4 เหตุผล “ดร.วิษณุ” “ปิดสวิตช์” การเมือง

ในบรรดาคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดเก่าของ “ลุงตู่” ที่จะต้องอำลาวงการเมือง เมื่อมีรัฐบาลใหม่เรียบร้อยแล้วนั้น…มีอยู่ท่านหนึ่งครับ ที่ผมตั้งใจจะเขียนถึงด้วยความขอบคุณเป็นพิเศษก่อนใครทั้งหมด

ท่านรองนายกรัฐมนตรี ดร.วิษณุ เครืองาม นั่นเอง

แม้ในโซเชียลมีเดีย จะค่อนแคะและตั้งฉายาต่างๆ ไว้มากมายรวมไปถึงฉายา “เนติบริกร” บ้าง “ศรีธนญชัย 4.0” บ้าง แต่ในฐานะที่ผมรู้จักท่านและเคยสัมผัสกับการทำงานของท่านด้วยตนเองในอดีต กลับรู้สึกเห็นใจท่านและจะหาโอกาสเขียนให้กำลังใจท่านอยู่เสมอๆ

ผมมองว่าในแต่ละรัฐบาล จำเป็นต้องมีนักกฎหมายเก่งๆ เพื่อหลบเลี่ยงความผิดพลาดในเรื่องกฎระเบียบและการปฏิบัติที่สุ่มเสี่ยงบางประการเอาไว้บ้าง เพื่อไม่ให้ตกอยู่ในภาวะปลาตายน้ำตื้น ซึ่งมักเกิดขึ้นบ่อยๆ ในการบริหารบ้านเมือง

เท่าที่ผมติดตามการทำงานของท่านมาตลอด เคยเขียนถึงท่านว่าเป็น “ข้าราชการอาชีพ” ขนานแท้ทำงานในตำแหน่งเลขาธิการคณะรัฐมนตรีให้แก่ทุกนายกรัฐมนตรีที่มาเป็นนายอย่างเสมอหน้ากันนับตั้งแต่ นายกฯ ชวน หลีกภัย, นายกฯ บรรหาร ศิลปอาชา, นายกฯ พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ จนถึง นายกฯ ทักษิณ ชินวัตร

ต่อมา คุณทักษิณ เห็นฝีมือเชิญมาเป็นรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมายอยู่ถึง 3 ปีเศษๆ ก่อนมีการปฏิวัติรัฐประหารเมื่อปี 2549 ทำให้ ดร.วิษณุ หายต๋อมไปพักหนึ่ง และเมื่อบิ๊กตู่ยึดอำนาจปี 2557 ก็ได้กลับมาเป็นรองนายกฯ อีกครั้งและคราวนี้อยู่ยาวมาถึง 8 ปีกับ 357 วัน ในขณะที่ผมเขียนต้นฉบับวันนี้

ตลอดเวลาที่ดำรงตำแหน่งรองนายกฯ ให้กับบิ๊กตู่ ท่านก็ยังคงแสดงฝีมือทางด้านกฎหมาย และเป็นกำลังหลักในด้านนี้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง แม้จะโดนวิพากษ์วิจารณ์และตั้งฉายาให้หลายๆ ฉายาดังได้กล่าวไว้แล้ว

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานี่เอง ผู้สื่อข่าวถามว่าภารกิจหลังจากหมดวาระรองนายกฯ รอบนี้แล้วจะไปทำอะไรต่อ…ท่านรองวิษณุตอบทันทีเป็นข้อๆ รวมทั้งหมด 4 ข้อ ดังนี้

1.อยู่บ้านพักผ่อน 2.เล่นกับหลานด้วยความสุขมาก ผมเคยเว้นมาแล้วครั้งหนึ่งแต่ตอนนั้นยังไม่มีความสุขเพราะยังไม่มีหลาน 3.เขียนหนังสือและสอนหนังสือ 4.อาจเป็นประธานหรือกรรมการในบริษัทต่างๆ ที่พอจะมีรายได้บ้าง

ส่วนงานทางการเมืองนั้นท่านตอบว่า “จบแล้ว เพราะผมมีปัญหาสุขภาพ แทรกเข้ามาระยะหลังๆ ใครมาชวนไปทำงาน (การเมือง) อะไรที่ไหน ก็จะเปิดพุงให้ดูทันที”

คงจะทราบกันแล้ว ว่าท่านรองวิษณุป่วยเป็นโรคไต ท่านเคยล้มป่วยด้วยโรคนี้ ขณะเดินทางไปออสเตรเลียจนต้องมีการผ่าตัดฉุกเฉินและต้องมีการฟอกไตเป็นระยะๆ มาจนถึงบัดนี้

“พุง” ที่ท่านจะเปิดให้ใครก็ตามที่จะเชิญไปร่วมงานทางการเมืองในอนาคตน่าจะมีท่อล้างไตเล็กๆ เสียบอยู่อย่างที่เราเห็นภาพตัวอย่างว่าด้วยการล้างไตในเอกสารทางการแพทย์ต่างๆ นั่นเอง

สำหรับประเด็นสำคัญที่ผมต้องขอถือโอกาสขอบคุณท่านไว้ด้วยในวันนี้ก็เห็นจะเป็นประเด็นที่ท่านปลีกเวลาให้แก่ มูลนิธิไทยรัฐ อย่างเสมอต้นเสมอปลาย

ท่านพูดเสมอว่าท่านชื่นชมอดีตผู้อำนวยการไทยรัฐ คุณกำพล วัชรพล อย่างมาก…ได้ติดตามผลงานการอุทิศตนเพื่อส่งเสริมการศึกษาของ ผอ.กำพล มาตั้งแต่ต้น ดังนั้นหากมูลนิธิไทยรัฐจะมีประชุมมีสัมมนาที่จะให้ความรู้แก่คณะครูหรือผู้บริหารโรงเรียนเมื่อไร ท่านก็พร้อมจะเดินทางไปร่วมด้วย หากไม่ติดขัดภารกิจที่จำเป็นจริงๆ

ปีก่อนโน้นในการประชุมผู้บริหารโรงเรียน ไทยรัฐวิทยา ทั่วประเทศ ที่จังหวัดอุดรธานีท่านก็ไปบรรยายถึงประโยชน์และเหตุผลที่ควรฟื้นฟูวิชาประวัติศาสตร์ให้แก่คุณครูของเราด้วยตัวท่านเอง

ขอแสดงความยินดีอีกครั้งที่ท่านรองฯจะได้พักผ่อนอย่างเต็มที่และปฏิบัติตามคำตอบ 4 ข้อที่ท่านตอบนักข่าวข้างต้น

ผมยืนยันได้ 100 เปอร์เซ็นต์ อยู่หนึ่งข้อ คือข้อที่จะได้ เลี้ยงหลาน อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยนั่นแหละครับ…เป็นความสุขอย่างแท้จริง สำหรับคนที่มี “หลาน” อย่างรุ่นเรา

อย่าลืมสวมเสื้อหลวมๆ ที่สามารถถอดง่ายๆ ถลกง่ายๆ อยู่ตลอดเวลานะครับ เพื่อที่จะ “เปิดพุง” ได้อย่างรวดเร็ว ในกรณีที่จะมีใครมาชวนกลับสู่การเมืองอีกในอนาคตไงครับท่านรอง!!

“ซูม”

4 เหตุผล “ดร.วิษณุ” “ปิดสวิตช์” การเมือง, รัฐบาลใหม่, ดร.วิษณุ เครืองาม, อำลา, กฎหมาย, นักการเมือง, ข้าราชการ, ข่าว, ซูมซอกแซก