“พงศกร แปยอ” สร้างประวัติศาสตร์คว้าเหรียญทองที่ 3 ในพาราลิมปิก 2020 หลังคว้าชัยในประเภท วีลแชร์เรซซิ่ง 800 เมตร คลาส T53 รับเงินอัดฉีดไปแล้วรวม 21.6 ล้านบาท
การแข่งชันวีลแชร์เรซซิ่ง 800 เมตร คลาส T53 รอบชิงชนะเลิศ ท่ามกลางสายฝน มี พงศกร แปยอ ที่ได้ 2 เหรียญทองมาแล้วในประเภท 400 เมตร และ 100 เมตร และ พิเชษฐ์ กรุงเกตุ กับ มะสบือรี อาเเซ 3 นักกีฬาไทย ลงแข่งขัน
ปรากฎว่า พงศกร แปยอ ยังโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมซิ่งเข้าเส้นชัยเป็นคนแรก ด้วยเวลา 1.36.07 วินาที ทำลายสถิติพาราลิมปิกทำลายสถิติพาราลิมปิกเกมส์ของ หลี่ ฮู เฉา จากจีน ที่ทำไว้ 1.36.30 นาที เมื่อปี 2008 ส่วน พิเชษฐ์ เข้าอันดับที่ 5 เวลา 1.40.09 วินาที และ มะสบือรี อาเเซ เข้าที่ 7 เวลา 1.42.09 วินาที
พงศกร คว้าชัยวีลแชร์เรซซิ่ง 800 เมตร ซิวทองที่ 3 ให้ตัวเอง โดยเหรียญทองนี้ ถือเป็นเหรียญทองที่ 4 ของทัพนักกีฬาไทย และเป็นเหรียญทองที่ 5 ในพาราลิมปิกของ พงศกร นับตั้งแต่พาราลิมปิก 2016 ทำให้เวลานี้ พงศกร หนุ่มขอนแก่นรับเงินอัดฉีดจากกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติในพาราลิมปิก 2020 เป็นจำนวน 21.6 ล้านบาท (เหรียญทองละ 7.2 ล้านบาท)
หลังเกม พงศกร แปยอ นักวีลแชร์เรซซิ่งทีมชาติไทย เจ้าของ 3 เหรียญทอง “พาราลิมปิกเกมส์ 2020” เปิดใจว่า “มันเป็นอะไรที่สุดยอดมากๆ ที่คว้าเหรียญทอง ในรายการ 800 ม. มาครองได้อีกเหรียญ และเป็นเหรียญที่ 3 ก่อนอื่นต้องยอมรับว่า ก่อนมาผมไม่ตั้งความหวังไว้ว่าจะได้มากขนาดนี้ เพราะก่อนมาผมตั้งเป้าหมายไว้แค่ต้องการเหรียญทอง และขอทำลายสถิติโลก รายการ 400 ม. ซึ่งเป็นรายการความหวังของผมแค่นั้นก็พอ แต่มาได้ถึง 3 เหรียญทองต้องบอกว่ามันคุ้มค่ามากๆ กับการฝึกซ้อมมานานเป็นปี”
“การฝึกซ้อมที่ยาวนานต่อเนื่องทำให้ผมมีความรู้สึกอัดอั้นมากๆ เพราะฝึกซ้อมอย่างเดียว ไม่ได้ออกไปแข่งขันในรายการต่างประเทศเลยในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา ทำให้รู้สึกว่ามีความกระหายอยากที่ลงแข่งขันและอยากชนะในทุกๆ รายการที่ลงแข่งขัน”
“ทำให้ครั้งนี้มีความมุ่งมั่นมากขึ้นกว่าทุกครั้ง แต่อย่างไรก็ดีคนที่ทำให้ผมมาถึงวันนี้ได้คือ โค้ช, พี่ๆ น้องๆ ทีมวีลแชร์เรซซิ่ง รวมถึงครอบครัวผม ที่เป็นกำลังใจให้กับผมมาตลอด และที่ขาดไม่ได้คือ สิงห์ คอร์เปอเรชั่น พาราลิมปิกไทย, สมาคมกีฬาคนพิการฯ รวมไปถึงแฟนกีฬาชาวไทยทุกคนที่เป็นกำลังใจให้พวกเรามาตลอด”
สำหรับ พงศกร แปยอ เป็นนักกีฬาพาราไทยคนแรกที่สามารถคว้าเหรียญทองได้ถึง 3 เหรียญ จากการแข่งขันพาราลิมปิกครั้งเดียว ทำให้ยอดเหรียญทองพาราลิมปิกของ พงศกร เพิ่มเป็น 5 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน จากการแข่งขันพาราลิมปิกเพียง 2 ครั้ง
ทั้งนี้ พงศร จะได้รับเงินรางวัลตอบแทนความสำเร็จจากรัฐบาลไทยผ่านกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ตามหลักเกณฑ์ โดย พงศกร มีสิทธิ์เลือกรับเงินรางวัล 2 เงื่อนไขตามที่กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติระบุในประกาศ
เงื่อนไขแรก เหรียญทอง จะได้รับเงินอัดฉีด 7,200,000 บาท, เหรียญเงิน 4,800,000 บาท และเหรียญทองแดง 3,000,000 บาท โดยเงื่อนไขนี้จะแบ่งจ่าย ซึ่งจ่ายเป็นก้อนให้นักกีฬาก่อนในอัตราร้อยละ 50 ส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 50 จะจ่ายเป็นรายเดือน ภายในระยะเวลา 4 ปี
ส่วนเงื่อนไขที่สอง จ่ายครั้งเดียวเป็นก้อนเดียว แต่จะได้รับในอัตราที่น้อยลง โดยเหรียญทองจะได้รับเงินรางวัลทั้งสิ้น 6,000,000 บาท, เหรียญเงิน 4,000,000 บาท และเหรียญทองแดง 2,500,000 บาท สรุปรวม 3 เหรียญทอง รับเงินรางวัลจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ เป็นเงิน 21,600,000 บาท
ขอบคุณข้อมูล/ภาพ : www.thairath.co.th