ผมจะติดตามลูกๆ หลานๆ ไปนอนค้างที่ริมทะเล ฉลองปิดเทอมสัก 4–5 วัน ต้องปั่นต้นฉบับล่วงหน้าแห้งๆ ไว้เช่นเคย
เผอิญเที่ยวนี้ผมไม่มี “มินิซีรีส์” หรือสารคดีเป็นชุดๆ 4-5 วันจบ แบบครั้งก่อนๆ ก็เลยต้องเขียนเรื่องทั่วๆ ไปแบบจบเป็นวันๆ และจบในตัวเองไปพลางๆ
ผมขอเริ่มด้วยเรื่อง “ต่างเจน” จึง “ต่างใจ” ที่ผมเขียนมาแล้ว 2 วัน พร้อมกับทิ้งท้ายในฉบับเมื่อวานในทำนองว่า…ถ้า “เจนอาวุโส” ของประเทศไทย โดยเฉพาะ เจนเอ็กซ์ (อายุ 43-58 ปี)+“เจนบี” (เบบี้บูม อายุ 59-77 ปี)+“เจน T” หรือเจน Traditionalist อนุรักษนิยมสุด) อายุตั้งแต่ 78 ไปถึง 98 ปี…ผนึกกำลังกันมาออกเสียงมากๆ
พรรคเพื่อไทย, พรรคภูมิใจไทย, พรรคประชาธิปัตย์ พรรคพลังประชารัฐ น่าจะได้อันดับ 1 ไล่เรียงไปจนถึงอันดับ 4 โดยพรรคของคนรุ่นใหม่คือ พรรคก้าวไกล น่าจะอยู่ในอันดับ 5 เท่านั้น
แต่ถ้าบรรดาคนไทย “เจนอาวุโส” ไม่ออกมามากๆ ในขณะที่ เจน Z เจน Y ของคนหนุ่มสาวและกลางคน เขาน่าจะออกมามากๆแน่นอน พรรคก้าวไกล อาจขยับมาได้ถึงอันดับ 3
ที่ผมวิเคราะห์ไปเช่นนี้ก็มิได้ใช้เหตุผลอะไรมาก นอกจากดูจำนวนประชากรในกลุ่มอายุนั้นๆ และสังเกตย้อนหลังไปถึงรสนิยมทางการเมือง ย้อนหลังไปในอดีตเมื่อ 4-8 ปีที่แล้วเป็นตัวตั้ง
แต่พอส่งต้นฉบับไปแล้วมาอ่านหนังสือพิมพ์วันรุ่งขึ้นพบหัวข่าวว่า โพลของพรรคก้าวไกลมาแรงมาก
แรงทั้งจากคำถามที่ว่า ท่านอยากได้ใครเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป? และคำถามที่ว่า ส.ส.เขตจะเลือกพรรคไหน? ไปจนถึง…ปาร์ตี้ลิสต์จะเลือกพรรคไหน?
ยิ่งการสำรวจหรือโพลของหนังสือพิมพ์แล้ว ยิ่งเห็นชัดว่า พรรคก้าวไกลแรงมากอย่างชนิดแซงพรรคเพื่อไทยที่เคยแรงในระยะแรกๆ ไปหลายๆ ช่วงตัวด้วยซ้ำในระยะหลังๆ
แม้ในทฤษฎีการทำโพลจะสอนไว้ว่า โพลที่ใช้วิธีถามผ่านสื่อจะเป็นฉบับใด ฉบับหนึ่งหรือสถานีใดสถานีหนึ่งจะไม่สามารถนำไปเป็นตัวแทนของประเทศ หรือสังคมในวงกว้างได้ทั้งหมด
เพราะคำถามของหนังสือพิมพ์ ก. ก็จะได้รับคำตอบจากคนอ่านหนังสือพิมพ์ ก. ซึ่งจะมีความเห็นคล้ายๆ กันเป็นส่วนใหญ่ จึงชอบที่จะอ่านหรือบอกรับเป็นสมาชิกหนังสือพิมพ์ฉบับนั้น
เช่นเดียวกับคำถามของ ทีวีช่อง ก. ก็จะได้คำตอบจากคนที่ชอบดูช่อง ก. ซึ่งก็จะชอบคล้ายๆ กัน จึงติดตามเป็นแฟนช่อง ก. อย่างเหนียวแน่น
ผลที่ได้จากการสำรวจในลักษณะนี้ ในเชิงวิชาการเขาจะถือว่าเป็นข้อมูลที่ควรรับไว้พิจารณาเท่านั้น หรือไม่ก็เป็นหนึ่งในข้อมูลที่เราจะต้องติดตามหรือค้นหาเพิ่มเติมต่อไป เพื่อให้เป็นข้อมูลที่ใช้แทนประเทศ หรือสังคมส่วนรวมได้อย่างแท้จริง
แต่จากการที่หนังสือพิมพ์หลายๆ ฉบับ ซึ่งมีคนอ่านหลายๆ กลุ่ม ได้แถลงผลสำรวจจากผู้อ่านในกลุ่มของตนออกมาอย่างคล้ายคลึงเช่นนี้ นับเป็นเรื่องที่จะต้องหมายเหตุไว้และควรให้ความใส่ใจอย่างจริงจัง
รวมทั้งควรสันนิษฐานและยอมรับไว้ก่อนเป็นเบื้องต้นว่า “กระแส” ของพรรคก้าวไกลน่าจะแรงมากๆ จริง
เป็นเหตุให้ผมซึ่งเรียนตามตรงว่าเป็นคนรุ่นเก่า “เจน T” เกิดความกังวลใจจนต้องนำมาเขียนทิ้งท้ายในฉบับเมื่อวานนี้ เชิญชวนชาว “เจนอาวุโส” ที่ยังเคลือบแคลงใจและไม่ไว้ใจในนโยบายบางข้อของพรรคก้าวไกล…ให้ออกมาลงคะแนนเสียงมากๆ
เพื่อเป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่า แนวทางการพัฒนาประเทศและแนวความคิดในการพิทักษ์รักษาขนบธรรมเนียมตลอดจนประเพณีดั้งเดิมของประเทศไทยที่เราใช้เราเชื่อและดำเนินการมาตลอดช่วงชีวิตของคนรุ่นเรานั้นถูกต้องแล้ว
หากจะมีสิ่งใดที่ยังหย่อนยานหรือขาดตกบกพร่องเป็นปัญหาก็เห็นด้วยที่จะมีการแก้ไขปรับปรุง แต่ต้องใช้สติปัญญาอย่างรอบคอบ
วันนี้ผมขออนุญาตที่จะเขียนกราบเรียนผู้อาวุโสทั่วประเทศไทยอีกครั้งว่า อย่าให้ “กระแส” กลายเป็นม่านบังตาที่จะทำให้คนไทยและประเทศไทยก้าวเดิน “หลงทาง” โดยเด็ดขาด
“กระแส” ทำให้คนกรุงเทพมหานครผิดหวังมาแล้วในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ที่ผ่านมา…ซึ่งก็พอทำเนาเพราะ กทม.ก็แค่ กทม. เป็นการบริหารส่วนท้องถิ่นประเภทหนึ่งเท่านั้น
แต่ครั้งนี้เรากำลังจะเลือกพรรคการเมืองและนักการเมืองที่จะเป็น “ผู้นำ” ประเทศ…สำคัญกว่ากันร้อยเท่าพันเท่า….โปรดอย่าเลือกตาม “กระแส” เด็ดขาด เพราะจะเสียหายไปทั้งประเทศไทย.
“ซูม”