ตัวผมเองต่อจากเมื่อวานอีกสักวันนะครับ เพราะเงยหน้าขึ้นมองปฏิทินแล้วพบว่าขณะที่นั่งเขียนตรงกับบ่ายๆ ของวันที่ 14 กุมภาพันธ์ หรือวันวาเลนไทน์พอดิบพอดี เขียนต่อจากเรื่องเมื่อวานน่าจะเข้าบรรยากาศที่สุด
ก่อนวันวาเลนไทน์ 14 กุมภาพันธ์ปีนี้สักวันหรือ 2 วันประมาณนี้ ผมอ่านเจอข่าวที่หนังสือพิมพ์หลายฉบับลงไว้เป็นข่าวเล็กๆ แต่สำหรับผมแล้วถือเป็นข่าวใหญ่เลยทีเดียว
เมื่อตอนที่โควิด–19 ระบาดรอบแรกนั้น คนไทยจำนวนมากที่รอฟังคุณหมอทวีศิลป์แถลงข่าวช่วงก่อนเที่ยงจะคอยลุ้นกันว่า “เลขที่ออก” หรือจำนวนตัวเลขของผู้ติดเชื้อจะมากหรือน้อยอย่างไร?