ขณะที่นั่งเขียนต้นฉบับอยู่นี้ ท่าน ผบ.ศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหายในถ้ำหลวงฯ ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ออกมาแถลงกับผู้สื่อข่าวว่าได้ส่งชุดปฏิบัติการชุดที่ 3 เข้าสู่ถ้ำเรียบร้อยแล้ว
เพื่อนำตัวหมูป่า 4 คนสุดท้ายพร้อมด้วยโค้ชเอกกลับออกจากถ้ำภายในวันดังกล่าว (อังคารที่ 10 กรกฎาคม)
ทีมดำน้ำรวม 19 ราย และผู้ที่เกี่ยวข้องต่างๆประมาณ 100 ราย จะบูรณาการการทำงานด้วยความระมัดระวังและรอบคอบ เช่นเดียวกับเมื่อ 2 วันที่ผ่านมาซึ่งสามารถช่วยเด็กๆออกมาได้แล้ว 8 คน
ผมขอส่งใจไปช่วยและขอให้การปฏิบัติงานจงสำเร็จลุล่วงไปด้วยดีอีกครั้งนะครับ
ระหว่างที่รอเอาใจช่วยน้องๆกลุ่มสุดท้ายอยู่นี้ เรามาว่ากันถึงเหตุการณ์เศร้าๆที่เกิดขึ้นในท้องทะเลภูเก็ตกันบ้างดีกว่า
กรณีเกิดอุบัติเหตุเรือท่องเที่ยวโดนพายุกระหน่ำจมลงใต้ท้องทะเลจนมีผู้เสียชีวิตไปถึง 42 ศพ และยังสูญหายไปอีก 4 ราย ไม่ทราบเป็นตายร้ายดีอย่างไรในขณะนี้
หนังสือพิมพ์ทุกฉบับรายงานข่าวอย่างสอดคล้องกันว่าเรือท่องเที่ยวที่ประสบอุบัติเหตุที่ภูเก็ตครั้งนี้เป็นเรื่องของบริษัทนอมินีของนายทุนจีน และน่าจะเป็นเครือข่ายของทัวร์ศูนย์เหรียญที่ทางการไทยได้ดำเนินการปราบปรามมาตลอด 3-4 ปีที่ผ่านมา
สาเหตุที่ล่มก็เพราะไม่ฟังคำเตือนของกรมอุตุฯที่แจ้งเตือนไว้แล้ว
ผมยอมรับว่าผมอ่านข่าวนี้ด้วยความรู้สึกที่ขุ่นข้องหมองใจ แม้ในส่วนหนึ่งจะรู้สึกเศร้าสลดและเสียใจอย่างยิ่งต่อการสูญเสียชีวิตของนักท่องเที่ยวชาวจีนจำนวนมากในเหตุการณ์ครั้งนี้
ที่รัฐบาลโดยท่านรัฐมนตรีท่องเที่ยวฯออกมาแถลงว่า จะดูแลจะเยียวยาและดำเนินการต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ญาติมิตรของผู้เสียชีวิตนั้น ผมเห็นด้วย
จริงๆแล้วก็ได้เขียนเสนอแนะให้รัฐบาลดำเนินการเช่นนี้มาก่อนแล้วในข้อเขียนเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
เพื่อแสดงให้เห็นถึงความมีนํ้าใจของรัฐบาลไทยและของคนไทย เมื่อมีผู้มาประสบเหตุร้ายในบ้านเราขณะมาเที่ยว เราก็ควรจะต้องช่วยเหลือดูแลเขาเท่าที่จะสามารถทำได้
แต่ที่เกิดความขุ่นข้องหมองใจ ขึ้นมาด้วยก็เพราะรายงานข่าวที่ระบุว่าตัวก่อเหตุที่สำคัญก็คือ กลุ่มทัวร์ศูนย์เหรียญ นั่นเอง
ทัวร์ศูนย์เหรียญที่เข้ามาตักตวงผลประโยชน์จากการท่องเที่ยวไปจากเรามาตลอดเวลานับเป็นสิบปี จนเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ว่าประเทศไทยต้องสูญเสียทรัพยากรธรรมชาติอันสวยงาม และแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ที่เสื่อมลงไป โดยไม่ได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า
เพราะจากจำนวนตัวเลขนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะจากจีนที่ว่าสูงลิบลิ่วนั้น กลับเป็นตัวเลขจากทัวร์ศูนย์เหรียญเสียเป็นส่วนมาก
โรงแรมก็เป็นของเขา ร้านอาหารก็เป็นของเขา ร้านค้าผลิตภัณฑ์ของที่ระลึกต่างๆ ก็เป็นของเขาหมด เสร็จแล้วก็ส่งรายได้กลับไปหมด ประเทศไทยแทบไม่ได้อะไรเลย
คราวนี้ก็อีก เมื่อมีคำเตือนเรื่องพายุ ซึ่งทัวร์ไทยแท้ๆที่มิใช่นอมินีเขาก็เชื่อกันหมด ไม่มีใครกล้าออกเรือ
ในขณะที่บริษัทนอมินีและเครื่องศูนย์เหรียญ จะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่เถอะ ขัดขืนคำเตือน และในที่สุดก็เกิดอุบัติเหตุ ดังที่เป็นข่าวใหญ่
ซึ่งเมื่อเกิดขึ้นแล้วใครจะไปรู้ล่ะว่าเป็นฝีมือของทัวร์ศูนย์เหรียญ และบริษัทนอมินีทั้งหลายเขาก็นึกว่าเป็นฝีมือทัวร์ไทย ทำให้กลัวประเทศไทย ไม่อยากจะมาประเทศไทย
นี่คือความขุ่นข้องหมองใจของผมครับ
ผมเห็นด้วยที่ท่านนายกฯไปเยือนผู้ประสบอุบัติเหตุ และสั่งการให้ดำเนินการช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว เมื่อวันจันทร์ที่แล้ว
แต่ก็อยากจะฝากท่านไว้เช่นกันว่า มีโอกาสก็แจ้งให้รัฐบาลจีนทราบถึงเรื่องทัวร์ศูนย์เหรียญและพฤติกรรมต่างๆ ให้รัฐบาลจีนทราบไว้ด้วย
บอกให้เขารู้ว่าเขาต้องช่วยเราปราบด้วย เพราะผู้เสียหายส่วนหนึ่งที่โดนทัวร์พวกนี้รีดประโยชน์เป็นคนของเขานั่นเอง
ผมไม่แน่ใจว่ารัฐบาลไทยยังเอาจริงอยู่หรือเปล่า แต่ทราบจากข่าวว่าท่านรอง ผบช.ทท. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ “รองโจ๊ก” มือปราบทัวร์ศูนย์ ท่านยังเอาจริงอยู่…
ผมขอเชียร์ให้เดินหน้าต่อไปนะครับ รองโจ๊กครับ.
“ซูม”