ขอบคุณซีรีส์เกาหลี (ต่อ) เชียร์ “ยาหม่อง”+“ไหมไทย”

ในระหว่างที่กำลังรอว่าพรรคเพื่อไทยจะจัดตั้งรัฐบาลได้หรือไม่? และจะหาทาง “หย่า” จากพรรคก้าวไกลได้หรือไม่? และอย่างไร? นั้น เรามาคุยกันในเรื่องดีๆที่ถือว่าเป็น “ข่าวดี” ของประเทศไทย และคนไทยขัดตาทัพกันไปก่อนก็แล้วกัน

เพื่อ “ความสุข” เล็กๆ น้อยๆ ทางใจใน “ยามทุกข์” ว่าอย่างนั้นเถอะ

เมื่อสัปดาห์ที่แล้วผมเขียนถึงซีรีส์ฮิตของเกาหลี เรื่อง King the land EP.10 ที่ออกฉายทาง เน็ตฟลิกซ์ ไปพร้อมๆ กับการออกอากาศสดๆ ที่เกาหลีใต้ มาถึงตอนที่พระเอกนางเอกมาเที่ยวประเทศไทย

ทั้งมากินอาหารไทย และเที่ยวโน่นเที่ยวนี่นับ 10 แห่ง โปรโมตประเทศไทยอย่างเต็มที่ น่าจะทำให้ติ่งเกาหลี หรือแฟนคลับซีรีส์เกาหลีที่มีมากมายทั่วโลกแห่มาเที่ยวบ้านเรา ตามรอยพระเอกนางเอกแน่นอน

วันนี้ต้องเขียนถึงอีกครั้งละครับ เพราะถึงตอนที่พระเอกนางเอกเดินทางจากประเทศไทยกลับถึงบ้านที่เกาหลีใต้เรียบร้อย พร้อมกับหอบหิ้วของฝากจากไทยแลนด์ไปฝากญาติ คือยายของนางเอกหอบใหญ่ ใน EP.11

ลูกหลานติ่งเกาหลีตัวจริงเสียงจริงของผมที่ติดตามดูซีรีส์เรื่องนี้อย่างงอมแงมโทรศัพท์มาเล่าให้ผมฟังว่า เธอลุ้นแทบแย่เพราะอยากรู้ว่า “ของฝาก” ที่พระเอกหิ้วกลับไปจะมีอะไรบ้าง?

เมื่อเปิดออกมาเธอกับเพื่อนๆ ที่นั่งดูด้วยกันก็เฮลั่น เพราะอย่างแรก คือ “ยาหม่องตราเสือ” และอย่างที่ 2 ก็คือ “ผ้าไหมไทย”

แต่พอผมแย้งว่า “ยาหม่องตราเสือ” ไม่น่าจะใช่สินค้าต้นตำรับของไทยนะหลาน…ก็ได้ยินเสียงอุทานอย่างผิดหวังเล็กน้อยจากหลานผม

“ถ้าจำไม่ผิดลุงว่าเป็นผลิตภัณฑ์สิงคโปร์นะ ยาหม่องยี่ห้อนี้” ผมบอกหลานไปอย่างนั้น

ปรากฏว่าวันรุ่งขึ้น เว็บไซต์ กรุงเทพธุรกิจ ก็ลงรายละเอียดเรื่องนี้พร้อมพาดหัวว่า “ยาหม่องตราเสือ ไม่ใช่ของประเทศไทย ก่อตั้งโดยคนจีน เริ่มต้นที่พม่า แต่ไปใหญ่ และดังที่สิงคโปร์” แสดงว่าความทรงจำของผมยังใช้ได้

เนื่องจากประวัติของยาหม่องตราเสือค่อนข้างยาวมาก คงไม่สามารถสรุปมาลงในคอลัมน์ผมได้ ท่านที่สนใจโปรดคลิกไปอ่านที่ กรุงเทพธุรกิจ ก็แล้วกัน

ยาหม่องไทยแท้ๆ ที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองมานาน ที่ผมรู้จักตั้งแต่เป็นเด็กเพราะยายผมชอบใช้ ได้แก่ ยาหม่อง “บริบูรณ์บาล์ม” กับยาหม่อง “ตราถ้วยทอง” ครับ

พอโตมาอีกหน่อยอายุใกล้ 30 ขวบและมาได้งานเสริมแปลข่าวต่างประเทศประจำที่หนังสือพิมพ์ พิมพ์ไทย ผมหันมาใช้ยาหม่องขาว “ตราลิงถือลูกท้อ” เป็นเครื่องช่วยเวลาง่วงนอนจะหยิบมาป้ายขมับให้ร้อนแล้วก็ตาสว่างได้ชะงัดนัก

เพื่อนนักข่าวร่วมพิมพ์ไทยกับผมยุคนั้น ที่ใช้ยาหม่องขาวตราลิงถือลูกท้อทาขมับอีกคนก็คือ “ป๋า” เปลวสีเงิน คอลัมนิสต์ชื่อดังของไทยโพสต์ ในปัจจุบันนั่นเอง ไม่ทราบเดี๋ยวนี้ยังถูทาถูทาอยู่หรือเปล่า?

ผมถึงเสียดายที่พระเอกนางเอกซีรีส์เกาหลีชุดนี้มิได้ซื้อยาหม่อง ตราลิงถือลูกท้อ หรือ ยาหม่องถ้วยทอง หรือ ยาหม่องบริบูรณ์บาล์ม ไปฝากญาติโยมทางโน้น จะได้ไม่ต้องถกเถียงกันเพราะ 3 ยี่ห้อนี้เป็นแบรนด์ไทยแท้แน่นอน

แต่มาคิดอีกทีเมื่อมาซื้อตราเสือในเมืองไทย และดูเหมือนว่าในบ้านเราจะมีโรงงานผลิตอยู่ด้วย แถมมีจำหน่ายเยอะมากตามร้านสะดวกซื้อทุกแห่ง ก็ถือซะว่าเป็นของฝากจากประเทศไทยก็แล้วกัน

แต่ที่ภูมิใจมาก เห็นจะเป็นของฝากชิ้นที่ 2 ที่พระเอกซื้อให้ยายนางเอกเช่นกัน…อันได้แก่ “ผ้าไหมไทย” นั่นแหละครับ

ไม่ได้บอกว่าแบรนด์ไหนหรือซื้อจากไหน แต่เห็นได้ชัดว่าเป็นไหมแท้ๆ หลายผืน แสดงว่าซื้อมาร้านขายผ้าไหมทั่วไปนั่นเอง

ติ่งเกาหลีรายงานว่ายายนางเอกหยิบ “ผ้าพันคอ” ไหมไทยขึ้นพันคอทันทีเลยครับ เห็นแล้วแทบกรี๊ดเพราะสวยมากๆ

สรุปยังไงๆ ก็ต้องขอบคุณซีรีส์เกาหลีอยู่ดีแหละครับที่เขาประสบความสำเร็จจาก ซอฟต์เพาเวอร์ ของเขามาก่อน แล้วก็ยังมีแก่ใจช่วยโปรโมต ซอฟต์เพาเวอร์ ของไทยเราให้ด้วย

ไทยแลนด์ยังมีอะไรดีๆ อีกเยอะ อย่าลืมมาช่วยโปรโมตอีกนะครับในเรื่องต่อๆ ไป.

“ซูม”

อ่านคอลัมน์ “เหะหะพาที” เพิ่มเติมได้ที่

ขอบคุณซีรีส์เกาหลี (ต่อ) เชียร์ “ยาหม่อง”+“ไหมไทย”, ของฝาก, ประเทศไทย, ท่องเที่ยว, ยาหม่องตราเสือ, ถ้วยทอง, บริบูรณ์บาล์ม, ข่าว, ซูมซอกแซก