เมื่อฉบับวันจันทร์ที่ผ่านมา ผมเขียนถึง “ข่าวดีๆ” ของประเทศไทยเอาไว้หลายข่าว…วันนี้ (พุธที่ 22 พ.ย.) คงต้องเขียนต่อละครับ เพราะมีอีก 2 ข่าวดี “รับลมหนาว 2566” ที่ควรแก่การบันทึกไว้
ข่าวแรก “ต้มข่าไก่” สุดยอดซุปไทยๆที่เคยได้รับการยกย่องให้เป็น “ซุปไก่ที่ดีที่สุดของโลก” นั่นแหละครับ
คว้ามาอีกหนึ่งรางวัลแล้วครับคราวนี้ไปอยู่ในหมวด “เมนูซุปเนื้อสัตว์ที่ดีที่สุดในโลก” จากการจัดอันดับของ Tasteatlas เว็บไซต์ดังด้านอาหารที่ทำหน้าที่รวบรวมจัดอันดับ และแนะนำเกี่ยวกับร้านอาหารเมนูอาหาร สูตรอาหารทั่วโลก ฯลฯ ซึ่งเพิ่งเปิดเผยการจัดอันดับ “Best Meat Soups in the World” เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
5 อันดับแรกของโลกที่เขาจัดไว้ ได้แก่…หนึ่ง Tom Khagai ของไทยแลนด์นั่นเองได้ 4.7 คะแนน ส่วนอันดับ 2 ได้แก่ Rawan ซุปเนื้อตุ๋นนํ้าดำของอินโดนีเซียได้ 4.7 เท่ากัน แต่เขาให้เราเป็นที่ 1
อันดับ 3 คือ “เฝอเนื้อ” หรือ Beef Pho ของ เวียดนาม ได้ 4.6 คะแนน อันดับ 4 ได้แก่ Ciorba Radauteana ซุป โรมาเนีย ได้ 4.6 คะแนนเช่นกัน และอันดับ 5 เป็นของ เวียดนาม อีกเมนู ใช้ชื่อว่า Northern Vietnamese Beef Pho นี่ก็ได้ 4.6 คะแนน
อยากทราบว่าอันดับ 6-50 ได้แก่ ซุปของชาติไหนบ้าง กรุณาเข้าไปดูที่ www.tasteatlas.com/meat-soups ได้เลยครับ
ก็มาถึงอีก 1 ข่าวดีว่าด้วยผลการประกวด มิสยูนิเวิร์ส ปี 2023 ณ ประเทศเอลซัลวาดอร์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ที่ลงเอยด้วยการคว้าตำแหน่งรองอันดับ 1 ของ น.ส.แอนโทเนีย โพซิ้ว หรือ “น้องแอน” สาวลูกครึ่งไทย-เดนมาร์ก ซึ่งเข้าไปยืนประชันกับนางงามนิการากัว ตอนเหลือ 2 คนสุดท้าย
เล่นเอาหัวใจกองเชียร์ไทยที่ตามดูการถ่ายทอดหลายล้านคนทั่วประเทศเต้นตึ๊กๆ ไปตามๆ กัน เพราะเหมือนกับเล่น “หัวก้อย” ซึ่งจะ ออกเราหรือเขาก็ได้
ผลปรากฏว่ากรรมการให้คะแนนไปออกทางฝ่ายเขาน้องเราก็เลยได้แค่ “รองอันดับ 1” พลาดตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สไปอย่างน่าเสียดาย
สำหรับคนไทยที่เคยอยู่ในยุคที่เราเป็น “เบอร์ 1” ด้านความงามของโลก มาถึง 2 ครั้ง คงต้องบอกว่าดีใจกึ่งเสียดายจริงๆ ครับ เพราะอย่างไรเสีย “หวยรางวัลที่ 2” กับ “หวยรางวัลที่ 1” ก็ต่างกันลิบลับ
นี่ถ้า “น้องแอน” ได้ที่ 1 หรือได้เป็นมิสยูนิเวิร์สละก็ ผมเชื่อเลยว่าคนไทยเราจะมีความสุขท่วมท้นขึ้นอีกหลายๆเท่าตัว
เมื่อ ค.ศ.1965 หรือ พ.ศ.2508 อาภัสรา หงสกุล สาวไทยคนแรก ไปคว้ามงกุฎจักรวาลมาครองได้สำเร็จ ผมเพิ่งอายุ 24 ขวบ ยังหนุ่มมาก
ยังจำได้วันที่เธอกลับประเทศไทยที่ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ส่งรถ เชฟโรเลต อิมพาลา เปิดประทุนของคุณหญิง ประณีตศิลป์ วัชรพล ไปรับ แล้วแห่แหนจากดอนเมืองเข้าเมืองนั้น ประชาชนชาวไทย (รวมทั้ง ผมด้วย) ไปยืนต้อนรับนับเป็นแสนๆ ตลอด 2 ฟากทาง
จากนั้นคนไทยต้องรอจนถึง ค.ศ.1988 หรือ พ.ศ.2531 ราวๆ 23 ปี สาวไทยคนที่ 2 ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก จึงได้คว้ามงมาครองได้
ปรากฏว่ายิ่งใหญ่กว่ายุคอาภัสราอีกครับ เพราะประเทศไทยกำลังบูมสุดขีดยุค “น้าชาติ” เป็นนายกฯ และได้ผลบุญจาก “ป๋าเปรม” ที่พัฒนา เศรษฐกิจเอาไว้จนฟูเฟื่องประเทศไทยกลายเป็น “เสือตัวที่ 5” เอเชีย
ได้ภรณ์ทิพย์มาเติมเต็มความสุขของคนไทยและวันที่เธอเดินทางมาประเทศไทย (เพราะเธอโตที่แอลเอ) ผมว่าผู้คนไปรับเธอมืดฟ้ามัวดินยิ่งกว่าวันอาภัสราหลายเท่า
ผมถึงได้บ่นว่าเสียดายที่ “หัวก้อย” ไปออกที่นางงามนิการากัว… ถ้ามาออกที่น้องแอน คนไทยจะมีความสุขยิ่งกว่านี้
แต่ก็นั่นแหละครับ พระท่านสอนเราว่าจงพอใจในสิ่งที่เราได้มา และในสิ่งที่เรามีอยู่ถึงแม้หวยรางวัลที่ 2 จะต่างกับรางวัลที่ 1 เยอะ แต่ก็ยังดีกว่าไม่ถูกหวยรางวัลใดๆ เลยจริงไหมครับ?
ขอแสดงความยินดีแก่น้องแอนและขอต้อนรับกลับสู่ประเทศไทยในฐานะรองมิสยูนิเวิร์ส 2023 อันดับที่ 1 ด้วยความภูมิใจ พร้อมทั้ง “ขอบคุณ” ในทุกสิ่งทุกอย่างที่น้องได้ทำอย่างทุ่มเทแล้วเพื่อประเทศไทยอันเป็นที่รักของเรา.
“ซูม”