ยินดี 2 เด้ง “รมว.พิชัย” 19% ภาษีทรัมป์ + ปธ.มวยเอเชีย
แม้ผมจะไม่เห็นด้วยกับนโยบายเรือธงหลายๆ นโยบายของรัฐบาลเพื่อไทย โดยเฉพาะนโยบายแจกเงินดิจิทัล และนโยบายสถานบันเทิงครบวงจรที่แฝงเหลี่ยมบ่อนพนันเอาไว้ด้วย ที่ผมคัดค้านอย่างหัวชนฝาผ่านคอลัมน์นี้
แม้ผมจะไม่เห็นด้วยกับนโยบายเรือธงหลายๆ นโยบายของรัฐบาลเพื่อไทย โดยเฉพาะนโยบายแจกเงินดิจิทัล และนโยบายสถานบันเทิงครบวงจรที่แฝงเหลี่ยมบ่อนพนันเอาไว้ด้วย ที่ผมคัดค้านอย่างหัวชนฝาผ่านคอลัมน์นี้
เมื่อเช้าวันเสาร์ที่ 2 สิงหาคม สำนักข่าวออนไลน์เสนอข่าวอย่างพร้อมเพรียงกันว่า รัฐบาลกัมพูชาเตรียมเสนอชื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เข้าชิงรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ หลังจากช่วยทำให้การปะทะระหว่างกัมพูชากับไทยหยุดลง
ชายแดนหยุดยิงแล้ว! แม้ยังไว้วางใจเขมรมิได้ ต้องระมัดระวังทุกฝีก้าว แต่ประเทศชาติต้องเดินหน้าต่อไป.. รายการ “เสาร์สารพัน” ชวนเที่ยวงาน ชวนอ่านหนังสือ และฟังเพลงย้อนยุค เพื่อความสุขอย่างมีสาระ กลับมาพบท่านผู้อ่านเช่นเคย
ใน “วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี” ฉบับภาษาอังกฤษ ลงประวัตินายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เอาไว้ยาวเหยียดพอสมควร มีเนื้อความสำคัญบางส่วนดังนี้
ในที่สุดการประชุมนัดพิเศษระหว่างรักษาการนายกรัฐมนตรีไทย ภูมิธรรม เวชยชัย กับนายกรัฐมนตรี ฮุน มาเนต ของกัมพูชา โดยมีนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซียเป็นกาวใจ ก็จบลงด้วยมติให้ทั้งสองฝ่ายกัมพูชา-ไทยหยุดยิงทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข
ขณะที่ผมเขียนต้นฉบับวันนี้ยังไม่ทราบว่าผลการประชุมเพื่อหาแนวทางไปสู่สันติภาพระหว่างไทยกับกัมพูชา ตามคำเชื้อเชิญของนายกรัฐมนตรีมาเลเซียและคำขอร้องแกมครูเรื่องเจรจาภาษีของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเริ่มขึ้น ณ บ้านพักนายกฯมาเลเซียในบ่ายวันจันทร์ที่ 28 กรกฎาคม…จะลงเอยอย่างไร?
เมื่อสักเกือบเที่ยงคืนของคืนวันเสาร์ที่ 26 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันที่ 3 ของการปะทะระหว่างกัมพูชากับไทย โดยกัมพูชาเป็นฝ่ายยิงก่อนดังที่ทั่วโลกรับรู้รับทราบเป็นอย่างดีแล้วนั่นเอง
วันจันทร์ที่ 28 กรกฎาคม 2568 ตรงกับวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ซึ่งเจริญพระชนมพรรษา 73 พรรษาในวันนี้
ผมเขียนต้นฉบับวันนี้ในช่วงเวลาบ่ายของ วันพฤหัสบดีที่ 24 กรกฎาคม 2568 ซึ่งตามคิวแล้วจะเป็นเรื่องราวของ “เสาร์สารพัน” ชวนเที่ยวงานชวนอ่านหนังสือ แนะนำงานน่าเที่ยวและหนังสือน่าอ่าน เปลี่ยน บรรยากาศ สัปดาห์ละครั้ง
แถลงออกมาล่าสุดอีก 2 ประเทศแล้วครับ สำหรับประเทศในเอเซียที่รอคอยผลเจรจาเรื่องอัตราภาษีนำเข้าว่าสหรัฐฯ จะเรียกเก็บใหม่ในอัตรากี่เปอร์เซ็นต์ … ได้แก่ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น