เขียนถึงเวทีเสวนา “ไทยรัฐฟอรัม” ว่าด้วยซอฟต์พาวเวอร์ อาวุธใหม่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศไปเมื่อวาน เพื่อให้กำลังใจแก่คณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติของรัฐบาลในการผลักดันการผลิต “อาวุธ” ของเราชิ้นนี้ให้แผ่กระจายไปทั่วโลก หาเงินตราเข้าประเทศด้วยซอฟต์พาวเวอร์ต่างๆ ที่เรามีอยู่
ซึ่งรวมถึง “อาหารไทย” อาวุธหนักที่สำคัญของเราที่ประสบความสำเร็จมาแล้วอย่างยิ่งยวด และยังสามารถขยายผลต่อไปได้อีกมาก
ในเวทีเสวนา…ไทยรัฐได้เชิญคุณ อัจฉรา บุรารักษ์ มาบอกเล่าถึงความสำเร็จของบริษัท ไอเบอร์รี่ โฮมเมด จำกัด เจ้าของร้านอาหารไทยที่โด่งดังและเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว รวมถึงคนไทยที่มีรายได้สูงหลายๆ ร้าน
อาทิ ก๋วยเตี๋ยวเรือทองสมิทธ์, กับข้าวกับปลา, รสนิยม, ฟ้าปลาทาน และร้านหมูกระทะชิ้น “โบแดง” เป็นต้น
ผมเคยไปลองก๋วยเตี๋ยวเรือชามละ 300 กว่าบาทมาแล้วที่ เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ เพื่อเอาข้อมูลมาเขียนคอลัมน์ซอกแซก ยอมรับว่าอร่อยจริง…เพราะเขาใช้วัตถุดิบอย่างดีทั้งสิ้น…เช่น เนื้อ วากิว ออสเตรเลีย อย่างนี้ ก็ย่อมจะอร่อยกว่าก๋วยเตี๋ยวเนื้อธรรมดาๆ ที่ซื้อเนื้อจากเขียงในตลาดสดแน่นอน
ก็ดีใจครับที่ขายดีมาก ฝรั่ง จีน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนแน่นไปหมดที่ เอ็มสเฟียร์ และ สยามพารากอน
คุณอัจฉราฝากข้อคิดไว้อย่างไม่สงวนลิขสิทธิ์ ใครจะนำไปใช้ก็ได้ตอนหนึ่งว่า “หากจะให้แนะนำการผลักดันอาหารไทยสู่การเป็นซอฟต์พาวเวอร์ที่ทรงพลังยิ่งขึ้น น่าจะมาจากการเล่าเรื่องการทำแบรนด์ให้ร่วมสมัย และทำให้รู้สึกว่ากินอาหารไทยแล้วเท่ หาคนดังที่กินอาหารไทยมากินโชว์ให้คนทั่วโลกเห็น…ตัวอย่าง ลิซ่า แบล็กพิ้งค์ ที่กินลูกชิ้นจนคนทั่วประเทศรู้จักลูกชิ้นยืนกินจากบุรีรัมย์”
ขอบคุณนะครับสำหรับคำแนะที่ผมเห็นด้วยทุกประการ
เขียนมาถึงตอนนี้ก็พอดีนึกได้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ไทยรัฐออนไลน์นี่แหละนำเสนอข่าว “ขนมครกไทยดังไกลถึงอเมริกาคนแห่ซื้อจนขาดตลาด” พร้อมลงรูปกล่องบรรจุขนมครกที่มีรูปขนมครกไทยอยู่บนกล่องสวยงามมาก ประทับตราชื่อร้าน Trader Joe’s ที่อเมริกาซึ่งมีกว่า 500 สาขามาด้วย
มีการพิมพ์คำว่า Kanom Krok ทับศัพท์เป็นภาษาอังกฤษตัวโดดเด่น และขยายความด้วยอักษรตัวใหญ่โดดเด่นเช่นกันว่า Thai Coconut Pancakes เห็นแล้วชื่นใจมาก
ไทยรัฐออนไลน์รายงานว่าข่าวนี้มาจากเพจและเฟซบุ๊กของคนไทยในสหรัฐฯ ที่เรียกร้องตามหา “ขนมครก” ดังกล่าวเพราะขาดตลาดจนหาซื้อไม่ได้ และมีการแสดงความเห็นชื่นชมว่าอร่อยจริง
ต่อมาคุณ ไพโรจน์ ปักษาษิณ ผู้สื่อข่าวพิเศษไทยรัฐประจำนิวยอร์ก ได้นำข่าวนี้ไปโพสต์ต่อ ก็มีคอมเมนต์และโพสต์แสดงความคิดเห็นจากกลุ่มคนไทยในนิวยอร์กยาวเหยียดเช่นกัน
บ้างก็คุยว่าร้านใกล้บ้าน ยังไม่หมด ไปซื้อมาได้ 3 กล่อง, บ้างก็ว่าไปหลายร้าน ไปได้ที่ถนนโน้น ถนนนี้ในที่สุด ฯลฯ
ทำนองเดียวกับที่เนื้อข่าวไทยรัฐออนไลน์สรุปจากรัฐต่างๆ นั่นเอง
อ่านข่าวนี้แล้วก็ทำให้นึกถึงสูตรสำเร็จของเกาหลีที่เขาใช้วิธีให้คนของเขาที่อพยพไปต่างแดน ประเทศละหลายหมื่นหลายแสนคนตั้งเป็นชุนชนใหญ่ หันมาอุดหนุนสินค้าเกาหลีกันก่อน พอขายดี ประเดี๋ยวคนในชาตินั้นๆ ก็จะแห่มาอุดหนุนตาม
อย่างเพลงป๊อปเกาหลีก็ดูกันเองฟังเองก่อน อาหารเกาหลีก็กินกันเองก่อน แม้แต่ซีรีส์ก็ดูกันเอง เป็นหน้าม้าให้คนพื้นเมืองหันมากินมาดูตามในที่สุด
ผมอ่านข่าวแล้ว ช่วงนี้ “ขนมครก” ของเราอยู่ระหว่างคนไทยเราฟีเวอร์กันเอง ซื้อเองกินเองเสียมากกว่า ฝรั่งยังแค่เข้ามาลองซื้อไม่มากนัก
แต่ก็ถูกแล้ว ทำไปเรื่อยๆ ประเดี๋ยวก็ฮิตเองเหมือน “ผัดไทย” “ต้มยำกุ้ง” ฯลฯ แรกๆ ก็ขายคนไทยในอเมริกาก่อน พอเราซื้อเรากินเยอะๆ ฝรั่งถึงได้มาลอง…ลองแล้วติดใจจนผัดไทย ต้มยำกุ้งกลายเป็นอาหารยอดนิยมทั่วสหรัฐฯ และทั่วโลกในที่สุด
ช่วยกันซื้อช่วยกันกิน “ขนมครกไทย” ต่อไปเรื่อยๆ นะครับ พี่น้องชาวไทยในต่างแดนทั้งหลาย อีกหน่อยก็คงจะฮิตไม่แพ้ผัดไทย… ในอนาคตอาจมีโอกาสไปตั้งโรงงาน “ขนมครก” ทั่วโลกกันบ้างล่ะน่า.
“ซูม”