นโยบาย “ลูกมากยากจน” “กลับตาลปัตร” ใน 50 ปี

ก่อนวันวาเลนไทน์ 14 กุมภาพันธ์ปีนี้สักวันหรือ 2 วันประมาณนี้ ผมอ่านเจอข่าวที่หนังสือพิมพ์หลายฉบับลงไว้เป็นข่าวเล็กๆ แต่สำหรับผมแล้วถือเป็นข่าวใหญ่เลยทีเดียว

เพราะเป็นข่าวที่สะกิดความหลังของผมขึ้นมาอย่างเต็มเปา…เป็นความหลังที่ผมรู้สึกเจ็บปวดอยู่บ้างอย่างลึกๆ ในฐานะที่เคยเขียนเชียร์งานของชาติงานหนึ่งอย่างเต็มที่ และเคยดีใจเป็นอย่างยิ่งที่งานดังกล่าวประสบความสำเร็จอย่างใหญ่หลวง

แต่ในที่สุดความสำเร็จอันใหญ่หลวงนั้นเองกลับกลายเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศไทย ที่จำเป็นจะต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วนในปัจจุบัน

ลองอ่านเนื้อข่าวเสียก่อนนะครับแถลงโดยท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข สาธิต ปิตุเตชะ และ คุณหมอสุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย ว่าด้วยกิจกรรมพิเศษ “Life Balance Smart Family ชีวิตสมดุลครอบครัวคุณภาพ” ที่กรมอนามัยจัดขึ้นในช่วงเทศกาลวาเลนไทน์ปีนี้เป็นการเฉพาะ

รัฐมนตรีสาธิตเริ่มด้วยการบรรยายถึงสาเหตุที่ต้องมีกิจกรรมดังกล่าวนี้ก็เพราะจำนวนการเกิดของเด็กไทยลดลงทุกปี และปี 2563 ที่ผ่านมา เด็กไทยเกิดต่ำกว่า 600,000 คนเป็นปีแรก

เป็นสถานการณ์ที่น่าห่วงใยมาก เพราะจากการที่เด็กเกิดน้อยลงและคนไทยอายุยืนมากขึ้น ทำให้โครงสร้างประชากรของประเทศไทยเปลี่ยนไป กลายเป็น “สังคมผู้สูงอายุ” ดังที่ทราบกันดีอยู่แล้ว

รมช.สาธิตกล่าวว่า สาเหตุที่เด็กเกิดน้อยลงเป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงทางสังคมของคนรุ่นใหม่ที่มีค่านิยมในการอยู่เป็นโสด แต่งงานช้า หรือไม่แต่งงานเลย หรือมาแต่งตอนอายุมากทำให้มีบุตรยาก

จากสถานการณ์ดังกล่าว คณะรัฐมนตรีจึงมีมติเห็นชอบ ยุทธศาสตร์การพัฒนาอนามัยการเจริญพันธุ์แห่งชาติ เพื่อให้เกิดการส่งเสริมการเกิดและการเจริญเติบโตอย่างมีคุณภาพ อันเป็นนโยบายที่จะดำเนินร่วมกันของหลายหน่วย โดยมีกระทรวงสาธารณสุขเป็นแกนหลัก

ทางกระทรวงโดยกรมอนามัยก็ได้ดำเนินนโยบายขับเคลื่อนการให้เด็กไทยเกิดอย่างมีคุณภาพเพิ่มขึ้นมาโดยตลอดในช่วงปีที่ผ่านมา

สำหรับปีนี้กิจกรรมพิเศษที่จะจัดขึ้นแยกออกเป็น 2 กิจกรรมย่อยด้วยกัน ได้แก่…กิจกรรมแรก โครงการ “คนโสดมีตติ้ง” เพื่อเปิดโอกาสให้คนโสดที่โสดโดยไม่ตั้งใจได้พบปะพูดคุยกัน ได้เรียนรู้ในการสร้างมิตรภาพต่อกัน

กิจกรรมที่สองสำหรับคู่รักที่เตรียมแต่งงานและพร้อมจะมีบุตร จะได้ลุ้นรับคูปองตรวจสุขภาพก่อนมีบุตร การตรวจคัดกรองภาวะมีบุตรยาก การเข้ารับการรักษาภาวะมีบุตรยาก ฯลฯ

ขอเชิญทั้งคนโสดชายหญิง และคู่รักที่เตรียมแต่งงานเข้าสมัครลงทะเบียนร่วมกิจกรรมได้ที่เว็บไซต์ www.wiwahproject.com ตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 มีนาคม 2564

นี่คือรายละเอียดโดยสรุปที่ท่าน รมช.สาธิตแถลงข่าว ซึ่งผมขอนำมาลงต่อเพื่อเป็นการ “เยียวยา” ความเจ็บปวดเล็กๆ ที่ซ่อนอยู่ลึกๆ ในใจผม ที่ผมเกริ่นไว้ข้างต้นว่างั้นเถอะครับ

ในฐานะที่ผมเป็นคนหนึ่งที่เห็นด้วยกับ นโยบาย ลดอัตราเพิ่ม ของประชากรไทยตามเจตนารมณ์ของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 2 พ.ศ.2510-2514

ช่วงนั้นอัตราเพิ่มของประเทศไทยน่าจะสูงถึงร้อยละ 3 ที่หลายๆ ฝ่ายเป็นห่วงมากว่าสูงมากเกินไปต้องลดลงให้ได้

จำได้ว่าผมช่วยเขียนสนับสนุนนโยบายวางแผนครอบครัว “ลูกมากยากจน” เพื่อช่วยลดอัตราเพิ่มประชากรหลายครั้งหลายหนผ่านคอลัมน์นี้

50 ปี ผ่านไปไวเหมือนโกหก…ใครจะไปนึกล่ะว่านโยบายที่ผมเชียร์และประสบความสำเร็จใหญ่หลวง เพราะความสามารถของกระทรวงสาธารณสุข และภาคเอกชนไทย นำโดยคุณ มีชัย วีระไวทยะ และ ฯลฯ จะกลาย “เป็นปัญหาใหม่” และ “ใหญ่หลวง” ของประเทศไทย

ผมจึงขออนุญาตเขียนแก้ตัวในวันนี้ เชิญชวนให้ท่านที่มีโอกาสจะเพิ่มประชากรอย่างมีคุณภาพ…โปรดช่วยกันเพิ่มประชากรให้แก่ประเทศไทยของเราด้วยเถิด

อย่าลืมไปสมัครเข้าโครงการ “คนโสดมีตติ้ง” ของ รมช.สาธิตเยอะๆ นะครับ และขออวยพรล่วงหน้าให้กลายเป็นคน “หายโสด” มีโอกาสช่วยเพิ่มประชากรได้ในที่สุดเมื่อจบโครงการ.

“ซูม”

ข่าว, วันวาเลนไทน์, เทศกาล, นโยบาย, การเกิดของเด็กไทย, ประชากร, สังคมผู้สูงอายุ, คนโสด, วางแผนครอบครัว, ซูมซอกแซก