ซอกแซกสัปดาห์นี้ยังอยู่ในช่วงเวลาของเทศกาลสงกรานต์ “ขึ้นปีใหม่แบบไทยๆ” และทั่วประเทศไทยกำลังชุ่มฉ่ำด้วยการสรงนํ้าพระ–รดนํ้าดำหัวขอพรผู้อาวุโส… และการเล่นสาดนํ้าจากใจถึงใจ ทั้งในหมู่คนไทยด้วยกันเอง และในหมู่นักท่องเที่ยวที่แห่แหนมาร่วมสาดนํ้าด้วยแน่นขนัดในหลายๆ พื้นที่ของประเทศไทยยามนี้
ต้องขอขอบคุณรัฐบาลไทย ขอบคุณทุกหน่วยราชการไทย และบริษัทเอกชนอีกหลายสิบบริษัทที่ร่วมกันจัดงานเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสที่องค์การยูเนสโกได้ประกาศขึ้นทะเบียนให้ “ประเพณีสงกรานต์” ของประเทศไทยเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องมิได้ของมนุษยชาติ เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม ปลายปีที่ผ่านมาได้อย่างสุดยิ่งใหญ่ในทุกแห่งทุกที่ทั่วประเทศ
โดยเฉพาะงานหลัก ซึ่งถือเป็นงานของรัฐบาลโดยตรง ร่วมจัดโดย กระทรวงมหาดไทย กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) อันได้แก่ งาน “เย็นทั่วหล้ามหาสงกรานต์ 2567” ที่จัดขึ้น ณ บริเวณถนนราชดำเนินกลาง และบริเวณท้องสนามหลวง ระหว่าง 11-15 เมษายนนั้น ต้องยกนิ้วให้เลย จัดได้อย่างประทับใจสมกับที่ลุ้นและรอคอยมาตั้งแต่ได้ยินข่าวคราว
เริ่มจากพิธีเปิดเมื่อยามเย็นไปจนถึงย่ำค่ำของคืนวันพฤหัสบดีที่ 11 เมษายนนั้น ต้องขอแสดงความชื่นชมที่จัดได้อย่างยิ่งใหญ่อลังการ และนำอัตลักษณ์ของประเทศไทยจากทุกภูมิภาคมาอวดสายตาชาวโลกได้เกือบครบถ้วน
เสียดายที่หัวหน้าทีมซอกแซกมิได้อยู่ในวัยที่จะสามารถไปเบียดเสียดผู้คน หรือแม้แต่จะไปนั่งนิ่งๆ แต่ถ้านั่งนานๆ เกินชั่วโมงก็มีปัญหาในเรื่องของการขับถ่ายน้ำเสียออกจากร่างกายทำให้หมดสิทธิ์ที่จะไปซอกแซกเดินชม หรือแม้แต่นั่งชมด้วยตนเองอย่างในอดีตที่ผ่านมา
ยังโชคดีที่ความทันสมัยไฮเทคของประเทศ ไทยเราก็ไม่เป็นสองรองใครในโลกนี้ ทำให้มีการถ่ายทอดสดหรือไลฟ์สดจากยูทูบเบอร์ส่วนบุคคลและของสำนักข่าวชื่อดังต่างๆ ที่สามารถ่ายทอดและให้เวลาแก่คนดูทางบ้านได้อย่างเต็มที่หลายต่อหลายช่อง
ส่งผลให้หัวหน้าทีมซอกแซกซึ่งนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์สามารถติดตามชมพิธีเปิดงานอันยิ่งใหญ่อลังการครั้งนี้ได้ตั้งแต่ต้นจนจบ
นั่งตั้งแต่ 5 โมงครึ่งจนถึงประมาณ 2 ทุ่ม ได้มีโอกาสดูชมทุกขบวนประมาณ 20 ขบวนครบถ้วน ไม่ตกหล่นเลยแม้แต่ขบวนเดียว
ที่ชอบมากๆ ก็คือขบวนของ 16 จังหวัดที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและมีกิจกรรมท่องเที่ยวเป็นกิจกรรมหลักของจังหวัดเป็นทุนอยู่ก่อนแล้ว
แม้จะดูมาบ่อยมากและดูมาตั้งแต่เริ่มจำความได้ จนถึงบัดนี้ไม่ตํ่ากว่า 60-70 ปีแล้ว ก็ยังไม่เบื่ออยู่นั่นเอง
ยิ่งมาดูอยู่คนเดียวหน้าจอคอมพิวเตอร์ในหลายช่วงหลายๆ ตอนถึงกับนํ้าตาซึมโดยไม่รู้ตัว…นํ้าตาแห่งความปลาบปลื้ม นํ้าตาแห่งความภาคภูมิใจที่ได้เกิดมาในแผ่นดินนี้ และมีส่วนเป็นเจ้าของวัฒนธรรมที่จังหวัดต่างๆ นำมาเสนอในพิธีเปิดงาน “เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์” ปีนี้แม้เราจะมิใช่คนจังหวัดนั้นๆ ก็ตาม
เริ่มตั้งแต่ขบวนแรกที่เป็นขบวนรถอัญเชิญพระพุทธรูปจำลอง พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร ที่องค์จริงประดิษฐานอยู่ ณ วัดไตรมิตรวิทยาราม ดังที่ทราบกันดีอยู่แล้ว และเป็นพระพุทธรูปที่สร้างขึ้นในสมัยสุโขทัยที่สามารถผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านศึกผ่านสงครามต่างๆ ที่ประเทศของเราต้องเผชิญในอดีต ซึ่งในที่สุดก็ปรากฏพระองค์เป็น “พระพุทธรูปทองคำ” ให้คนรุ่นเราได้สักการบูชา…และคงอยู่ให้ลูกไทยหลานไทยสักการะต่อไปตราบนานเท่านานในวันข้างหน้า
ถัดมาเป็นขบวน รถแห่เทพีสงกรานต์ หรือนางสงกรานต์ปีนี้อันได้แก่ นาง “มโหธรเทวี” ที่ไสยาสน์ลืมตาเหนือหลังนกยูงที่หัวหน้าทีมอ่านพบในคำทำนาย ของโหราใหญ่ว่า การนอนลืมตา ของแม่นางนั่นเองที่จะนำความ “อยู่เย็นเป็นสุข” มาสู่ประชาชนชาวไทย
ต้องขอบคุณคณะกรรมการจัดงานที่เชิญน้อง แอนโทเนีย โพซิ้ว รองอันดับ 1 มิสยูนิเวิร์ส 2023 มาเป็นนางมโหธรเทวี เพราะเธอทั้งสวยทั้งยิ้มหวานมาก ระหว่างขบวนรถแห่ไปเธอก็ทั้งยิ้ม ทั้งโบกมือให้แก่ประชาชน 2 ฟากทางไป รวมถึงพวกเราประชาชนที่ดูไลฟ์สดอยู่ที่บ้าน เชื่อว่าจะนำความอยู่เย็นเป็นสุขมาสู่ทุกๆ คน ตามคำทำนายแน่ๆ (เพราะแค่เห็นรอยยิ้มก็เป็นสุขแล้วครับ)
สำหรับขบวนของจังหวัดต่างๆ รวม 16 จังหวัด อันได้แก่ เชียงใหม่, ขอนแก่น, ชลบุรี, สมุทรปราการ, นครศรีธรรมราช, เชียงราย, หนองคาย, พิษณุโลก, สงขลา, บุรีรัมย์, พระนครศรีอยุธยา, นครพนม, ลำปาง, เลย, สุโขทัย และ ภูเก็ต นั้น ก็จัดขบวนและนำเสนอศิลปวัฒนธรรมและของดีของแต่ละจังหวัดได้ครบถ้วน
โดยส่วนตัวหัวหน้าทีมซอกแซกเคยทำงานที่ต้องวิ่งรอกไปทั่วประเทศไทยมาเกือบ 30 ปี จึงไปมาครบทุกจังหวัด และคุ้นเคยกับทั้ง 16 จังหวัดเป็นอย่างยิ่ง…จึงดูด้วยความสุขมากๆ เป็นพิเศษสำหรับขบวนเหล่านี้
อ้อ! อีก 1 ขบวนที่ต้องขอเอ่ยก็คือขบวนของ “ฟ่าน ปิง ปิง” นักแสดงหญิงระดับโลกจากจีน ที่มาร่วมแห่ด้วยในชุดไทยๆ ที่อลังการจนแทบจำไม่ได้…ต้องยอมรับว่าเธอสวยจริงๆ มี FC เดินตามเป็นร้อยๆ คนเลยทีเดียว
สำหรับขบวนท้ายๆ ซึ่งเป็นขบวนทันสมัย เช่น ขบวน “เกมส์” และขบวน LGBTQ นั้น หัวหน้าทีมซอกแซกยอมรับว่าเป็นคนตกรุ่น จึงไม่อินเท่าไรนัก
แต่อินมากๆ กับทุกขบวนในช่วงแรกๆ จึงขอจบข้อเขียนซอกแซกสัปดาห์นี้ ด้วยความขอบคุณทุกๆ ท่านที่มีส่วนในการจัดงานนี้ไว้ ณ ที่นี้อีกครั้งหนึ่ง
พร้อมกับขอบันทึกไว้เพื่อเป็น “บันทึกช่วยจำ” ชิ้นเล็กๆ อีกชิ้นหนึ่ง เผื่อว่าลูกไทยหลานไทยในอนาคตที่เข้ามาค้นหาใน “กูเกิล” จะได้ทราบว่าปู่ย่าตาทวดใน พ.ศ.2567 ของพวกเขาจัดงานสงกรานต์ได้ยิ่งใหญ่จริงๆ.
“ซูม”