ให้กำลังใจ “ประเทศไทย” เศรษฐกิจปีหน้าแย่กว่าปีนี้?

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมานี้เอง ท่านเลขาธิการสภาพัฒน์ น.ส.อ้อนฟ้า เวชชาชีวะ ได้เปิดเผยถึงรายงานภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาส 3 ของปี 2568 ออกมาเรียบร้อยแล้ว

ว่าการขยายตัวอยู่ที่ 1.2 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นชะลอมาจากไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ที่ขยายตัวร้อยละ 2.8 ไปพอสมควรทีเดียว

ทำให้สภาพัฒน์คาดว่าปี 2568 นี้ เมื่อรวมไตรมาสสุดท้ายเข้าไปด้วย จะขยายตัวได้ร้อยละ 2 ลดลงจากที่เคยขยายร้อยละ 2.5 ในปี 2567

ผมขออนุญาตไม่ลงรายละเอียดนะครับว่า เหตุที่ไตรมาส 3 ขยายตัวเพียงร้อยละ 1.2 มาจากตัวชี้วัดอะไรบ้าง เพราะตั้งใจจะย้ำกับท่านผู้อ่านว่าอย่างไรเสียอัตราขยายตัวร้อยละ 2 ตลอดปี 2568 ก็เป็นอัตราเดิมที่สภาพัฒน์คาดไว้เมื่อตอนแถลงภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2 ในเดือนสิงหาคมมาก่อนแล้ว

ท่านเลขาธิการสภาพัฒน์กล่าวด้วยว่า ผลกระทบกระเทือนจากอัตราภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ที่จะปรับใหม่ตามนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ นั้นจะส่งผลชัดเจนในปีหน้า

ทำให้สภาพัฒน์มองว่าในปี 2569 เศรษฐกิจเราจะแผ่วลงกว่านี้อีกโดยจะมีแนวโน้มในการขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 1.2-2.2 และมีค่ากลางประมาณการอยู่ที่ร้อยละ 1.7

ซึ่งถ้าเป็นตามที่คาดไว้ก็จะต่ำกว่าร้อยละ 2 ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปี 2568 ดังที่ประเมินไว้หากจะใช้สำนวนของนักวิเคราะห์เศรษฐกิจบางท่านก็คงต้องใช้ว่า

“ปีนี้เผาหลอกปีหน้าเผาจริง” ที่เราได้ยินบ่อยๆ นั่นเองสำหรับผมไม่เห็นด้วยกับคำเปรียบเปรยนี้ และจะเขียนเป็นเชิงโต้แย้งเอาไว้หลายครั้ง …ไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไรแต่ประเทศไทยก็จะไม่มีวันตายและจะยังอยู่ได้ตลอดไป

เมื่อไม่มีการตายเกิดขึ้น ก็จะไม่มี “เผาหลอก” หรือ “เผาจริง” เกิดขึ้น! แต่แน่ละเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ลงย่อมจะนำผลกระทบมาสู่คนหมู่มาก ที่รายได้จะต้องลดลง หรือบางครั้งก็จะไม่มีรายได้เลยเพราะตกงานบ้าง หรือผลิตอะไรออกมา (โดยเฉพาะสินค้าเกษตร) ขายไม่ออกบ้าง ฯลฯ

ผมก็จะเล่าความจริงว่า แม้เศรษฐกิจไทยในปีใดปีหนึ่งจะขยายตัวต่ำลง แต่ในปีที่ขยายตัวสูงนั้นมูลค่าทางเศรษฐกิจมักจะไปตกอยู่ในกำมือของคนรวย ซึ่งอาจจะมี 10 หรือ 20 เปอร์เซ็นต์ ของประชากรในประเทศ

ทำให้คนกลุ่มนี้ร่ำรวยอยู่กลุ่มเดียวจึงขอให้คนรวยเหล่านี้คิดถึงคนจน ยื่นมือลงมาช่วยเหลือคนยากจนอย่าให้อดตาย อย่าให้เกิดความเดือดร้อน เพราะไม่มีรายได้หรือเพราะไม่มีเงินซื้อข้าวปลาอาหารอย่างเด็ดขาดช่วยกระจายความรวยของท่านลงมาช่วยคนยากจนให้อยู่รอดไปก่อน…

จะช่วยโดยตั้งโรงทานให้มีอาหารรับประทานไปวันๆ ก็ได้ หรือจะช่วยลงทุนต่อในสิ่งที่สามารถลงทุนได้เพื่อให้คนจนมีงานทำต่อไปก็เป็นกุศลอย่างยิ่งขอให้คนรวยงดการเที่ยวเมืองนอก งดซื้อของฟุ่มเฟือย จากต่างประเทศ หันมาเที่ยวเมืองไทยโดยไปต่างจังหวัด ต่างอำเภอให้มากขึ้น

หันมาใช้สินค้าที่ผลิตในเมืองไทยมากขึ้นรอวัน รอจังหวะ เดี๋ยวเศรษฐกิจก็จะฟื้นกลับคืนมา เพราะเศรษฐกิจมันมีวงจรของมัน เดี๋ยวเฟ้อเดี๋ยวฟุบ…ปีหน้าอาจจะยังฟุบอยู่

แต่ปีโน้นหรือปีถัดๆ ไปก็คงจะดีขึ้นครับ! อ่านรายงานเศรษฐกิจล่าสุดของสภาพัฒน์แล้ว ก็คงต้องกลับไปสู่ข้อเสนอเก่าๆ ของผมอีกหน…อาจจะเชย อาจไม่ทันสมัยแต่มันคือหนทางอยู่รอดของประเทศไทยก่อนอื่นอย่าไปกลัวเผาหลอกหรือเผาจริง…

เพราะประเทศไทยไม่เคยตาย ขอให้เชื่อว่าพอถึงที่สุด ด้วยทฤษฎี “เมตตากรุณา” ที่มีอยู่เปี่ยมล้นในสังคมไทยจะทำให้ประเทศไทยของเราอยู่ได้สรุปว่า

“ท้อ” ได้ที่สภาพัฒน์คาดว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะโตแค่ร้อยละ 2 และปีหน้าจะหนักกว่าอีก ค่ากลางอยู่ที่ร้อยละ 1.7 เท่านั้น

แต่อย่า “ถอย” นะครับ…จะบ่นจะด่ารัฐบาลเพื่อหาทางระบายเสียบ้างก็เชิญครับ…เสร็จแล้วก็ตะโกน ไทยแลนด์สู้สู้ไทยแลนด์สู้ตายกันต่อไป.

“ซูม”บทความเศรษฐกิจไทย 2568 รายงานสภาพัฒน์ไตรมาส 3 และแนวโน้มปีหน้า