บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ 2022 กิจกรรมพิเศษ “History of Long Durational Work and MAI” โดย มารีน่า อบราโมวิช

ศิลปินคอนเซปชวลและเพอร์ฟอร์มแมนซ์คนสำคัญ มารีน่า อบราโมวิช จะเดินทางมาที่กรุงเทพมหานครเพื่อบรรยายงาน “บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ 2022″ โดยเธอจะบรรยายในหัวข้อ “History of Long Durational Work and MAI” (ประวัติการแสดงแบบต่อเนื่อง และสถาบันมารีน่า อบราโมวิช)

ข่าว, BAB 2022, บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ 2022, มารีน่า อบราโมวิช, ศิลปิน, ซูมซอกแซก

กว่า 50 ปีที่ผ่านมา อบราโมวิชได้รับการยอมรับในฐานะผู้บุกเบิกศิลปะการแสดงจากทั่วโลก ในผลงานของเธอ เธอมักทดลองต่อสู้กับร่างกายและจิตของเธอ อบราโมวิชยังเคยร่วมแสดงผลงานกับบางกอก อาร์ต เบียนนาเล่สองครั้งก่อนในปี พ.ศ. 2561 และ 2563 และสำหรับในครั้งนี้ เธอเลือกที่จะแสดงผลงานวิดีโอเก้าชิ้นสำหรับธีม CHAOS : CALM (โกลาหล : สงบสุข) รวมถึงสองผลงานที่เธอได้มาผลิตในประเทศไทยเมื่อหลายปีก่อนอีกด้วย

ข่าว, BAB 2022, บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ 2022, มารีน่า อบราโมวิช, ศิลปิน, ซูมซอกแซก

เนื้อหาการบรรยายโดยย่อ
”ทุกสิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับการแสดงสด การบรรยายนี้จะประกอบไปด้วยหลากหลายภาพที่พูดถึงศิลปะของการแสดง และจะยังอธิบายถึงความสัมพันธ์ของการแสดงและสื่ออื่นๆ อีกด้วย”

การบรรยายนี้จะจัดขึ้นในวันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2566 เวลา 18:00 – 20:15 ณ​ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ สามารถจองบัตรได้ที่ https://www.ticketmelon.com/bangkokartbiennale/worksofartandmai

ข่าว, BAB 2022, บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ 2022, มารีน่า อบราโมวิช, ศิลปิน, ซูมซอกแซก

ประวัติมารีน่า อบราโมวิช

มารีน่า อบราโมวิชเกิดที่เบลเกรด ประเทศเซอร์เบียในวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2489 ตั้งแต่จุดเริ่มต้นอาชีพของเธอ ซึ่งผ่านมาถึงกว่าสี่ทศวรรษแล้ว มารีน่า อบราโมวิชได้ริเริ่มศิลปะการแสดงสด และสร้างรูปแบบที่สำคัญที่สุดขึ้นในผลงานแรกๆของเธอ เธอยังเป็นที่รู้จัดในนาม “แม่อุปถัมป์แห่งวงการศิลปะการแสดง” ร่างกายเป็นทั้งประเด็นและอุปกรณ์ของอบราโมวิชอยู่เสมอมา เธอค้นหาขีดจำกัดสูงสุดของร่างหายและจิดใจของเธอผ่านผลงาน ซึ่งเป็นเหมือนการประกอบพิธีด้วยกิจกรรมธรรมดาๆที่ทำกันในชีวิตประจำวัน เธออดทนกับความเจ็บปวด เหนื่อยล้า และอันตราย เพื่อเสาะแสวงหาการเปลี่ยนแปลงของอารมณ์และจิตวิญญานของเธอ เธอยังค้นหาการรับรู้ถึงความเป็นตัวตนใหม่ๆ โดยชักชวนให้ผู้ชมมามีส่วนร่วมกับเธอ และนั่นก็เป็นการให้ความสำคัญกับบทบาทของสาธารณชน

อบราโมวิชเคยเป็นนักเรียนของ Academy of Fine Arts ในเบลเกรดตั้งแต่ปี พ.ศ. 2508 – 2513 เธอจบการศึกษาระดับปริญญาจาก Academy of Fine Arts ซาเกร็บ โครเอเชีย ในปี พ.ศ. 2515 จากนั้นเธอได้กลับไปที่เซอร์เบีย และ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2516 – 2518 เธอได้เริ่มสอนที่ Academy of Fine Arts ณ โนวิสาด ระหว่างนั้นเธอก็ได้ทำการแสดงเดี่ยวเป็นครั้งแรก

เธอได้แสดงผลงานในสถาบันที่สำคัญหลายแห่งในสหรัฐอเมริกา และ ยุโรป เช่น the Stedelijk Van Abbemuseum, ไอนด์โฮเฟิน, 2528; Centre Georges Pompidou, ปารีส, 2533; Neue National Galerie, เบอร์ลิน, 2536 และ the Museum of Modern Art, อ๊อกซ์ฟอร์ด, 2538 เธอยังได้ร่วมแสดงในนิทรรศการขนาดใหญ่ เช่น Venice Biennale (2519 และ 2540) และ Documenta VI, VII and IX คาสเซล (2520, 2525 และ 2535)

อบราโมวิชได้รับรางวัล Golden Lion สาขา Best Artist (ศิลปินยอดเยี่ยม) ที่ Venice Biennale ในปี พ.ศ. 2540 จากผลงานวิดีโอจัดวาง และการแสดงชื่อ “Balkan Baroque” ในปี พ.ศ. 2551 เธอได้รับเหรียญเกียรติยศ Austrian Commander Cross จากการสนับสนุนด้านประวัติศาสตร์ศิลปะ ในปี พ.ศ. 2556 กระทรวงวัฒนธรรมของฝรั่งเศสยังได้รับเธอเป็น Officer to the Order of Arts and Letters นอกจากรางวัลเหล่านี้แล้ว เธอยังได้รับดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์อีกมากมายจากสถาบันทั่วโลก

ผลงานการแสดงที่เป็นที่โดดเด่น เช่น “The House With The Ocean View” ที่ Sean Kelly Gallery, นิวยอร์ก ปี พ.ศ. 2545 และการแสดง “7 Easy Pieces” ที่ Guggenheim Museum นิวยอร์ก ปี พ.ศ. 2548 ในปี พ.ศ. 2553 อบราโมวิชได้จัดแสดงนิทรรศการเรโทรสเปกทีฟผลงานของเธอครั้งใหญ่เป็นครั้งแรก และในเวลานั้น เธอได้ทำการแสดงกว่า 700 ชั่วโมง ในงาน “The Artist is Present” ที่ Museum of Modern Art นิวยอร์ก เธอใช้ตัวของเธอเองและสาธารชนเป็นอุปกรณ์ในการสร้างผลงานอีกครั้งในผลงานการแสดงที่ Serpentine Gallery ในลอนดอน ในพ.ศ. 2557 ซึ่งเธอได้ทำการแสดงเป็นเวลาสามเดือน ผลงานชิ้นนี้ได้ถูกตั้งชื่อตามระยะเวลาของการแสดงซึ่งคือ “512 Hours”

ในปี พ.ศ. 2555 เธอได้ก่อตั้งสถาบันมารีน่า อบราโมวิช (Marina Abramović Institute (MAI)) มูลนิธิไม่แสวงหาผลกำไรสำหรับศิลปะการแสดงนี้มีจุดโฟกัสอยู่ที่การแสดง ผลงานแบบมีระยะเวลาต่อเนื่อง และการใช้ “Abramovic Method” (วิถีอบราโมวิช) MAI เป็นแพลทฟอร์มสำหรับงานที่ไร้วัสดุ และงานที่ใช้เวลาต่อเนื่องยาวนาน เพื่อที่จะสร้างความเป็นไปได้ใหม่ๆในการร่วมมือกันของเหล่านักคิดในทุกสาขา ในปีพ.ศ. 2559 หนังสือ Walk Through Walls: A Memoir ของเธอได้ถูกตีพิมพ์โดย Crown Archetype นิทรรศการเรโทรสเปกทีฟ The Cleaner ได้เปิดตัวที่ Moderna Museet สต็อกโฮม ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี พ.ศ. 2560 และย้ายไปจัดแสดงต่อที่ Louisiana Museum of Modern Art เดนมาร์ก, Henie Onstad Kunstsenter ออสโล, Bundeskunsthalle ใน บอนน์, Palazzo Strozzi ในฟลอเรนซ์, Centre for Contemporary Art Znaki Czasu โตรัน และสุดท้ายที่ Museum of Contemporary Art ในเบลเกรด ในปี พ.ศ. 2563

ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2563 Bayerische Staats Oper ได้แสดงผลงาน 7 Deaths of Maria Callas เป็นครั้งแรกของโลก ซึ่งจะทัวร์ไปแสดงที่อื่นต่อไปอีก ในปี พ.ศ. 2566 เธอจะแสดงนิทรรศการเดี่ยวที่ Royal Academy และจะกลายเป็นศิลปินหญิงคนแรกที่ได้ใช้พื้นที่แกลเลอรี่ทั้งหมดในการจัดแสดงผลงานในประวัติศาสตร์ 250 ปีของสถาบันนี้

กรุณาเข้าไปที่ www.bkkartbiennale.com สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม หรือติดตามเราทางโซเชียลมีเดียได้ที่ @BkkArtBiennale (Facebook, Instagram, Youtube, Twitter, Line Official)