6 กุมภาพันธ์ “วันมวยไทย” สืบสานรักษาและต่อยอด

วันนี้ (6 กุมภาพันธ์ 2566) เป็น “วันมวยไทย” ครับ มีการจัดงานเฉลิมฉลองในหลายๆจังหวัดเพื่อรำลึกถึงพระคุณของบรรพบุรุษไทย ที่ประดิษฐ์คิดค้น “ศิลปะการป้องกันตัว” ให้แก่ชนชาติไทยมาแต่โบราณกาล

ผมขอร่วมรำลึกและ “ไหว้ครู” มวยไทยด้วยคนนะครับ ในฐานะที่เป็น คนไทยเคยหัดมวยไทยมาบ้าง เช่นเดียวกับเด็กไทยในต่างจังหวัดรุ่นก่อน

ตามโปรแกรมที่เผยแพร่ไปยังสื่อมวลชนต่างๆ ระบุ ว่าวันนี้ที่ วัดตึก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จะมีพิธีครอบครู พิธีไหว้ครู และการโชว์ร่ายรำมวยไทย ทั้งจากครูมวยชาวไทยและชาวต่างประเทศที่มาสมัครเรียนกับครูไทย รวมถึงการโชว์แม่ไม้มวยไทยและคีตะมวยไทย อันหมายถึงการแสดงลีลามวยไทยประกอบดนตรี ฯลฯ

สาเหตุสำคัญที่ไปจัดงาน ณ วัดตึก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ก็เพราะ วัดนี้ในอดีตกาลเคยเป็นที่ประทับของ สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 หรือ “พระเจ้าเสือ” ที่ทราบกันดีว่ามักทรงปลอมแปลงพระองค์เป็นสามัญชนไปเปรียบมวย ขึ้นเวทีชกกับราษฎรที่เป็นนักมวยโด่งดังอยู่เสมอ

สำหรับการกำหนดให้วันที่ 6 กุมภาพันธ์ของทุกปีเป็น “วันมวยไทย” ก็สืบเนื่องมาจากข้อเสนอของกระทรวงวัฒนธรรมให้ใช้วันขึ้นครองราชย์ของสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 คือวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2245 เป็นวันมวยไทย และ คณะรัฐมนตรี ในยุคสมัยของนายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มีมติเห็นชอบในการประชุม เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2554…ก่อกำเนิด “วันมวยไทย” ขึ้นนับตั้งแต่บัดนั้น

ก่อนหน้านี้เคยมีการยกย่องให้วันที่ 17 มีนาคมของทุกปีเป็น “วันนักมวย” หรือบางครั้งสื่อมวลชนก็เรียกว่า “วันมวยไทย” เพื่อระลึกถึงวันที่ “นายขนมต้ม” เชลยศึกชาวไทยที่ถูกกวาดต้อนไปพม่า ภายหลังการสูญเสียกรุงศรีอยุธยา ครั้งที่ 2 ได้ขึ้นชกมวยต่อหน้าพระพักตร์ พระเจ้ามังระ เมื่อ 17 มีนาคม พ.ศ.2317 สามารถชนะมวยพม่าได้ถึง 10 คน

ผมไม่แน่ใจว่าจะเป็นสื่อมวลชน หรือหน่วยราชการใดได้หยิบยกวันที่ 17 มีนาคม ขึ้นมาประกาศให้เป็น “วันนักมวย” หรือ “วันมวยไทย” จำได้แต่ว่ามีการใช้กันอยู่นานพอสมควร จนผมเองก็ยังนึกว่าวันมวยไทยคือวันที่ 17 มีนาคมด้วยซํ้า

เมื่อข่าวออกมาตอนที่คณะนักมวยและผู้จัดงานวันมวยไทยปีนี้ไปโชว์ศิลปะที่ทำเนียบกับบิ๊กตู่เมื่อเร็วๆ นี้ พร้อมกับประกาศว่าจะมีงาน “วันมวยไทย” 6 ก.พ. ผมจึงงงๆ อยู่พอสมควร

ต้องกลับไปค้นดู วิกิพีเดีย จึงได้ทราบว่า ครม.ให้วันที่ 6 กุมภาพันธ์ เป็น “วันมวยไทย” ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น

ไม่เป็นไรครับ…ถือเป็นวันสำคัญและเป็นวันที่มีความหมายสำหรับมวยไทยเราทั้ง 2 วันนั่นแหละ…

ทุกวันนี้ “มวยไทย” อาจไม่ใช่เกมกีฬาที่ทำเงินแสนเงินล้านให้แก่นักกีฬาไทย หรือโปรโมเตอร์คนไทยอีกแล้ว (เพราะแทบไม่มีคนไทยเข้าไปดูการชกเลย จะมีนักพนันอยู่บ้างก็แค่หยิบมือเดียว)

แต่ “มวยไทย” ก็ยังเป็นที่ดึงดูดใจของนักท่องเที่ยวซึ่งจะแห่กันไปดูชมนัดละหลายร้อยคน เป็นรายได้หลักของสนามในปัจจุบันนี้

นอกจากนั้นยังเป็นที่นิยมและกล่าวขวัญทั่วโลก มีผู้คนทุกสัญชาติทั่วโลกมาเรียนมาฝึกฝนมวยไทยในประเทศไทยจำนวนมาก

เป็น Soft Power ตัวจริงเสียงจริงอีก Power หนึ่งของเรา

ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งที่มีข่าวว่าวันนี้ที่วัดตึกพระนครศรีอยุธยาจะมีการเสวนาในหัวข้อ “มวยไทย : ที่มาและความสำคัญกับการขึ้นทะเบียนยูเนสโก” รวมอยู่ด้วย

นอกจากเห็นด้วยแล้วคงต้องยุให้รีบดำเนินการขึ้นทะเบียนกับยูเนสโกโดยเร็วที่สุด (ถ้ายังไม่ได้เริ่มดำเนินการใดๆ)

ผมเชื่อว่าจะต้องมี “กขค.” หรือก้างขวางคอแน่นอน ไม่ต้องบอกว่าใครจะมาคัดค้าน เชื่อว่าท่านผู้อ่านคงจะเดาได้อยู่แล้ว

“มวยไทย” คือ “มรดกไทย” ที่ยินดีมอบให้เป็น “มรดกโลก” แต่จะไม่ยอมให้ใครมา “เคลม”…ฝากไว้ด้วยนะครับ

ป.ล. วันนี้ยังมีการจัดงาน “วันมวยไทย” ที่ หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ด้วยนะครับ ในชื่องานว่า Amazing Muay Thai Festival 2023 ณ อุทยานราชภักดิ์ วันนี้เป็นวันสุดท้าย ทราบว่าภายในงานจะมีพิธี “ไหว้ครู” มวยไทยที่ยิ่งใหญ่มาก มาจากทั่วโลก กว่า 5,000 คน เพื่อทำสถิติโลกลง กินเนสส์บุ๊ก หัวค่ำวันนี้.

“ซูม”

6 กุมภาพันธ์ “วันมวยไทย” สืบสานรักษาและต่อยอด, นักมวย, มรดกไทย, Soft Power, พระเจ้าเสือ, นายขนมต้ม, ไหว้ครู, ศิลปะการป้องกันตัว, ซูมซอกแซก