เมื่อสัปดาห์ก่อนโน้นผมเขียนถึง “ทุกข์ของชุมชนคลองจั่น…ในวันที่ฝันร้ายจะมาเยือน” เอาไว้ถึง 3 วันเต็มๆ กรณีจะมีรถไฟฟ้า มาผ่านหมู่บ้านนักกีฬาคลองจั่น บริเวณถนนนวมินทร์ ย่านบางกะปิ และการเคหะแห่งชาติ

ก็มีโครงการจะขึ้นคอนโดฯ ต้อนรับถึง…19 แท่ง บวกด้วยอาคารสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ สูง 35 ชั้น รวมเป็น 20 แท่ง

บัดนี้ การเคหะแห่งชาติ ได้ส่งคำชี้แจงในหัวข้อ “ความจริง” อีกด้านของโครงการที่ “คลองจั่น” มาที่ผม จึงเป็นหน้าที่ของผมที่จะต้องนำลง เพื่อความเป็นธรรมของผู้ถูกกล่าวหา

ขอเชิญอ่านกันต่อครับ น่าจะประมาณ 2 วันจบ…ส่วนผมจะมีความเห็นเพิ่มเติมอีกหรือไม่ อ่านของการเคหะฯ เสียก่อน เดี๋ยวค่อยว่ากันอีกที

หลังจากที่ได้อ่านคอลัมน์ “เหะหะพาที” ของลุงซูม ที่เขียนถึงโครงการของ การเคหะแห่งชาติ ที่ “คลองจั่น” ไป 3 ตอนใน 3 วันติดๆ ในเรื่องที่จะจัดสร้างโครงการบริเวณ “สนามกีฬาคลองจั่น” และบริเวณ “ทะเลสาบสวนนวมินทร์ทราภิรมย์”

วันนี้จึงใคร่ขออธิบายในส่วนของ การเคหะแห่งชาติ และ บริษัท เคหะสุขประชา จำกัด (มหาชน) บ้าง

“การเคหะแห่งชาติ” ทุกท่านก็คงรู้จักเป็นอย่างดี ด้วยอายุอานามที่อยู่มายาวนานถึง 49 ปี เรียกว่าถ้าพูดถึงบ้าน ก็ต้องนึกถึงการเคหะฯ ซึ่งเป็นเรื่องที่จดจำกันในภาพลักษณ์ของการทำที่อยู่อาศัยให้กับผู้มีรายได้น้อย เรียกได้ว่าใครมีรายได้น้อย ใครขาดโอกาสมากกว่า ย่อมมีสิทธิ์ก่อน

ส่วน “บริษัท เคหะสุขประชา จำกัด (มหาชน)” ก็ถือว่ายังเป็นน้องใหม่ในวงการ เป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นตามมติคณะรัฐมนตรี เพื่อดำเนินนโยบายด้านที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย เช่นเดียวกันและทั้งสองหน่วยงานที่ว่ามาก็เป็นเจ้าของโครงการที่ลุงซูมได้พูดถึงในวันก่อนนั่นเอง

การชี้แจงนี้อาจจะพอทำให้ลุงซูมได้อ่านแล้วมีความสบายใจขึ้น โดยพวกเราขอยืนยันว่าโครงการจะไม่มีการเวนคืนพื้นที่ และสัดส่วนพื้นที่สาธารณะก็ยังคงอยู่เท่าเดิม

โดยเฉพาะโครงการที่ “สนามกีฬาคลองจั่น” มุ่งเน้นไปที่กลุ่มน้องๆ นักศึกษาที่จบใหม่ ที่รายได้ก็ยังไม่มากมายอะไรนัก ลำพังค่าเดินทาง ค่าครองชีพแต่ละวันก็หนักหนาสาหัส เงินเดือนได้มาก็ต้องหมดไปกับการเช่าที่พัก และการเดินทางไปไกลๆ ถึงชานเมืองบ้าง

แล้วน้องๆ ที่เป็นกำลังของชาติ เป็นความหวังของชาติเหล่านี้ จะมีโอกาสมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองไหม

กว่าที่จะลืมตาอ้าปากได้ หลายคนอาจต้องใช้เวลาแทบจะทั้งชีวิต จนมีทัศนคติขยาดหวาดกลัวการเป็นเจ้าของบ้านสักหลังแล้ว เพราะจะกลายเป็นภาระ เลย “เช่า” เอาดีกว่า เด็กยุคนี้ต้องการแบบนี้กันหมดแล้ว ซึ่งเขาเหล่านี้ก็ลูกหลานของพวกเรานั่นแหละ

วันนี้ “การเคหะแห่งชาติ” และทาง “เคหะสุขประชา” ที่เป็นเจ้าของโครงการขอยืนยันว่า ไม่ได้ทำโครงการเพื่อ “ขาย” แต่จะทำเพื่อ “เช่า” ในราคาที่คนรายได้น้อยต้องบอกว่า “เอื้อมถึง” เพื่อให้พวกเขามีโอกาส และมี “บ้าน” เป็นของตัวเองในอนาคตเมื่อพร้อม

มิหนำซํ้ายังอยู่บนทำเลที่สะดวกสบาย มีรถไฟฟ้าผ่านไม่ต้องเดินทางไกล ไม่เสียสุขภาพจิต

ส่วนเรื่อง “ค่าเช่า” ที่หลายฝ่ายกังวลใจว่าลงทุนไปมหาศาลขนาดนี้ จะมาตั้งในราคาถูกได้ยังไง สุดท้ายก็ต้องปล่อยขายให้คนที่มีโอกาสมากกว่า แล้วอย่างนี้จะมาช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยตามที่บอกได้อย่างไร

ก็เป็น “ความรู้สึก” อีกมุมที่เข้าใจได้ว่าไม่แปลกที่จะคิดไปในมุมนั้น ซึ่งก็ขอบอกให้เชื่อมั่นตรงนี้ว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา 49 ปี ได้ลงทุนไปสารพัดโครงการ ยังไม่มีโครงการไหนที่ตั้งราคาไว้สูงลิบลิ่วเลย ถ้ายังจำกันได้

“ครั้งนี้” ก็เช่นเดียวกัน และด้วยยุคสมัยที่มันเปลี่ยนไป รูปแบบการก่อสร้างที่อยู่อาศัยก็ย่อมจะแปรผันไปตามกาลเวลา

“คอนโดฯ” ในสายตาหลายคนอาจจะดูว่า ตึกสูงคือ “ผู้ร้าย” การก่อสร้างคือสิ่งที่จะนำพาความไม่สงบสุขหลายๆ ประการ

แต่ในโครงการที่เงินลงทุนระดับมหาศาลขนาดนี้ก็ใช้ไปกับการสร้างมาตรฐาน เพื่อให้มีความปลอดภัย มีการตรวจสอบทุกขั้นตอนเป็นระยะๆ และก็ต้องผ่าน EIA (อ่านต่อพรุงนี้)

“ซูม”