ยินดี “มหาเศรษฐี” 2566 รวยแล้ว “อย่าลืม” แบ่งปัน

ทุกๆ ปีในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมานี้ จะมีข่าวใหญ่หน้า 1 อยู่ข่าวหนึ่งที่ผมจะต้องเก็บมาเขียนซํ้าให้อยู่เสมอ พร้อมกับฝากข้อสังเกต หรือข้อคิดเห็นส่งท้ายแนบไว้ด้วย

ได้แก่ข่าวการประกาศ อันดับ “มหาเศรษฐี” หรือคนรวยที่สุดของประเทศไทย โดยนิตยสาร Forbes ประจำประเทศไทย ประจำปีนั้นๆ ซึ่งส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นคนเดิมๆ เพียงแต่อันดับขึ้นลงสลับกันไปบ้าง

ปีนี้ข่าวหน้า 1 ของ ไทยรัฐ ตลอดจนสำนักข่าวออนไลน์ เพิ่งจะพาดหัวและเสนอข่าวไปเมื่อวันศุกร์ที่ 7 ก.ค.ที่ผ่านมานี่เอง

อันดับ 1 ยังคงได้แก่ ตระกูล “เจียรวนนท์” นำโดยท่านเจ้าสัว ธนินท์ เจียรวนนท์ แห่งเครือเจริญโภคภัณฑ์ ซึ่งมีทรัพย์สินเป็นมูลค่า 1.19 ล้านล้านบาท,

อันดับ 2 ได้แก่ คุณ เฉลิม อยู่วิทยา เจ้าของกระทิงแดง ที่แปลงสัญชาติเป็นเรดบูลล์ ทรัพย์สิน 1.16 ล้านล้านบาท,

อันดับ 3 เสี่ย เจริญ สิริวัฒนภักดี เจ้าพ่อไทยเบฟฯ ทรัพย์สิน 476,000 ล้านบาท,

อันดับ 4 ตระกูล จิราธิวัฒน์ เจ้าของห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ทรัพย์สิน 434,000 ล้านบาท,

อันดับ 5 คุณ สารัชต์ รัตนาวะดี ประธานใหญ่ กัลฟ์ ทรัพย์สิน 395,500 ล้านบาท

ส่วน 6 ถึง 10 ผมขอรวบรัดเสนอแต่ชื่อของท่านเพื่อสงวนเนื้อที่ ได้แก่ 6.คุณ วานิช ไชยวรรณ, 7.นพ. ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ, 8.คุณ อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา, 9.คุณ สมโภชน์ อาหุนัย และ 10.ตระกูล “โอสถานุเคราะห์” เจ้าของบริษัทโอสถสภา เต๊กเฮงหยู

ที่เหลืออีก 40 อันดับ มีคนดังๆหลายคน อาทิ อันดับ 12 ประยุทธ์ มหากิจศิริ, อันดับ 13 ทักษิณ ชินวัตร, อันดับ 15 ศุภลักษณ์ อัมพุช (เดอะมอลล์ กรุ๊ป) 16.ประจักษ์ ตั้งคารวคุณ (สีทีโอเอ) 23.คีรี กาญจนพาสน์ (บีทีเอส), 24.ฤทธิ์ ธีระโกเมน (เอ็ม.เค.สุกี้), 29.ชาติศิริ โสภณพนิช (ธนาคารกรุงเทพ) 32.บัณฑูร ล่ำซำ (อดีตประธานกสิกรไทย), 33.พรเทพ พรประภา (กลุ่มสยามกลการ) ฯลฯ และอันดับ 50 เข้าอันดับใหม่ล่าสุด อนันท์ รักอริยะพงศ์ (บริษัทเซ็ปเป้)

ครับ! ต้องขออภัยด้วยที่ผมไม่สามารถนำลงได้ครบทั้ง 50 อันดับ…ท่านผู้อ่านที่สนใจคลิกเข้าไปดูรายชื่อทั้งหมดได้ในกูเกิล พิมพ์คำว่า Thailand’s Richest 2023-Forbes จะมีรายชื่อเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องมาให้อ่านหลายๆ เว็บพร้อมรายชื่อครบทั้ง 50 ท่าน

เช่นเดียวกับทุกๆ ปีที่เขียนถึงข่าวนี้ผมขอแสดงความยินดีกับทุกๆ อภิมหาเศรษฐีอย่างจริงใจและเข้าใจ

เข้าใจดีว่าในบรรดาปัจจัยการผลิตสำคัญอันได้แก่ ที่ดิน, แรงงาน และทุนนั้น…ปัจจัยที่จะได้ผลตอบแทนสูงสุด ก็คือ ทุนตามมาด้วยที่ดิน โดยแรงงานจะได้ผลตอบแทนน้อยที่สุด

ดังนั้นใครเป็นเจ้าของทุนมากที่สุดคนนั้นก็รวยที่สุด หรือใครเป็นเจ้าของที่ดินก็จะรวยเป็นอันดับรองลงมา

ส่วนเจ้าของแรงงานคือผู้ใช้แรงงานทั่วไป รวมไปถึงมนุษย์เงินเดือนด้วย ต่อให้เก่งแค่ไหน ผลตอบแทนก็สู้ 2 รายการแรกมิได้

ยิ่งในสถานการณ์ปัจจุบัน เจ้าของปัจจัยการผลิต 2 ประการแรก มักจะเป็นบุคคลคนเดียวกัน คือเป็นทั้งเจ้าของทุน และเจ้าของที่ดิน…การดึงส่วนแบ่งทางเศรษฐกิจของประเทศไปสู่กลุ่มนี้จึงมากขึ้นเรื่อยๆ

ไม่เว้นแม้แต่ประเทศที่ได้ชื่อว่าเจริญที่สุดของโลกอย่างอเมริกา อย่างยุโรป ที่เกิดปัญหา “ช่องว่าง” ระหว่างรายได้ ขึ้นอย่างมหาศาล

สังคมที่มี “ช่องว่าง” มากๆ มักจะเกิดความไม่สงบสุข เพราะคนที่ได้แบ่งปันน้อย จะมีสักกี่คนที่เข้าใจ “ทฤษฎี” ที่กล่าวถึงข้างต้น…และมักจะเข้าใจไปว่าถูกเอารัดเอาเปรียบ ถูกขูดรีด จนนำไปสู่ความโกรธความไม่พอใจ และเกิด “ปม” ขึ้นในจิตใจเสียมากกว่า

เราจึงเห็นการประท้วงที่รุนแรง การจุดไฟเผา การใช้อาวุธตอบโต้กับตำรวจปราบจลาจลอย่างเอาเป็นเอาตาย ด้วยความโกรธที่ว่า เยาวชนคนหนึ่งถูกตำรวจสังหาร…ที่ฝรั่งเศส

รวมไปถึงเหตุการณ์คล้ายๆ กันนี้ที่เกิดขึ้นที่สหรัฐอเมริกาหลายครั้ง

บ้านเราส่วนใหญ่เป็นการต่อสู้ทางการเมือง แต่สักวันการต่อสู้ในลักษณะที่แสดงถึงความน้อยเนื้อต่ำใจของสถานภาพในสังคมจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ทางที่ดีที่สุดก็คือจะต้องป้องกันล่วงหน้า โดยคนรวยจะต้องแบ่งปัน จะต้องหันมาช่วยคนจนอย่างจริงจัง จริงใจ ในทุกๆด้าน

ในทำนองที่ว่าเมื่อลดช่องว่างทางความรวยไม่ได้ เพราะทฤษฎีมันบังคับให้เป็นอย่างนั้น ก็ต้องหันมาลดช่องว่างทาง “จิตใจ” และความ “รู้สึก” ซึ่งสามารถลดได้และทำได้เอาไว้ก่อน

การแบ่งปัน การช่วยเหลือเผื่อแผ่การไม่ทอดทิ้งกันในยามยาก จะช่วยลดช่องว่าง “ทางจิตใจ” ได้อย่างมหาศาล ขอฝากไว้ด้วยครับ.

“ซูม”

ยินดี “มหาเศรษฐี” 2566 รวยแล้ว “อย่าลืม” แบ่งปัน, คนรวย, คนจน, นิตยสาร, Forbes, อันดับ, ข่าว, ซูมซอกแซก, เจียรวนนท์, เจริญ สิริวัฒนภักดี